กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--สำนักพิมพ์แจ่มใส
หัวใจสำคัญของการพัฒนาคนให้มีคุณภาพ เริ่มที่เป็น “นักอ่านที่ดี” บริษัทแจ่มใส พับลิชชิ่ง จำกัด ร่วมสร้างวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย รณรงค์ให้เยาวชน ทุกคนรักการอ่านกับโครงการอ่านวันละนิด จิตแจ่มใส ส่งมอบ “สมุดบันทึก รักการอ่าน” ให้กับโรงเรียนที่ร่วมโครงการทั่วประเทศ เป็นเครื่องมือสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน
โดยในปีที่ผ่านมามีโรงเรียนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ภายใต้ความร่วมมือของคุณครูบรรณารักษ์ห้องสมุด ดำเนินโครงการอ่านวันละนิด จิตแจ่มใส ระยะเวลา 4 เดือน จนทราบผลนักเรียนที่อ่านได้สูงสุดในโครงการ
ผู้ชนะเลิศนักเรียนรักการอ่านดีเด่น ประจำปี 2553 ได้แก่ สุทธิณี ษมาพิสุทธิ์ หรือน้องเบลล์ อายุ16 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 นักเรียนรักการอ่านดีเด่นประจำโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ และอ่านได้สูงสุดในโครงการ จำนวนการอ่าน 812 เรื่อง สาวน้อยหน้าใส สร้างนิสัยรักการอ่านด้วยการอ่านหนังสือทุกประเภทที่สนใจ ทั้งหนังสือความรู้ หนังสือนิยาย รวมถึงติดตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ส่วนตัวเชื่อมั่นหนังสือทุกเล่มล้วนมีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทำให้การอ่านหนังสือเป็นเรื่องสนุก มีความสุขและอ่านได้นาน นำเกร็ดความรู้มาปรับใช้จริงในชีวิตประจำวัน
สำหรับกิจกรรมรักการอ่าน น้องเบลล์ บอกว่า โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนรักการอ่านอย่างทั่วถึง จัดในรูปแบบกิจกรรมสอดแทรกความรู้และความบันเทิง ซึ่งทุกวันจันทร์ของสัปดาห์เป็นช่วงเวลารักการอ่าน มีกิจกรรมสอดรับกับทุกระดับชั้น พร้อมส่งเสริมนักเรียนเป็นนักอ่านที่ดีกับโครงการอ่านวันละนิด จิตแจ่มใส ใช้บันทึกรักการอ่านสีส้มของสำนักพิมพ์แจ่มใส แทนสมุดบันทึกรักการอ่านของโรงเรียน ภายใต้คำแนะนำของคุณครูพจนีย์ อำนา หัวหน้างานห้องสมุด กระตุ้นนักเรียนร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
“กิจกรรมรักการอ่านนี้ สามารถอ่านหนังสือได้ทุกประเภทตามความสนใจ สรุปใจความสำคัญของเรื่องเพื่อทบทวนความรู้ ความเข้าใจของตนเอง เป็นประโยชน์นำไปปรับใช้และแบ่งปันความรู้ให้แก่ผู้อื่นต่อไป” น้องเบลล์บอก
ไม่ต่างจากพลอยโสภา นพพรพันธุ์ หรือน้องพลอย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อายุ 17 ปี นักเรียนรักการอ่านดีเด่นประจำโรงเรียนสตรีวิทยา และรองชนะเลิศอ่านมากที่สุดในโครงการ จำนวนการอ่าน 406 เรื่อง อีกหนึ่งเยาวชนหัวใจนักอ่าน ภายใต้คำแนะนำของคุณครูประยูร แถมจอหอ หัวหน้างานห้องสมุด นิยายแนวแฟนตาซีคือแนวหนังสือที่ชอบ โดยเฉพาะเรื่อง Kill No More พันธสัญญา ล่า สังหาร เป็นทั้งหนังสือเล่มโปรดและคู่มือคลายเครียดหลังสอบ ประโยชน์ที่ได้รับคือมุมมองชีวิตระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกแห่งจินตนาการ
น้องพลอยบอกว่า ส่วนตัวสร้างนิสัยรักการอ่านด้วยการอ่านหนังสือแนวที่ชอบมากที่สุด หรืออ่านเรื่องที่สนใจ ทั้งหนังสือวิชาการ หนังสือเรียน หรือหนังสือนิยาย ซึ่งไม่จำเป็นต้องอ่านจบภายในหนึ่งวัน แต่ขยันอ่านทุกวันจะฝึกให้เราอ่านหนังสือได้เร็วขึ้น
เบื้องหลังปลูกฝังเยาวชนรักการอ่าน นางพนมพร ปิยธรรมาภรณ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีอัปสรสวรรค์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนผ่านห้องสมุด 8 กลุ่มสาระวิชา อาทิ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ สังคม ฯลฯ เพื่อให้เด็กรู้รอบด้าน มีความสุขกับการอ่าน และรู้จักจดบันทึกความรู้ อีกหนึ่งตัวชี้วัดศักยภาพผู้เรียนเพื่อประเมินจบหลักสูตรของสถานศึกษา นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการด้านมัลติมีเดียบูรณาการเรียนสอนให้ผู้เรียนรู้เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบัน
เช่นเดียวกับพัชรา ทิพยทัศน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา กล่าวว่า กิจกรรมส่งเสริมนักเรียนรักการอ่านจัดอยู่ในแผนมาตรฐานการเรียนรู้ แม้เด็กจะเรียนได้เกรด 4 ทุกวิชา แต่หากคิดวิเคราะห์ สรุปใจความสำคัญของการอ่านไม่ได้ ย่อมไม่ผ่านประเมินจบหลักสูตรการศึกษาทั้งม.ต้น และม.ปลาย
“ดังนั้นกิจกรรมบันทึกรักการอ่านนี้ ช่วยสนับสนุนให้ผู้เรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ตระหนักและเห็นคุณค่าของการอ่าน ปูพื้นฐานการคิด วิเคราะห์ข้อมูล บันทึกรักการอ่านถือเป็นหน้าที่ของเด็กทุกคน ” ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยากล่าว
และนี้คือเทคนิคดีๆ ของเยาวชนนักอ่าน โครงการอ่านวันละนิด จิตแจ่มใส ที่อาจช่วยสร้างแรงจูงใจให้เด็กไทยรักการอ่านมากขึ้น ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังคงจัดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งครบรอบ 10 แจ่มใส เพื่อนๆ นักอ่านคนไหนสนใจอยากร่วมโครงการติดตามรายละเอียดได้ที่ www.jamsai.com