กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--IR network
บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS โชว์ผลงานสุดประทับใจ โดยในปี 2553 มีกำไรสุทธิมากถึง 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 886% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าที่ทำกำไรได้เพียง 19 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 ปี ในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น “ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ระบุเป็นผลมาจากการร่วมแรงกายและแรงใจของทีมงานทุกคนที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ พร้อมเผยแผนการรุกธุรกิจปี 2554 เตรียมเพิ่มโปรดักส์ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้ลดต่ำลงอย่างมีประสิทธิภาพ ระบุเป้าหมายปีนี้ยังขอเป็นโบรกเกอร์ติดอันดับ TOP3 ของไทย
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) เปิดเผยถึงผลประกอบการในรอบปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ว่าสามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 194.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 886.48 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 19.67 ล้านบาท และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีกำไรสะสม จำนวน 386.31 ล้านบาท
ทั้งนี้ CGS มีรายได้รวมสำหรับปี 2553 จำนวน 1,611.47 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจำนวน 1,292 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจำนวน16.54 ล้านบาท กำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจำนวน 165.19 ล้านบาทรายได้จากดอกเบี้ยรับและเงินปันผลและดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จำนวน 85.28 ล้านบาทส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 45.76 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ จำนวน 6.70 ล้านบาท ซึ่งทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 713.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.55 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมจำนวน 897.52 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2554 ได้มีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรสะสมจากผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เพื่อจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2554 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 เมษายน 2554 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 21 เมษายน 2554
“ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ CGS สามารถสร้างผลกำไรสุทธิได้มากถึง 194 ล้านบาท ซึ่งต้องยกให้เป็นความดีของพนักงานของบริษัททุกๆ ที่มีความตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่และจากผลงานที่น่าประทับใจนี้คณะกรรมการของบริษัทก็ได้มีมติให้เสนอผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ยืนเคียงข้างกับบริษัทมาโดยตลอด และการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 ปีของบริษัทเลยทีเดียว โดยจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท”
เขากล่าวต่อถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า CGS จะมีการเพิ่มโปรดักส์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามนโยบายของการเป็นโบรกเกอร์ประเภท One Stop Service เช่น ธุรกิจ “SBL” คือ การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ เพื่อให้สามารถบริการและตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะบริหารต้นทุนให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำระบบเทคโนโลยี เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำงานมากขึ้นและช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญทีเดียว
“สำหรับภาพโดยรวมของผลประกอบการในปี 2554 เชื่อว่าน่าจะขยับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2553 ที่ผ่านมา ตามภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยที่มีแนวโน้มขยับตัวดีเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยของบริษัทคาดว่า SET INDEX ปีนี้จะไต่ระดับขึ้นไปถึง 1200 จุดได้และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณกว่า 20,000 ล้านบาทต่อวันซึ่งจะทำให้รายได้ในส่วนของ Brokerage ขยับตัวดีตามไปด้วย พร้อมกันนี้ CGS ยังคงวางเป้าหมายไว้ว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ในอันดับต้นๆ ของประเทศโดยคาดว่า CGS จะยังอยู่ใน TOP3 เหมือนเช่นที่ผ่านมา” ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด