กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 5.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,434.5 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำมีความผันผวนโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,444.60 USDต่อออนซ์ จากสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบียที่เพิ่มมากขึ้น แต่ร่วงลงเมื่อมีข่าวลือในตลาดว่า กัดดาฟี จะเจรจากับกลุ่มผู้ต่อต้าน
Key Points in Gold Market
- ราคาน้ำมันดิบมีความผันผวนมากเช่นกัน โดยปรับตัวสูงขึ้นมากในระหว่างวัน ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมา โดยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.02 USD ต่อบาร์เรล ปิดที่ 105.44 USD ต่อบาร์เรล โดยสหรัฐจะประกาศว่า จะนำน้ำมันสำรองออกมาใช้
- นักลงทุนจับตามองสถานการณ์ในลิเบีย บาห์เรน และการนัดประชุมใหญ่ในวันที่ 11 มี.ค.ของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลในซาอุดิอาระเบีย แต่รัฐบาลของซาอุดิอาระเบียประกาศห้ามชุมนุม
- สถานการณ์ในลิเบีย กองกำลังของฝ่ายรัฐบาลโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในเมือง ราส ลานุฟ (ราส ลานุฟ มีกำลังการกลั่นน้ำมัน 220,000 บาร์เรลต่อวัน และมีคลังเก็บน้ำมันเพื่อการส่งออก 200,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นเมืองที่ยึดครองโดยกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล) ด้วยเครื่องบินรบ ยิ่งเร่งให้นาโต้ และสหรัฐเร่งหามาตรการต่างๆ รวมถึงการใช้กำลังทหาร เพื่อที่จะหยุดยั้งสงครามกลางเมืองในลิเบีย โดยจะมีการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงในเรื่องนี้ และในเรื่องการกำหนดเขตห้ามบินให้มีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง โดยประชาชาติอาหรับก็เห็นชอบในเรื่องการกำหนดเขตห้ามบิน เนื่องจากการโจมตีแหล่งน้ำมันทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นมาก
- ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นหลังจาก Moody’s ประกาศลดอันดับเครดิตของกรีซลง 3 อันดับจาก Ba1 มาที่ B1 ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง
- SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 6.68 ตัน ถือครองทองคำจำนวน 1,217.3 ตัน
Technical Analysis:
ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้งที่ 1,444 ก่อนที่จะถูกเทขายลงมา โดยมีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1,430 ในช่วงเช้าของวันนี้ โดยราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากราคายังสามารถยืนอยู่ 1,418 ได้ คาดว่าจะสามารถปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,444 และ 1,454 สำหรับแนวรับจะอยู่ที่ 1,427 1,418 และ 1,410
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Arnupap Chomsri
Research Department
Tel: 02 618 0839