กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
“CEIL by Sansiri” (ซีล บาย แสนสิริ) ผลงานการออกแบบล่าสุด ตอบรับตลาดคอนโดฯ ปี 54เด่นด้วยดีไซน์จอดรถได้ถึงหน้าห้อง ชูความเป็น “บลูโอเชี่ยน โปรเจค” ย่านเอกมัยเผยผ่าน 2 เดือนแรกกวาดยอดขายคอนโดทั้งเครือรวม 1,100 ล้าน
แสนสิริ สานต่อบทบาทผู้นำด้านดีไซน์ ทุ่มงบกว่า 1,700 ล้านบาท เนรมิตโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเอกมัย “CEIL by Sansiri” (ซีล บาย แสนสิริ) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ซีล เอกมัย คอนโดใหม่ ครบทุกฟังก์ชัน ตอบรับทุกมิติการใช้ชีวิต ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.6 ล้านบาท ชู 2 ความโดดเด่นด้านทำเลโครงการใจกลางเอกมัยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ในย่านสุขุมวิท และคอนโดตอบครบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย โดยนับเป็นครั้งแรกของคอนโดมิเนียมแสนสิริที่มีที่จอดรถถึงหน้าห้อง
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริ เล็งเห็นถึงศักยภาพของที่ดินย่านเอกมัยที่สามารถปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% ใน 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังมีการขยายตัวของ Community Mall ที่มีสไตล์ที่แตกต่าง ตลอดจนศูนย์กลางสันทนาการในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ปริมาณซัพพลายด์ ณ ปัจจุบันมีไม่ถึง 500 ยูนิต ด้วยเหตุนี้ แสนสิริ จึงตัดสินใจพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุด “CEIL by Sansiri” (ซีล บาย แสนสิริ) ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว
“ในช่วงพรีเซลโครงการเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ซีล บาย แสนสิริ สามารถสร้างยอดจองได้กว่า 30% ซึ่งห้องที่ได้รับการตอบรับสูงสุดเป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน และ ห้องยูนิตพิเศษไม่ว่าจะห้อง ที่สามารถจอดรถได้ถึงหน้าห้องหรือห้องมุมมองกว้างพิเศษ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในย่านเอกมัยอย่างตรงจุด ที่ผ่านมาเราพัฒนาโครงการจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการเก็บ ความต้องการของลูกค้ามาถ่ายทอดผ่านโครงการ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จของ แสนสิริ” นายอุทัย กล่าวอย่างเชื่อมั่น
ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียม ซีล บาย แสนสิริ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 63 หรือเอกมัย 12 (ซอยเจริญใจ) ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ที่สามารถเดินทางเข้าออกสู่หลากหลายเส้นทางได้อย่างสะดวก อาทิ ซอยทองหล่อ ถนนพระรามเก้า และถนนเลียบทางด่วนเอกมัย — รามอินทรา รวมทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตต่างๆ อาทิ Arena10, Villa Market, J-Avenue, Major Ekamai, Beauty Spa, ร้านวัฒนา พานิช ชื่อดังในซอยเอกมัยและ Trendy Restaurant มากมาย โครงการประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยรวม 3 อาคาร สูงประมาณ 7, 14 และ 17 ชั้น ที่แบ่งสัดส่วนชัดเจนเป็นห้องชุดพักอาศัยจำนวน 2 อาคาร และอาคารจอดรถอีก 1 อาคาร พร้อมล้อบบี้แยกอาคาร เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมเชื่อมต่อ outdoor area เพื่อการพักผ่อนพร้อม double function เป็นห้องสมุด รวมทั้งยังมีการวาง Lay-out ให้รูปทรงอาคารมีมุมมองให้ทุกห้องเกิดวิวที่ไม่ถูกบดบังกัน และสามารถใช้พื้นที่ว่างร่วมกันได้ จำนวนรวมทั้งสิ้น 376 ยูนิต นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสาธารณูปโภคส่วนกลาง อาทิ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย สวนและมุมพักผ่อนแบบเอาท์ดอร์พร้อม Wi-fi Internet ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงพร้อม CCTV เป็นต้น นอกเหนือจากนี้โครงการยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมพื้นที่โดยรอบโครงการโดยจะมีการปรับภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามน่าอยู่อาศัยควบคู่กันไป ซึ่งเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบต่อสังคมที่แสนสิริดำเนินการตลอดมา
เกี่ยวกับยอดขายของโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้น นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันเราสามารถสร้างยอดขายไปได้แล้วกว่า 1,100 ล้านบาท จากเป้าไตรมาสแรกที่กำหนดไว้ที่ 1,600 ล้าน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้จากกระแสตอบรับที่ดีของ ซีล บาย แสนสิริ และโครงการอื่นๆ ที่ยังอยู่ระหว่างการขาย คาดว่าจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีการขยับเป้าขึ้นอีกในไม่ช้านี้”
ด้านมุมมองต่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านเอกมัยนั้น นายอุทัยกล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อว่าโครงการใหม่ๆ จะยังเกิดขึ้นน้อย เพราะปัจจุบันที่ดินย่านดังกล่าวหาที่ดินมาพัฒนาค่อนข้างยาก ขณะเดียวกันราคาที่ก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องขึ้นอยู่กับทำเล ประกอบกับใครที่มี ที่อยู่อาศัยย่านนั้นก็ไม่ยอมปล่อยขายง่ายๆ เพราะความเพียบพร้อมในการอยู่อาศัยอย่างลงตัว และแน่นอนว่าเมื่อดีมานต์มากกว่าซัพพลายด์ย่อมส่งผลให้เกิดความคุ้มค่าทั้งแง่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือ ซื้อเพื่อลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมว่า ไลฟ์สไตล์คนไทยเปลี่ยนไป คนไทยหันมานิยมอยู่อาศัย ในคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเพราะความสะดวกสบายด้านคมนาคมและแหล่งสาธารณูปโภค ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวก็จะใกล้เคียงกับประเทศที่พัฒนาเต็มที่แล้ว ซึ่งเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีไลฟ์สไตล์ การอยู่อาศัยในแบบ Vertical Living ซึ่งเป็นสาเหตุให้ แสนสิริ พัฒนา Vertical Living Gallery ขึ้นเพื่อสะท้อนภาพการอยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรมให้ลูกค้าได้เห็นอย่างสมจริงที่สุดเพื่อสร้างสรรค์ Vertical Living Gallery ในการใช้เป็นโชว์ยูนิตของคอนโดมิเนียมเกือบทุกโครงการที่แสนสิริเสนอขาย ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิทระหว่างซอยสุขุมวิท 34-36 เปิดเข้าชมได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม โทร.1685”