แอลจี เชื่อมั่นขึ้นแท่นอันดับ 1 ในไทย ชูกลยุทธ์ความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์อย่างแตกต่าง พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจ

ข่าวทั่วไป Wednesday March 2, 2011 11:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--แอลจีวัน ประเทศไทย แอลจี เชื่อมั่นขึ้นแท่นอันดับ 1 ในไทยชูกลยุทธ์ความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์อย่างแตกต่างพร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจ และความเป็นเลิศด้านการจัดการอย่างเหนือชั้น บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศกลยุทธ์สู่ ความเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือในไทย รุกตลาดปี 2554 ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมล่าสุด, การสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาดที่หลากหลาย, การขยายธุรกิจสู่กลุ่มลูกค้าองค์กรด้วยผลิตภัณฑ์ ‘Total Solutions’, และสร้างความเป็นเลิศด้านการจัดการ เชื่อมั่นยอดขายเติบโต 20% ด้วยรายได้รวม 22,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ มร. ชิน ฮัก (เจฟ) แช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของแอลจีคือการขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในประเทศไทยด้วยการเป็นผู้นำ 3 ด้าน คือด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม ด้านการทำการตลาด และด้านบุคลากรที่มีคุณภาพ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด และการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด จะช่วยเติมเต็มความสุขของผู้บริโภคชาวไทย ดังแนวคิด Life’s Good ที่เรายึดมั่นเสมอมา” “เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง แอลจีจะดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ 4 ส่วนหลัก คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมล่าสุด การสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างแตกต่าง การขยายโอกาสทางธุรกิจ และการมุ่งพัฒนาการจัดการที่เป็นเลิศ ทั้งในส่วนของการบริการหลังการขาย ซัพพลายเชน และการผลิต” มร.แช กล่าว ในการดำเนินกลยุทธ์ความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นั้น แอลจีให้ความสำคัญการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่องถึงความต้องการของผู้บริโภค ปัญหาและความคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้บริโภคชาวไทย แอลจีแบ่งกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ออกเป็นกลุ่ม Smart Innovation, กลุ่ม Healthy Living & Environmental Care, และกลุ่ม Convenient Lifestyle โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Smart Innovation นั้นรวมถึง LG INFINIA SMART TV, มือถือในกลุ่มสมาร์ทโฟน LG Optimus Series และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำ ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Healthy Living & Environmental Care นั้นจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านกลุ่ม Health+ Collection และเครื่องปรับอากาศ LG Inverter V 4D แอลจีเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์นี้ จะส่งผลให้แอลจีสามารถขึ้นเป็นผู้นำและครองความเป็นอันดับหนึ่งในตลาด SMART TV กลุ่มเครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นไซด์บายไซด์ได้ เช่นเดียวกับที่แอลจีเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดพลาสมา ทีวี, โฮมเธียเตอร์, และเครื่องซักผ้าที่แอลจีเป็นผู้นำตลาดถึง 10 ปีซ้อน นอกจากนี้ แอลจียังดำเนินกลยุทธ์ในเชิงรุก โดยการสร้างความแตกต่างผ่านกิจกรรมทางการตลาดและการสร้างแบรนด์ด้วยงบประมาณถึง 1,500 ล้านบาท และเพื่อเป็นการตอกย้ำความสำคัญของการทำกิจกรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง แอลจีได้เพิ่มงบประมาณทางการตลาดบนช่องทางดิจิตอลขึ้นอีก 25% เพื่อสร้างการรับรู้และความชื่นชอบแบรนด์ผ่านสื่อดิจิตอลสู่ผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แอลจียังเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และคุณภาพของสินค้า ผ่านทางการบริการหลังการขายที่โดดเด่นและดีเยี่ยม ควบคู่ไปพร้อมกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมที่หลากหลายและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความสำเร็จและรางวัลต่างๆ ที่แอลจีได้รับ ถือเป็นบทพิสูจน์ในการสร้างแบรนด์และเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีอันทันสมัย ซึ่งสามารถเติมเต็มชีวิตของผู้บริโภคในทุกๆ ด้าน อาทิ รางวัลยอดขายอันดับหนึ่งในเอเชียสำหรับ 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเตาไมโครเวฟ, รางวัลยอดขายอันดับหนึ่งในประเทศไทยของกลุ่มเครื่องซักผ้าติดต่อกัน 10 ปีซ้อน (ตั้งแต่ปี 2544-2553), รางวัล Best of Innovations 2011 จากงาน CES ที่ผ่านมา, รางวัล CNET Asia Readers' Choice Gold Award สำหรับทีวีสามมิติ, 9 รางวัลด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ จาก red dot Design และ iF Design, และรางวัล Cannes Lions Award สำหรับกิจกรรมออนไลน์ เป็นต้น กลยุทธ์ในส่วนที่ 3 ของแอลจี คือการขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการนำเสนอ ‘Total Solutions’ สู่ลูกค้ากลุ่มองค์กร ซึ่งประกอบด้วยระบบกล้องวงจรปิด, ระบบทีวีสำหรับโรงแรม, โซลูชั่น Digital Signage และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ซึ่งแอลจีเชื่อมั่นว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจรนี้จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของแอลจีในกลุ่มองค์กรได้เป็นอย่างดี สำหรับกลยุทธ์ในส่วนสุดท้าย คือการสร้างความเป็นเลิศด้านการจัดการ แอลจีได้ลงทุนเพิ่มเติม 150 ล้านบาทในการขยายสายการผลิตเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ ที่โรงงานจังหวัดระยอง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และขยายการส่งออกไปยัง 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ แอลจียังได้ลงทุนเพิ่มเติมอีก 300 ล้านบาทในสายการผลิตเครื่องซักผ้าฝาหน้า ส่งผลให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตรวมได้ถึง 8.5 ล้านเครื่องต่อปี และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของแอลจี ประเทศไทย ในการเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง การผลิตและส่งออกในภูมิภาคเอเชีย “ด้วยเป้าหมายในการขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศ ผ่านกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ และบทพิสูจน์ต่างๆ ที่ผ่านมา แอลจีเชื่อมั่นว่าเราจะประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ได้อย่างแน่นอน” มร.แช กล่าว ในภาพ คณะผู้บริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (จากซ้ายไปขวา) 1. คุณฉันท์ชาย พันธุฟัก หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเทอร์เทนเมนต์ 2. คุณสินเมธ อิ่มเอม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ 3. มร. วูจิน เบค ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 4. คุณรพี ศรีสุนทร หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 5. คุณธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด 6. มร. เจฟ เช กรรมการผู้จัดการ 7. คุณอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ 8. คุณศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร 9. คุณณัฐวัชร์ ศิริวงศ์ศาล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ 10. คุณสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ 11. มร. ฮีโกล ลี ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเทอร์เทนเมนต์ 12. มร. ชาร์ลส วู ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ไอที ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลจี ประเทศไทย ได้ที่ www.lg.com/th ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ศุภาดา ชัยวงษ์ แอลจีวัน ประเทศไทย โทรศัพท์ 02 252 4166 ต่อ 102 อีเมล์ schaiwong@lg-one.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ