กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--วิวาลดี้ พับบลิค รีเลชั่นส์
ทีเอ็นทีแอร์เวย์ และ บริษัท กุ๊กเกนไฮม์ อาวิเอชั่น พาร์ทเนอร์ส จำกัด ได้ตกลงทำสัญญาการส่งมอบและการเช่าเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาดใหญ่รุ่นโบอิ้ง 777-200 ลำใหม่จำนวนสามลำ โดยเครื่องบินลำแรกจะถูกส่งมอบและเริ่มให้บริการได้ในเดือนกรกฎาคม 2554 ส่วนอีกสองลำจะสามารถให้บริการได้ก่อนสิ้นปี 2554
เครื่องบินขนส่งรุ่นโบอิ้ง 777 จะถูกนำมาให้บริการขนส่งสินค้าระยะไกลระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย ซึ่งในปัจจุบัน ทีเอ็นทีใช้เครื่องบินขนส่งรุ่นโบอิ้ง B747-400ERF จำนวนสี่ลำในการให้บริการบนเส้นทางดังกล่าว โดยสองลำเป็นของบริษัทและอีกสองลำเป็นสัญญาการเช่าใช้งานระยะสั้น เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 777 ลำใหม่รุ่นนี้จะช่วยลดข้อจำกัดในการขนส่งเพื่อการพาณิชย์ระหว่างท่ารับสินค้าและเรื่องความจุในการขนส่งสินค้าที่อยู่นอกเหนือจากที่ระบุในสัญญาระยะสั้น โดยจะช่วยเพิ่มสมรรถนะความจุของบริการขนส่งเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทในภูมิภาคเอเชียต่อไป ในอนาคต
เครื่องบินขนส่งรุ่นโบอิ้ง 777 ยังมีอัตราน้ำหนักบรรทุกสินค้าที่ให้ความคุ้มค่าในระดับสูงสุดอยู่ที่เพียง 107 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นโบอิ้ง 747 ซึ่งต้องมีน้ำหนักสูงถึง 117 ตัน ดังนั้น สมรรถนะของรุ่นโบอิ้ง 777 จึงมีความ โดดเด่นมาก เนื่องจากมีอัตราน้ำหนักบรรทุกสำหรับการขนส่งที่มีระยะทางไกลกว่า 13,000 กิโลเมตรที่คุ้มค่ามากกว่ารุ่นโบอิ้ง 747
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ตกลงทำสัญญากับบริษัทกุ๊กเกนไฮม์ในครั้งนี้ ซึ่งเรากำลังเฝ้าคอยที่จะนำเครื่องบิน รุ่นใหม่เหล่านี้มาใช้ในบริการของเราด้วยใจจดจ่อ” นิกี้ เทอซากิส กรรมการผู้จัดการแห่งเครือข่ายทางอากาศนานาชาติของทีเอ็นที กล่าว “เครื่องบินรุ่นนี้เสมือนการต่อยอดจากรุ่น 747 โดยเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777 คือเครื่องบินที่สมบูรณ์พร้อมและมีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดในปัจจุบัน โดยที่ยังคงสมรรถนะความจุเทียบเท่ากับรุ่น 747” เขากล่าวเสริมว่า “ประสิทธิภาพและการใช้งานแบบเอนกประสงค์คือคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริการขนส่งสินค้าระยะไกลที่เราดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เครื่องบินรุ่นนี้ยังมีข้อดีในด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ จึงช่วยรักษาสภาพแวดล้อมของโลกได้พร้อมกับการสร้างความเติบโตและเครือข่ายทางธุรกิจของเรา”
“นับเป็นโอกาสอันดีอีกครั้ง ที่เรามีโอกาสร่วมงานกับนิกี้และทีมงานทีเอ็นทีของเขา” นายสตีฟ ริมเมอร์ กรรมการผู้จัดการแห่งบริษัท กุ๊กเกนไฮม์ อาวิเอชั่น พาร์ทเนอร์ส จำกัด กล่าว “เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 777 นี้ มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับตลาดการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ในภูมิภาคนี้ และยังถือเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อแผนงานในอนาคตของทีเอ็นทีอีกด้วย”