กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--สมาคมไทยรับสร้างบ้าน
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นสนับสนุนและส่งเสริมสมาชิก ทั้งในแง่การพัฒนาสู่ความเป็นผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานและมีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งการขยายตลาดใหม่ๆ ให้แก่สมาชิกออกไปทั่วประเทศและต่างประเทศ เดินหน้าจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ธุรกิจรับสร้างบ้านสู่ผู้บริโภค โดยยึดแนวทางการรวมกันของสมาชิกเพื่อลดต้นทุน โดยเฉพาะการลดต้นทุนค่าการตลาดของสมาชิกให้ต่ำลง โดยจะใช้วิธีเข้าร่วมงานแสดงสินค้ากับหน่วยงานราชการ แทนการจัดงานโดยสมาคมฯ เอง
ล่าสุด สมาคมฯ ได้จองซื้อพื้นที่ออกบูธจำนวน 216 ตารางเมตร (24 บูธ) ในงาน เมดอินไทยแลนด์ 2011 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 เมืองทองธานี ระหว่าง วันที่ 9-13 มีนาคม 2554 จัดโดย กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ โดยสมาคมฯ จะนำพื้นที่บูธมาจัดสรรขายให้แก่สมาชิกที่มีอยู่จำนวน 15 รายในราคาบูธละ 12,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาต่ำกว่าถึง 3-4 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับสมาคมหรือผู้จัดงานรายอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่ขายบูธราคาไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 บาทต่อบูธ สำหรับงานเมดอินไทยแลนด์นับเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้าระดับประเทศ โดยมีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เป็นเจ้าภาพจัดงานซึ่งที่ผ่านมาการจัดงานเมดอินไทยแลนด์ทุกๆ ปี ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดีงานนี้ แม้ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่จะมิได้ตั้งใจมาเลือกหาบริษัทรับสร้างบ้านก็ตาม แต่การเข้าร่วมออกบูธของสมาคมฯ และสมาชิกก็ถือว่าเป็นการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ดังวัตถุประสงค์หลักของสมาคมฯ ที่วางไว้ว่าจะทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและประชาชนทั่วประเทศมากขึ้น
“จากการระดมความคิดเห็นของสมาชิกสมาคมฯ เห็นพ้องกันว่าการออกบูธในงานมหกรรมบ้านและงานแฟร์ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเน้นการขายและปิดการขายบ้านกับลูกค้าในทันที โดยเฉพาะสมาคมฯ มีการศึกษาและเก็บข้อมูลจากบริษัทรับสร้างบ้านกลุ่มตัวอย่าง ที่เคยมีประสบการณ์ออกบูธในงานมหกรรมบ้านของผู้จัดงานรายอื่นๆ พบว่าลูกค้าที่ตัดสินใจจองภายในงานจำนวนกว่า 50% มักจะยกเลิกการจองและขอเงินจองคืนภายหลัง เหตุผลเพราะ 1.ลูกค้ายังมิได้ศึกษารายละเอียดสินค้าอย่างดีพอ แต่เหตุที่ตัดสินใจจองก็เพราะตื่นตาตื่นใจ 2.แรงกระตุ้นทางการตลาดของผู้ประกอบการและผู้จัดงานมากว่า เช่น การลดราคา โปรโมชั่นของแถม และรางวัลจับฉลากมากมาย ฯลฯ ซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของลูกค้าและผู้บริโภค ที่มักจะเริ่มต้นพิจารณาจากเหตุผลที่ว่า ต้องการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และเหตุผลสำคัญคือต้องการสร้างบ้านแล้ว “ได้บ้านที่มีมาตรฐาน” หรือ “สร้างบ้านแล้วได้บ้าน...ไม่ใช่บาน”
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า การเข้าร่วมมหกรรมงานแสดงสินค้าของสมาคมฯ และสมาชิกในครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับธุรกิจและบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพให้ประชาชนทั่วไป ได้รู้จักและเข้าใจอย่างถูกต้องว่าแตกต่างกันอย่างไรกับมือสมัครเล่น ดังนั้นจึงไม่เน้นการขายเป็นสำคัญ แต่หากว่าสมาชิกสามารถปิดการขายได้ หรือมียอดจองก็ถือเป็นกำไรเพิ่ม ในส่วนของสมาคมฯ เองกำหนดนโยบายไว้ที่จะเป็นหน่วยงานส่งเสริม และสนับสนุนให้สมาชิกเติบโตอย่างมีทิศทางและยั่งยืน จึงวางวิสัยทัศน์และมองผลในระยะยาวเป็นสำคัญ
งานครั้งนี้สมาคมฯ ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเข้าร่วมออกบูธจำนวนทั้งสิ้น 16 รายจากทั่วประเทศ ได้แก่ บจก.ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป, บจก.ฟิวเจอร์โฮม รับสร้างบ้าน, บจก.กรุงเทพนนท์ รับสร้างบ้าน, บจก.อยุธยา โฮมบิลเดอร์, บจก.สระบุรี รับสร้างบ้าน, บจก.พิษณุโลก รับสร้างบ้าน, บจก.เชียงใหม่ รับสร้างบ้าน, บจก.อุดร โฮมบิลเดอร์, บจก.ขอนแก่น โฮมบิลเดอร์, บจก.นครราชสีมา รับสร้างบ้าน, บจก.หัวหิน โฮมบิลเดอร์, บจก.ภูเก็ต โฮมบิลเดอร์, บจก. หาดใหญ่ โฮมบิลเดอร์, บจก.สมุทรสาคร รับสร้างบ้าน, บจก.บ.เฮ้าส์ เฟรนลี่ โปรดักส์, บจก.พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น ฯลฯ ซึ่งสมาชิกที่มาร่วมออกบูธต่างพอใจที่สมาคมฯ ช่วยหาทางลดต้นทุนด้านการตลาดลง จึงทำให้ไม่เสียเปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งที่เป็นรายใหญ่