ไทยแอร์เอเชียแต่งตั้ง 3 อันเดอร์ไรท์เตอร์ พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 4 ปีนี้

ข่าวท่องเที่ยว Tuesday March 8, 2011 12:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยแอร์เอเชีย หนึ่งในกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของสกายแทรกซ์ 2 ปีซ้อน แสดงความพร้อมประกาศแต่งตั้ง 3 บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่าย (Underwriter) ในการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) วันนี้ พุ่งเป้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ไทยแอร์เอเชียตกลงให้ 3 บริษัทหลักทรัพย์ ที่เป็นมืออาชีพและมีความน่าเชื่อถืออย่าง บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่าย (Lead Underwriter) หุ้นไอพีโอครั้งนี้ โดยจะระดมทุนเพื่อนำมาใช้สนับสนุนการลงทุนในอนาคต รวมถึงการรับมอบเครื่องบินใหม่อีก 20 ลำเพื่อประจำการฝูงบินด้วย โดยไทยแอร์เอเชียคาดหวังที่จะระดมทุนให้ได้อย่างน้อย 150 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ทั้งนี้คาดว่าหุ้นไทยแอร์เอเชียจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand: SET) ได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 ด้านผลประกอบการของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ในปี 2553 ที่ผ่านมา พบว่ามีรายได้รวม 12,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับปี 2552 ส่งผลให้มีกําไรสุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 2,846 ล้านบาท ด้านอัตราการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย (Load Factor) อยู่ที่ 78% การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปี 2552 โดยตลอดทั้งปี 2553 มีผู้โดยสารเดินทางกับสายการบินทั้งหมด 5.8 ล้านคน ทำให้บริษัทก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดสายการบินราคาประหยัดในประเทศไทย ทั้งนี้สายการบินมีรายได้ในส่วนของบริการเสริมพิเศษ (Ancillary) รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อผลกำไรของบริษัทในปีที่ผ่านมา โดยยอดใช้จ่าย Ancillary ต่อผู้โดยสาร 1 คน เท่ากับ 310 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับปี 2552 สิ่งที่สำคัญที่สุดในปี 2553 คือไทยแอร์เอเชียเริ่มลงทุนในตลาดอินเดีย เริ่มบินตรงจากกรุงเทพฯสู่เดลีและโกลกาตา ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการเดินทางสูงและสามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ ทั้งนี้เรายังมีแผนในการเพิ่มเส้นทางบินใหม่สู่เมืองอื่นๆ ในอินเดียและจีน เมื่อทยอยรับเครื่องบินใหม่เข้าประจำการ “ด้วยผลการดำเนินงานที่เข้มแข็งในปี 2553 เรามั่นใจว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทด้วยการระดมทุน” นายทัศพลระบุในปีนี้เราจะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320 เพิ่มเติมจากฝูงบิน 20 ลำที่เรามีอยู่ โดยเราตั้งเป้าหมายระยะกลางว่าจะรับมอบเครื่องบินให้ได้อย่างน้อย 40 ลำ ทั้งนี้เราเชื่อว่าการระดุมทุนจากการทำไอพีโอจะช่วยกระตุ้นการเติบโตได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ซีอีโอไทยแอร์เอเชียกล่าวพร้อมเพิ่มเติมว่า “สายการบินไทยแอร์เอเชียกำลังเข้าสู่ปีที่ 8 ของการดำเนินธุรกิจ โดยในปีนี้เราตั้งเป้าจะเพิ่มผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศเป็น 7 ล้านคน ภาพรวมโดยทั่วไปของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเป็นบวก ตลาดการบินยังคงขยายตัวและความต้องการการเดินทางในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยังคงสูงอยู่” ทั้งนี้ นายทัศพล กล่าวสรุปว่า ไทยแอร์เอเชียยังเดินหน้าเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจุดเชื่อมต่อของเราในทุกจุดหมายที่เราให้บริการการบิน โดยจะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินและความหลากหลายของจุดหมาย เป้าหมายของไทยแอร์เอเชียคือการเพิ่มความเข้มแข็งทั้งการเดินทางภายในและ ระหว่างประเทศด้วยฐานการบินในประเทศไทยทั้ง 3 แห่ง คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ เรายังเดินหน้าภารกิจนี้ต่อไปและเชื่อว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะพวกเรามั่นใจในสภาพการเงิน รวมทั้งวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนได้อย่างแน่นอน” สอบถามเพิ่มเติมที่: ฝ่ายสื่อสารองค์กร สายการบินแอร์เอเชีย ณัฐวุฒิ จิตต์อาจหาญ nuttawutj@airasia.com กฤติยาวดี พงษ์พาณิชย์ krittiyawadeep@airasia.com ปิยสุดา อาชาสันติสุข piyasudaa@airasia.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ