Bangkok--3 Mar--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เอชพี ยกระดับมาตรฐานคลาวด์ คอมพิวติ้ง ผนวกรวมผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล 3PAR Utility Storageสนับสนุนการให้บริการคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และส่งเสริมการบริหารจัดการข้อมูลอย่างสะดวกและง่ายดาย
เอชพีประกาศผนวกรวมผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล 3PAR Utility Storage เข้ากับพอร์ทโฟลิโอระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก (Converged Infrastructure) ของเอชพี เพื่อยกระดับมาตรฐานคลาวด์ คอมพิวติ้งที่สามารถปรับขยายได้ให้สามารถทำงานอย่างง่ายดาย พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลใหม่รองรับการทำงานแบบเสมือนหรือเวอร์ช่วลและลดการจัดเก็บข้อมูลซ้ำๆ
ทั้งนี้ การผนวกรวมผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลดังกล่าวจะช่วยลูกค้าให้มีความสามารถในการให้บริการคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีฟีทเจอร์เด่นๆ ได้แก่ การจัดลำดับการจัดเก็บข้อมูลแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และบริการ thin storage เพื่อลดปัญหาการมีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลมากเกินไป
การผนวกรวมผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลดังกล่าวจะตอบสนองความต้องการที่จะรวมศูนย์ระบบฮาร์ดแวร์จัดเก็บข้อมูลเข้าไว้ด้วยกัน และการจัดการการเติบโตของข้อมูลที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยจะช่วยลูกค้าให้สามารถรับมือกับสิ่งท้าทายดังกล่าว โดยใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบบล็อกและไฟล์ที่ผนวกรวมเข้าไว้ด้วยกัน (converged block-and-file storage) และมีการจัดเก็บแบบเรียงลำดับเป็นชุดเดียว นอกจากนี้ เอชพียังมีระบบบริหารจัดการข้อมูลที่ง่ายขึ้น โดยใช้โซลูชั่นที่ได้รับการพัฒนาบนแพลทฟอร์มเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบผนวกเพื่อให้ลูกค้ามีการบริหารจัดการแบบผนวก ทั้งยังมีต้นทุนในการเป็นเจ้าของทั้งหมดลดลงอีกด้วย
มร. ไมค์ ปริเอโต รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ผลิตภัณฑ์ StorageWorks เอชพี เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “เราได้รับข้อมูลจากลูกค้าว่า พวกเขามีแผนการเดินทางเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยีคลาวด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในทศวรรษนี้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล HP 3PAR Utility Storage จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการสถาปัตยกรรมจัดเก็บข้อมูลใหม่และได้รับการออกแบบให้มีสมรรถนะในการให้บริการไอที (IT as a service) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การผนวกรวมผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล 3PAR ไว้บนระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกถือเป็นนวัตกรรมล้ำยุค และเอชพีพร้อมนำลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ที่มีความสะดวกคล่องตัวและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน”
มุ่งมั่นสร้างสรรค์ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ Utility เพื่อรองรับบริการคลาวด์
การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของระบบคลาวด์ทั้งแบบสาธารณะและแบบส่วนตัวเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้องค์กรด้านไอทีและผู้ให้บริการต่างๆ ต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนดีไซน์ของระบบโครงสร้างพื้นฐานขึ้นใหม่ การพัฒนาบริการคลาวด์ที่สะดวกรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพสูงจำเป็นต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายที่มีการผนวกรวมการทำงานเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ภายใต้การบริหารจัดการแบบรวมศูนย์
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล HP 3PAR Utility Storage มีการบริหารจัดการอย่างสมบูรณ์แบบภายใต้เทคโนโลยี HP CloudSystem เพื่อให้ระบบจัดเก็บข้อมูลของหลากหลายหน่วยงานที่ทำงานบนระบบ HP CloudSystem
มีการบริหารจัดการแบบอัตโนมัติและง่ายดาย สำหรับระบบ HP CloudSystem เป็นเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยนำมาใช้ในการพัฒนาและสร้างสรรค์บริการต่างๆในสภาพแวดล้อมแบบต่างๆ ได้แก่ระบบคลาวด์ส่วนตัว
ระบบคลาวด์สาธารณะ และระบบคลาวด์แบบไฮบริด การผนวกรวมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล 3PAR ไว้บนระบบ HP CloudSystem จะช่วยลูกค้าย่นระยะเวลาในการเริ่มต้นติดตั้งและใช้งานแอพพลิเคชั่นคลาวด์จากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่
นาที(1) ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการจัดเก็บข้อมูลเป็น 10 เท่า และลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลสูงถึงร้อยละ 50(2)
นอกจากนี้ เอชพียังพัฒนาผลิตภัณฑ์ HP X9300 Network Storage Gateway ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี IBRIX เพื่อใช้งานร่วมกับระบบจัดเก็บข้อมูล HP 3PAR โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ลูกค้าได้มีโซลูชั่นไฟล์สตอเรจที่ปลอดภัย และป้องกันการใช้งานร่วมกันหลายคนสำหรับข้อมูลทั้งที่มีและไม่มีแบบแผนบนระบบคลาวด์ การผนวกรวมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP 3PAR Utility Storage ที่มีสมรรถนะในการจัดเก็บข้อมูลสูงแบบ thin storage เข้ากับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล X9300 Network Storage Gateway ที่มีความสามารถในการจัดลำดับการจัดเก็บข้อมูลและโอนย้ายข้อมูลดีเยี่ยม จะช่วยลดความต้องการสมรรถนะในการจัดเก็บข้อมูลลงถึงร้อยละ 50(3)ผนวกรวมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เครื่องเซิร์ฟเวอร์ และระบบเครือข่ายเข้าไว้ด้วยกันบนระบบ HP BladeSystem
เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนทางด้านเครื่องเซิร์ฟเวอร์และเครื่องเดสก์ท้อปเวอร์ช่วลให้แก่บริษัทต่างๆ เอชพีจึงคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ HP P4800 G2 SAN ซึ่งติดตั้งภายในเครื่อง HP BladeSystem c7000 enclosure ส่งผลให้ไม่ต้องมีการวางระบบเครือข่ายการจัดเก็บข้อมูลแบบภายนอก จึงลดค่าใช้จ่ายในการวางระบบเครือข่ายถึงร้อยละ 65(4) นอกจากนี้ การใช้ระบบ
การจัดการร่วมกันทั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และระบบเครือข่ายยังทำให้องค์กรต่างๆ มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 40(5) ผลิตภัณฑ์
HP P4800 G2 SAN ใหม่สนับสนุนซอฟต์แวร์ SAN/IQ 9.0 และแอพพลิเคชั่น VMware vStorage API for Array Integration (VAAI) เร่งรัดการทำงานด้านต่างๆ ของ VMware ให้รวดเร็วขึ้น อาทิ มีประสิทธิภาพในการทำสำเนาข้อมูลหรือโคลนนิ่งสูงถึงร้อยละ 95 และลดการโหลดบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ VMware ESX ลงร้อยละ 94 ส่งผลให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์แบบเวอร์ช่วลมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ต่อหน่วยจัดเก็บข้อมูล(6)
มร. กาเร็ท เอ็กเซล หัวหน้าฝ่ายวางกลยุทธ์ด้านไอที บริษัท อินไซต์ อินเวสเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลด้านการบริหารสินทรัพย์ กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ HP P4800 SAN ตอบสนองความต้องการของบริษัทในการทำโปรเจ็คเวอร์ช่วลไลเซชั่นได้เป็นอย่างดี ทั้งทางด้านประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการปรับขยายการทำงาน ทั้งนี้ การผนวกรวมการทำงานของ BladeSystem, VMWare และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของเอชพีเข้าไว้ด้วยกันส่งผลให้มีความพร้อมในการผลิตขั้นพื้นฐาน รวมทั้งยังมีเสถียรภาพและฟีทเจอร์ในการทำ disaster recovery ที่เราต้องการอย่างครบครัน”
มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพิ่มขึ้น
การขยายตัวอย่างรวดเร็วของข้อมูลดิจิตอลทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องการระบบบริหารข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เอชพีจึงนำเสนอผลิตภัณฑ์สำรองข้อมูล HP D2D4324 Backup System ที่พัฒนาโดย HP Labs ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยหลักของเอชพี โดยผลิตภัณฑ์นี้สนับสนุนเทคโนโลยี StoreOne ที่มีสมรรถนะลด
การจัดเก็บข้อมูลซ้ำซ้อน ส่งผลให้ลูกค้าสามารถสำรองข้อมูลได้มากถึง 1.4 เพตาไบต์ และมีสมรรถนะในการจัดเก็บข้อมูลแบบใช้ดิสก์เพียง 96 เทราไบต์ จึงลดค่าใช้จ่ายในการสำรองข้อมูลโดยใช้ดิสก์ถึงร้อยละ 95(7)ผนวกรวมระบบโครงสร้างพื้นฐานและแอพพลิเคชั่นเข้าไว้ด้วยกันเพื่อการใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ข้อความที่มีปริมาณมาก เสริมด้วยไฟล์ข้อมูลแนบที่มีขนาดใหญขึ้น และไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถใน
การรับส่งข้อความให้แก่ผู้ใช้งานของหน่วยงานด้านไอที ดังนั้น เอชพีจึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ HP E5000 Messaging System ใหม่ที่สนับสนุนโปรแกรม Microsoft? Exchange Server 2010 ซึ่งเป็นโซลูชั่นเดี่ยวที่ผนวกรวมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ และโปรแกรม
Exchange 2010 configuration wizards เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ระบบไอทีทำงานเร็วขึ้นร้อยละ 75 และให้บริการผู้ใช้ด้วยเมลบ็อกซ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแต่มีต้นทุนต่อผู้ใช้ลดลง(8)
การจัดจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์เครือข่ายจัดเก็บข้อมูล HP P4800 G2 SAN และผลิตภัณฑ์สำรองข้อมูล HP D2D4324 Backup System มีวางจำหน่ายแล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล E5000 ใหม่มีวางจำหน่ายแล้วเช่นกัน ประกอบด้วย รุ่น E5300 มี 500 เมล์บอกซ์ รุ่น E5500 มี 1,000 เมลบ็อกซ์ และรุ่น E5700 มี 3,000 เมล์บอกซ์
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่สะดวกและง่ายดายสำหรับลูกค้าคอนซูเมอร์จนถึงองค์กรธุรกิจระดับต่างๆ ด้วยพอร์ทโฟลิโอที่ครอบคลุมด้านการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ การบริการ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com
(1) Comparative calculation of setup and provisioning process for HP 3PAR storage vs. non HP storage with BladeSystem Matrix as well as experiences of HP clients and HP engineering
(2) Based on documented experiences and business results of HP 3PAR Utility Storage in client deployments.
(3) Capacity savings based on documented experiences and business results of HP storage in client deployments.
(4) List price comparison of HP P4800 vs. NetApp FAS 3140 and EMC CX4-120, October 2010; includes dedicated SAN infrastructure.
(5) “Gaining Business Value and RO I with HP Insight Control Management Software,” IDC, September 2010.
(6) Internal HP comparison of time and performance for an HP P4000 with and without VAAI integration of cloning virtual machines and creating new vDisks.
(7) Capacity savings based on an average deduplication ration of 20:1.
(8) “Exchange 2010 Planning and Deployment Analysis,” The Tolly Group, February 2011.