กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
เตรียมหารือ ศธ. ให้ใช้เป็นประโยชน์ในการสอนประวัติศาสตร์เยาวชน ได้ทั้งความรู้และบันเทิง ตะลึงยอดผู้ชมภาคใต้ทุบสถิติมากเท่าอีสานเป็นครั้งแรกของวงการหนังไทย กระแสแรงต่อเนื่องถล่มรายได้กว่า ๑๕๐ ล้านใน ๑ สัปดาห์
พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและภริยา ชม ภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค ๑ องค์ประกัน หงสา ซึ่งเป็นช่วงปฐมวัย ที่โรงภาพยนตร์เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เมื่อค่ำวานนี้ (๒๕ ม.ค. ๕๐) โดยได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ได้รับทั้งความรู้ในเรื่องของ ประวัติศาสตร์และความบันเทิง ทางรัฐบาลเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสอนประวัติศาสตร์ให้เยาวชนของเราได้ ซึ่งจะหารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการต่อไปว่าจะใช้สิ่งที่ถือว่าเป็นทั้งความบันเทิง และเป็นทั้งเรื่องกึ่งประวัติศาสตร์นี้ ให้เป็นประโยชน์ทางการศึกษาในอนาคตได้อย่างไรบ้าง สำหรับข้อคิดที่สำคัญที่ได้รับจาก ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ คนไทยต้องรักและสามัคคีกัน ไม่ทรยศซึ่งกันและกัน ต้องสามัคคี ไม่ควรแตกความสามัคคี และไม่ควรแย่งชิงกัน คิดว่าทั้ง ๓ ภาคของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวงการภาพยนตร์ทั้งยังได้ทราบจากท่านมุ้ย (ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล) ว่ารายได้ทั้งหมดจากการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษาด้วย”
ภาพยนตร์แห่งอิสรภาพเรื่องนี้ เป็นตัวกระตุ้นตลาดหนังไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยยังคงมีกระแสความสนใจของผู้ชมทุกเพศทุกวัยอย่างต่อเนื่อง และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ โดยภายใน ๑ สัปดาห์หลังจากเข้าฉายเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคมที่ผ่านมา มียอดรวมถึงกว่า ๑๕๐ ล้านบาท จาก ๔ วันแรก ได้ประมาณ ๑๒๐ ล้าน ทั้งที่เริ่มฉายในต่างจังหวัดเมื่อ ๒๐ มกราคม ส่วนช่วง ๒๒ — ๒๕ มกราคม มีรายได้วันละประมาณ ๑๑ ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นส่วนของ กทม. ราว ๖ ล้านบาท/ วัน และต่างจังหวัดทั่วประเทศอีกประมาณ ๕ ล้านบาท/ วัน
“แต่ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่อีกอย่างหนึ่งสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการสร้างสถิติใหม่ของผู้ชมในภาคใต้ เพราะตามปกติของหนังไทยทั่วไปจะมีจำนวนผู้ชมและยอดรายได้ในภาคเหนือมากที่สุด รองลงมาคือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก ตามลำดับ แต่สำหรับเรื่องนี้ภาคใต้มีผู้ชมและยอดรายได้แซงขึ้นมาเท่ากับภาคอีสาน ในขณะที่ภาคกลางและภาคตะวันออกก็ไม่ได้ยอดตกลงไป เป็นการขยายฐานผู้ชมมากขึ้น และเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พวกเราภูมิใจมากครับ ที่เป็นเช่นนี้เพราะฝ่ายต่างๆ ร่วมช่วยกัน ทั้งสื่อมวลชน บริษัทผู้สนับสนุน และผู้ชม ในขณะที่ทีมงานทุกฝ่ายและนักแสดงก็ตั้งใจและทุ่มเทกันอย่างเต็มที่” ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล กล่าว
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของจารึกประวัติศาสตร์ ที่ประกาศศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่แห่งอิสรภาพและความเป็นไทย ทุกโรงภาพยนตร์ ทั่วประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ฯ
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. ๐ ๒๖๙๑ ๖๓๐๒ — ๔, ๐ ๒๒๗๔ ๔๙๖๑ - ๒
(ชามานันท์ สุจริตกุล, อุมา พลอยบุตร์, สุขกมล งามสม)
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net