กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ผลักดันบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (“บลจ.”) ให้ความสำคัญในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนผ่านการใช้สิทธิออกเสียงในฐานะผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณให้บริษัทจดทะเบียนตระหนักถึงพลังของผู้ลงทุนสถาบัน
ก.ล.ต. ได้หารือร่วมกับสมาคม บลจ. ในการส่งเสริมให้สมาคมและบลจ. มีบทบาทในการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน และล่าสุดได้มีความคืบหน้าดังนี้
(ก) บลจ. เกือบทุกรายได้มีการกำหนดแนวทางการใช้สิทธิออกเสียงไว้อย่างชัดเจนแล้วใน website ของตนเอง
(ข) สมาคมจะทำ website ศูนย์กลางเพื่อรวบรวมข้อมูลการออกเสียงสำหรับบริษัทจดทะเบียนแต่ละบริษัทแต่ละวาระ เพื่อเป็นการสะดวกที่บริษัทจดทะเบียนจะได้ทราบความเห็นของ บลจ. ต่าง ๆ
(ค) เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการเน้นประเด็นที่สำคัญต่าง ๆ อย่างทั่วถึง แต่ละช่วงเวลา สมาคมจะพิจารณาประกาศประเด็นที่จะขอให้บริษัทจดทะเบียนเน้นเป็นพิเศษ เช่น ไม่ควรมีการเพิ่มวาระในที่ประชุมผู้ถือหุ้นโดยไม่แจ้งล่วงหน้าในหนังสือนัดประชุม เป็นต้น
นอกจากนี้ ได้มีการหยิบยกเรื่องบทบาทของ บลจ. ในการสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสมาคมรับที่จะไปดำเนินการต่อให้เป็นรูปธรรม
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและถือเป็นความสำเร็จ และความคืบหน้าอย่างมากที่ บลจ. ต่างก็ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดีในบริษัทจดทะเบียน การที่ บลจ. ซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบันที่มีประสบการณ์ในการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย การกำหนดแนวทางการใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องต่างๆ อย่างชัดเจน จึงเป็นแบบอย่างของผู้ลงทุนที่รู้จักรักษาสิทธิและประโยชน์ของตน ซึ่งผู้ลงทุนรายย่อยจะได้ใช้เป็นแนวทาง และขณะเดียวกันก็เป็นการกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนต้องให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีมากขึ้น”
นายมาริษ ท่าราบ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า “สมาคม บลจ. และสมาชิกตระหนักดีว่า การส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นเรื่องที่สำคัญต่อตลาดทุนโดยรวม ดังนั้นเพื่อแสดงจุดยืนของบลจ. ในฐานะผู้ลงทุนสถาบัน สมาคมจึงจะหารือกับสมาชิกในการกำหนดประเด็นในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่บริษัทจดทะเบียนควรจะเน้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ สมาคมจะจัดทำเว็บไซต์กลางเพื่อรวบรวมและแสดงข้อมูลการไปใช้สิทธิออกเสียงของ บลจ. ทุกแห่ง เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบค้นข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุนทั่วไป”
นอกจากเรื่องบทบาทของ บลจ. ที่กล่าวแล้ว ก.ล.ต. และสมาคม บลจ. ยังได้เห็นชอบกับแนวคิดที่จะให้มีกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (High Risk Fixed-Income Fund) โดยสามารถลงทุนได้ในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ non-investment grade หรือต่ำกว่า BBB ลงไป
ทั้งนี้ กองทุนรวมดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของไทย รวมทั้งเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ลงทุนที่ชอบและสามารถยอมรับความเสี่ยงในระดับสูงได้ โดยยังคงอยู่ภายใต้หลักการการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุน ได้แก่ การกำหนดอัตราส่วนการลงทุนตามประเภททรัพย์สินและตามผู้ออกทรัพย์สิน (company limit) และให้มีการเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนและเพียงพอต่อการตัดสินใจ
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การอนุญาตจัดตั้ง กองทุนรวมดังกล่าวบนเว็บไซต์ www.sec.or.th และขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุนและประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว หรือที่โทรสาร หมายเลข 0-2695-9834 หรือที่ email: chanont@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 ซึ่ง ก.ล.ต. จะได้รวบรวมเพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และดำเนินการออกประกาศต่อไป