กก. เลิกกระตุ้นท่องเที่ยวด้วยภาษี แต่เน้นอำนวยความสะดวก

ข่าวทั่วไป Thursday March 3, 2011 11:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--กก. นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุม เรื่อง การพิจารณาทบทวนความเหมาะสมความจำเป็นของมาตรการจูงใจด้านภาษีที่ใช่เพื่อการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ ในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ห้องประชุม ๒ ชั้น ๓ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ นายสมบัติ คุรุพันธ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมและความจำเป็นของมาตรการจูงใจด้านภาษีที่ใช่เพื่อการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง โดย พิจารณาในเรื่อง การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎยกเลิกการกำหนดภาษีค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวแก่คนต่างด้าวเป็นการชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๕๓ ในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๕๔ ใช้ไปถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ที่ประชุมเห็นว่ามาตรการดังกล่าว อาจไม่มีผลต่อการจูงใจนักท่องเที่ยวมากนัก เพราะเนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วจะคำนึงถึงความสะดวกและเวลาในกระบวนการการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย มากกว่า ดังนั้น ที่ประชุมจึงลงความเห็นว่า ไม่ควรขยายระยะเวลาเว้นค่าธรรมเนียมภาษีดังกล่าว เพื่อเป็นการไม่เสียรายได้ของประเทศในส่วนนี้ อีกทั้ง เสนอแนะให้หามาตรการในการลดระยะเวลากระบวนการการติดต่อขอวีซ่าการเข้าประเทศ ให้มีความรวดเร็วมากขึ้น ในประเด็นต่อเรื่องโครงการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศในกรณีเกิดการจลาจล มาตรการดังกล่าวได้เกิดขึ้น ๓ ระยะ โดย ระยะที ๓ ระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรขยายระยะเวลามาตรการดังกล่าวเช่นเดียวกัน เนื่องจาก หากยังคงประกาศมาตรการดังกล่าวอยู่ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย เพราะหวั่นกลัวเหตุการณ์จลาจลที่อาจเกิดขึ้นอีก เพราะมาตรการดังกล่าวยังใช่อยู่ ประเด็นสุดท้าย ที่ประชุมพิจารณาในเรื่องมาตรการที่ผูกพันทางด้านการเงิน ภาษีต่างๆยังคงให้ดำเนินการต่อไป เพราะอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตามมาตรการการจูงใจด้านภาษีเป็นมาตรการเพียงชั่วคราวในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองเท่านั้น สุดท้ายที่ประชุมเห็นว่า มาตรการในเรื่องการลดภาษีดังกล่าว อาจไม่เป็นการจูงใจเพื่อการกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เนื่องจากกระบวนการลดหย่อนภาษีดังกล่าวมีกระบวนการ ระยะเวลานานและมีความซับซ้อน ทั้งนี้ควรหันมาให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวมากกว่า โดยให้ความสำคัญในเบื้องต้นในเรื่องด่านตรวจคนเข้าเมืองบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งในเรื่องของมาตรฐานการท่องเที่ยว ควรมีมาตรฐานให้มากขึ้นทั้ง เรื่องการออกใบประกอบวิชาชีพมัคคุเทศก์ และออกทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญมากเนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยเป็นจำนวนมากทำให้ บริษัทนำเที่ยว มัคคุเทศก์ที่ผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกัน ดังนั้น การจัดการในสองส่วนข้างต้นจึงมีความสำคัญกับมาตรการการจูงใจเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองมากกว่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ