กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--สนพ.
สนพ. เผยความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) มีนาคม — เมษายน 50 ทำลายสถิติ Peak ปี 49 จำนวน 15 ครั้ง ล่าสุดขึ้นไปอยู่ที่ระดับ
22,216.30 เมกะวัตต์ ใกล้เคียงกับ Peak ปี 2550 ที่พยากรณ์ไว้ 22,513 เมกะวัตต์
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยว่าความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ในช่วง 4 เดือนแรกของปี
นี้ทำลายสถิติ Peak เมื่อปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 21,064 เมกะวัตต์ จำนวน 15 ครั้ง โดยล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (วันที่ 23 เมษายน 2550) อยู่
ที่ระดับ 22,216.30 เมกะวัตต์ และเป็นระดับสูงสุดในปัจจุบัน เหลือเพียง 296.70 เมกะวัตต์ จะเท่ากับ Peak ของปี 2550 ที่พยากรณ์ไว้ที่ระดับ 22,513
เมกะวัตต์
ส่วนหนึ่งของ Peak ที่เกิดขึ้นเกิดจากอุณหภูมิที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง วันที่ 23 เมษายน วัดได้ที่ระดับ 38.5 องศาเซลเซียส ทำให้
ประชาชนใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อทำความเย็นมากขึ้น เช่น แอร์ พัดลม และอยู่ในช่วงปิดเทอม ดังนั้น กระทรวงพลังงาน ขอเชิญชวนให้ประชาชนหันมาประหยัดการ
ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น ได้แก่ การเปิดอุณหภูมิแอร์ 25 องศา การจัดบ้านให้เป็นมุมสบายคลายร้อนเพื่อลดการใช้พลังงานและประหยัดค่าไฟฟ้า และการหันมาหลอด
ตะเกียบแทนหลอดไส้ ซึ่งกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้อนุมัติเงินจำนวน 80 ล้านบาท ให้ กฟผ. ไปดำเนินการเปลี่ยนหลอดตะเกียบราคาประหยัด
ให้กับประชาชนทั่วประเทศ เป็นต้น
อนึ่ง การเกิด Peak ที่ผ่านมารวม 15 ครั้ง แบ่งเป็น เดือนมีนาคม จำนวน 9 ครั้ง และเดือนเมษายน จำนวน 6 ครั้ง ดังนี้
มีนาคม 2550 ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) เมษายน 2550 ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak)
วันที่ 13 21,317.8 เมกะวัตต์ วันที่ 2 21,781.8 เมกะวัตต์
วันที่ 14 21,374.6 เมกะวัตต์ วันที่ 3 22,136.9 เมกะวัตต์
วันที่ 15 21,272.6 เมกะวัตต์ วันที่ 4 21,300.6 เมกะวัตต์
วันที่ 16 21,365.9 เมกะวัตต์ วันที่ 5 21,088.6 เมกะวัตต์
วันที่ 26 21,366.8 เมกะวัตต์ วันที่ 20 21,644 เมกะวัตต์
วันที่ 27 21,896.4 เมกะวัตต์ วันที่ 23 22,216.3 เมกะวัตต์
ระดับสูงสุด ณ ตอนนี้
วันที่ 28 22,071.4 เมกะวัตต์
วันที่ 29 22,161 เมกะวัตต์
วันที่ 30 21,909.8 เมกะวัตต์