กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
-ดึงGfabบริษัทสถาปนิกชื่อดังเนรมิตดีไซน์พร้อมชูจุดขายโครงการสีเขียวดึงกำลังซื้อกลุ่มไฮเอนด์—
สุโขทัยแคปปิตอลบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพระดับไฮเอนด์ประกาศเปิดตัวโครงการ“โมดีน่าคอนโดมิเนียมแอนด์พูลวิลล่าปราณบุรี”(MODENA Condominium & Pool Villas, Pranburi) มูลค่าโครงการ400 ล้านบาทพร้อมชูจุดขายการออกแบบดีไซน์ โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมและมอบบริการคอนเซียจระดับห้าดาวตอบรับทุกความต้องการของลูกค้า
มร. จอนเพลทกรรมการผู้จัดการบริษัทสุโขทัยแคปปิตอลจำกัดเปิดเผยว่า“โมดีน่าตั้งอยู่ในอำเภอปราณบุรี บนเนื้อที่ 2 ไร่ 21 ตารางวา ได้บริษัท Gfabบริษัทออกแบบชั้นนำมาออกแบบโครงการ โดย Gfabได้ออกแบบโครงการชื่อดังอย่าง โฟร์ซีซั่น อูบุด (บาหลี), Samujanaเกาะสมุย และ Istana ภูเก็ต ซึ่งโมดีน่านับได้ว่าเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแห่งแรกในปราณบุรีที่ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชื่อดังระดับนานาชาติ”
โดยโครงการประกอบด้วย 31 ยูนิตแบ่งเป็น วิลล่าหรู4 ยูนิตขนาด2 ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว และคอนโดมิเนียม27 ยูนิตมีให้เลือก1-3 ห้องนอนเสนอขายในระดับราคาตั้งแต่3.4 —26.8 ล้านบาท โดยแทบทุกยูนิตสามารถมองเห็นความงดงามของทะเลและวิวของภูเขาได้อีกด้วย
รูปแบบการก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจากการอยู่อาศัยแบบติดชายทะเล และจับแก่นสำคัญของความหรูหราที่สัมผัสได้ (BAREFOOT LUXURY) มร.จอน เพลทอธิบาย “สำหรับทีมออกแบบของเรา Barefoot Luxury บ่งบอกถึงการใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ทอย่างแท้จริง สถานที่ตั้งและการออกแบบเป็นสิ่งที่ทำให้โมดีน่าน่าสนใจ เราได้สร้างมุมสงบ เพื่อหนีจากความยุ่งยากของการใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่ซึ่งสิ่งเรียบง่ายเหล่านี้คือนิยามของของคำว่าความหรูหรา”
สิ่งที่ลงตัวอีกอย่างของโครงการเราคือการที่ได้ Gfabมาออกแบบ “เราต้องการสถาปนิกที่เข้าใจแนวคิดของ tropical design สมัยใหม่อย่างแท้จริง”มร.จอน เพลท กล่าว “Gfabยังออกแบบโดยตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเราต้องการโครงการที่สร้างเพื่ออนาคต ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของโมดีน่านับว่ามากเกินกว่าความต้องการมาตรฐานโลก ปัจจุบันนักลงทุนเริ่มคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราจึงมีความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆที่ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประเทศไทยให้แก่ลูกค้า ด้วยโครงการที่โดดเด่น และไม่เหมือนใคร ในบริเวณที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม
“โมดีน่า ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ปราณบุรีโครงการระดับไฮเอนด์ต่างร่วมมือกันเพื่อพัฒนาโครงการให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว เรามีการนำระบบ Gray Water Recycling เข้ามาใช้ พร้อมทั้งเลือกใช้วัสดุที่ลดการใช้พลังงานภายในโครงการ โดยเราสามารถลดอุณหภูมิภายในโครงการได้กว่า 30% นอกจากนี้ Skylight ยังเป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่ทำให้เราใช้แสงธรรมชาติได้ในเวลากลางวัน มีพื้นที่ส่วนกลางให้มากถึง 50% ของพื้นที่โดยรวม ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสบรรยากาศความเป็นธรรมชาติของปราณบุรีได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดที่ โมดีน่า” มร. จอน เพลท กล่าว
อนาคตที่สดใสของปราณบุรี
เพื่อนบ้านรีสอร์ทระดับหรูหลายแห่ง อาทิEvason Six Senses, AleentaและVilla Marocได้รับการพัฒนาอย่างดีมาจนกระทั่งปัจจุบัน โมดีน่าพร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าร่วมพัฒนาตลาดไฮเอนด์ในปราณบุรี
ด้วยระยะเวลาเดินทางเพียง 2ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางบายพาส (ไม่ต้องผ่านตัวเมืองชะอำและหัวหิน) ทำให้ปัจจุบันปราณบุรี ถือเป็นหัวหินแห่งที่ 2ที่มากด้วยธรรมชาติและไม่มีการจราจรที่ติดขัด
มร. จอน เพลทยังได้กล่าวถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยภาพลักษณ์ที่ดีในเขตปราณบุรี “ปราณบุรียังถือเป็นพื้นที่ที่มีความบริสุทธิ์อยู่มาก เนื่องจากยังไม่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ โดยสำนักงานเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (DASTA)เช่นเดียวกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้ปราณบุรีเป็นหนึ่งในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน นอกจากนี้ ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายการใช้พื้นที่และความเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีจิตสำนึกที่ดีอย่างเรา ทำให้นี่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่การเติบโตในบริเวณปราณบุรีนี้จะเป็นไปอย่างยั่งยืน และมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ปี 2554 ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เติบโตเต็มที่และพร้อมที่จะพัฒนาต่อไปเพื่อคุณภาพ โมดีน่าสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ และจะเป็นจุดเด่นให้แก่ปราณบุรี อีกทั้งจะเพิ่มมาตรฐานให้แก่โครงการคู่แข่งเพื่อจะได้พัฒนาโครงการดีๆให้แก่ปราณบุรีในภายภาคหน้า