กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--Public Hit
ในเวลานี้ ถ้าได้เห็นหุ่นยนต์แปลงร่างในการ์ตูนหรือภาพยนตร์ คงไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับเห็นการแปลงร่างของเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า “Transform Living” ซึ่งเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์เพื่อใช้พื้นที่ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความสุขที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า และผู้อยู่อาศัย ถือเป็นนวัตกรรมที่ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของไทย นำมาใช้เป็นครั้งแรกในไทย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการใช้ชีวิตภายในที่พักอาศัยซึ่งมีพื้นที่จำกัดอย่างคุ้มค่าและแสนสะดวกสบาย
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมกลางใจเมือง เป็นฝันที่อยากให้เป็นจริงอย่างหนึ่งของคนรุ่นใหม่หลายๆคน โดยเน้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก และด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่นี่เองที่อาจกลายเป็นข้อจำกัดในการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย เพราะพื้นที่ที่ไม่กว้างขวางทำให้วางเฟอร์นิเจอร์ได้เพียงน้อยชิ้น ความโดดเด่นของนวัตกรรม “Transform Living” ที่โมเดอร์นฟอร์มนำมาจัดการเนื้อที่ใช้สอยให้เพิ่มมากขึ้นบนพื้นที่เท่าเดิม ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความสุขที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าและผู้อยู่อาศัย จึงเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นมิใช่น้อย
บอกเล่าด้วยปากเพียงอย่างเดียว คงยากที่จะจินตนาการภาพได้ชัดเจน โมเดอร์นฟอร์ม จึงจัดกิจกรรมสนุกๆ เกี่ยวกับการตกแต่งห้องขึ้น โดยเชื้อเชิญ ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ ผู้จัดการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสาร บริษัท คริสเตียน ดิออร์ ประเทศไทย (จำกัด) และพิธีกรหนุ่มไฟแรง จากรายการโต๊ะข่าวบันเทิง มาร่วมสัมผัสไอเดียบรรเจิดในการสร้างสรรค์ห้องจำลองขนาด 35 ตารางเมตร (ขนาด 5 x 7 เมตร สูง 2.70 เมตร) ด้วยนวัตกรรมทันสมัย Transform Living ให้กลายเป็นที่พัก มีความกว้างขวาง สะดวกสบาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ด้านต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง โดยมี ทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มฯ เป็นผู้แนะนำฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ อย่างเป็นกันเอง ณ สายการผลิตบริษัมโมเดอร์นฟอร์ม บางนา กม.16
ทักษะ บุษยโภคะ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า เพื่อนำเสนอนวัตกรรมทันสมัย ที่เหมาะกับการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในด้านต่างๆ รวมทั้งที่อยู่อาศัยซึ่งแม้จะมีพื้นที่ไม่มากมายนักแต่สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอย และเพิ่มพื้นที่การอยู่อาศัยอย่างหลากหลาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
“สิ่งที่เราต้องการนำเสนอคือ แนวคิดในการใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพื้นที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้นทุกวัน ทำให้เรามองว่าจะสามารถตอบสนองผู้บริโภคที่มีพื้นที่น้อยลงได้อย่างไร พยายามตอบโจทย์ให้ได้ว่าจะทำให้พื้นที่ 30 ตร.ม. ให้ใช้ประโยชน์ได้ถึง 60 ตร.ม. จึงเป็นที่มาของแนวคิดนี้ เพื่อเน้นให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการทำให้คอนโดมิเนียม หรือที่พักซึ่งมีขนาดจำกัด ให้มีพื้นที่ในแต่ละฟังก์ชั่นรูมกว้างมากขึ้น ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดเนื้อที่ และประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ฉากกั้นที่เลื่อนเข้า-ออกได้ เก้าอี้ เตียง โซฟา ที่สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการใช้แล้ว หรือโต๊ะหนังสือก็ยังประยุกต์ใช้เป็นโต๊ะทานข้าวได้เหมือนกัน การมีเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ต้องตั้งวางแบบตายตัวอย่างนี้ ทำให้ห้องขนาดเล็กมีพื้นที่โล่ง และดูใหญ่ขึ้น จะนั่งจะนอนตามมุมต่างๆ ได้อย่างสบาย หรือวันไหนนึกอยากจัดปาร์ตี้เล็กๆ ที่ห้องก็สามารถทำได้
“ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ของการก่อตั้งโมเดอร์นฟอร์ม ผมยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เราไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่ยังสร้างประสบการณ์ความประทับใจให้กับผู้ใช้ โดยคำนึงถึงความต้องการ และความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ เราคิดนวัตกรรม Transform Living ขึ้นมาเพื่อเสนอให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้ใช้ทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยสามารถปรับรูปแบบทั้ง Function และ Design ให้เข้ากับโครงการนั้นๆ ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของโมเดอร์นฟอร์มในการที่จะทำงานร่วมกับทุกๆ โครงการเป็น Partnership ที่คอยคิดไปด้วยกัน โดยมุ่งมั่นพัฒนางานด้านดีไซน์อย่างต่อเนื่อง ให้สมกับเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน และออฟฟิศ ที่ผูกพันกับลูกค้ามายาวนานจนถึงวันนี้” ผู้บริหารใหญ่แห่ง โมเดอร์นฟอร์ม กล่าว
แทบไม่น่าเชื่อว่า ห้องตัวอย่างที่ใช้ในการตกแต่งภายใต้แนวคิด Transform Living นั้น ซึ่งมีขนาดของห้องที่ไม่กว้างใหญ่มากนัก จะสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่สนองตอบความต้องการในการใช้สอยต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน และเพิ่มพื้นที่ภายในห้องได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยการแบ่งโซนอุปกรณ์ใช้งานต่างๆ ที่น่าสนใจ และเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ดังนี้
Shelf and showcase มุมโชว์ของส่วนตัวของเจ้าของห้อง รวมถึงเพิ่มช่องเก็บของที่มีหน้าบานปิด เพื่อ ความเป็นส่วนตัว, Working area ครบครันด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ และอุปกรณ์การเขียน รวมทั้งโต๊ะที่ขยายขนาด หรือดึงออกมาเพื่อปรับการใช้งานอื่น หน้าบานสามารถเลื่อนไปมาได้ตามราง, Sofa เป็นโซฟาที่ปรับได้ ตอบสนองทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเลือกใช้นอนกับ โซฟาเบด ความยาว 190 ซม. หรือใช้นั่งดูทีวีแบบสบายๆ, Living area สามารถติด TV ได้ถึง 42 นิ้ว หมุนได้ 180 องศา เพื่อผสานการใช้งานสองบริเวณ โดยทีวีเพียง 1 เครื่อง ไม่ว่าจะนอนดูบนเตียง หรือจะนั่งดูบนโซฟา, Bedding area ผนังเตียงพับขึ้นลงกับกำแพงได้ โดยเป็นเตียง queen size 5 ฟุต ระบบสปริง ที่ใช้โช้กในการยกขึ้นและลงในการปรับเก็บ, Adjustable Walk-in closet มุมแต่งตัวภายในห้องนอน ที่พิเศษสุดคือ เป็นพื้นที่ Walking Closet ได้ ผนังเลื่อนภายในประกอบด้วยแผงเก็บอุปกรณ์แต่งตัวที่จัดอย่างลงตัว, Kitchen Area พื้นที่ส่วนนี้สามารถปรับให้เป็นที่จัดเตรียมอาหาร หรือเป็นที่ทานอาหารสำหรับ 2 ท่าน หรือจัดงานปาร์ตี้ โดยดึงโต๊ะทำงานออกมาวางต่อกันและพับกางออก ให้เป็นโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ขึ้น
ส่วน ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ แขกคนสำคัญที่ได้สัมผัสกับเฟอร์นิเจอร์สุดล้ำอย่างใกล้ชิด กล่าวในฐานะที่มีวิถีชีวิตตามแบบฉบับของคนรุ่นใหม่จริงๆ ว่ารู้สึกตื่นตาตื่นใจกับการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ถึงแม้จะเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในเมืองไทยนัก และยังเป็นการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องซื้อที่พักอาศัยในราคาที่สูงจนเกินไป
“ผมเพิ่งมีโอกาสออกมาอยู่คอนโดฯ ของตัวเองได้ไม่นาน ซึ่งความสะดวกสบายคงเทียบกับที่บ้านไม่ได้เลย แต่มันคือน้ำพักน้ำแรงของเรา วันนี้พอมาเจอนวัตกรรมแบบ Transform living เข้า ทำให้รู้สึกทึ่งมาก ผมคิดว่าหลายคนคงซื้อคอนโดฯ ใหญ่ๆ ไม่ไหวเพราะราคาแพงลิ่ว แต่พอซื้อแบบเล็กๆ ก็ทำอะไรมากไม่ได้ การที่โมเดอร์นฟอร์มคิดค้นแนวคิดแบบนี้ขึ้นมาจะช่วยตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี
“สำหรับมุมที่ผมชอบมากในห้องที่ตกแต่งด้วย Transform living คือ ในส่วนของบริเวณครัว ซึ่งมีโต๊ะที่มีฟังก์ชั่นใช้งานได้หลายมิติ ชอบตรงที่มีฝาปิด Top ด้านบนทำด้วยวัสดุแผ่นไม้เคลือบลามิเนต มีพื้นที่ไว้วางของ ยกขึ้น-ลง ได้ง่าย มีประโยชน์คือ เวลาผมทานข้าวแล้วขี้เกียจลุกเอาจานไปเก็บ เกิดมีเพื่อนมาหาตอนนั้นพอดี ผมสามารถปิดฝาซ่อนจานข้าวเอาไว้ก่อนได้ ทำให้ดูไม่เลอะเทอะ
“ส่วนอีกมุมที่ชอบไม่แพ้กันคือ บานเลื่อนทีวี ที่เรียกว่า Audio/Visual unit เพราะปกติเวลาผมอยู่บ้านจะต้องมีทีวีที่ห้องนั่งเล่น 1 เครื่อง และในห้องนอนอีก 1 เครื่อง ไหนจะต้องต่อเคเบิลอีก 2 จุด แต่วิธีนี้เราแค่หมุนบานเลื่อนให้ทีวีหันมาทางเราไม่ว่าจะนั่งอยู่บนโซฟา หรือนอนอยู่บนเตียงที่อยู่คนละฝั่ง ก็รับชมได้อย่างสะดวกสบายด้วยทีวีแค่เครื่องเดียว แถมช่วยประหยัดไฟและประหยัดเงินด้วยครับ สุดยอดจริงๆ” ผู้ประกาศหนุ่ม กล่าวชื่นชมนวัตกรรมสุดล้ำ ที่ได้สัมผัสมาสดๆ ร้อนๆ
ความคิดสร้างสรรค์อันเกิดจาก Transform living concept โดย โมเดอร์นฟอร์ม นับเป็นไอเดียแห่งการเพิ่มพื้นที่ให้กับพื้นที่อันจำกัดเพื่อความคุ้มค่ากับชีวิต และมูลค่าในการอยู่อาศัย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit