กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--อาร์ค เวิลดไวด์
เมื่อเร็วๆ นี้ - ทางเอนฟาโกร เอพลัส ร่วมกับทีเค พาร์ค จัดกิจกรรมสัมมนา “Enfa Brain Power มหัศจรรย์พลังสมอง” ครั้งแรกของการจัด Live Exhibition หรือนิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟเพื่อเสริมสร้างสมาธิ ความจำ และการคิดวิเคราะห์ พร้อมแนะนำสูตรลับ “กระบวนการเพิ่มพลังสมอง” ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนากระบวนการเรียนรู้สู่ความฉลาดระดับสูงของลูกน้อย
ภายในงานสัมมนายังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กมาร่วมพูดคุยและแบ่งปันเคล็ดลับในการเพิ่มพลังสมอง เพื่อความพร้อมในทุกๆการเรียนรู้ อาทิ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และดร.พัฒนา ชัชพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการศึกษาปฐมวัย ม.ศรีนครินทรวิโรฒ รวมถึงการแสดงสดเล่นดนตรีพิณแก้วจากอาจารย์วีระพงศ์ ทวีศักดิ์ นักดนตรีพิณแก้วผู้เป็นที่หนึ่งในเอเชีย และ1 ใน 20 ของโลก ผู้มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ของตนในการเล่นดนตรีพิณแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ต้องอาศัยทักษะด้านสมาธิสำหรับจดจ่อในการฝึกเล่น ความจำสำหรับการจำตัวโน๊ต และการคิดวิเคราะห์สำหรับการสร้างสรรค์ ประมวลเป็นเพลงใหม่ๆ ซึ่งเป็นดนตรีที่ผสมผสานเอาความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์ ดนตรี และคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน โดยอาจารย์ได้ฝึกผนให้กับ ด.ญ. ปัญชลิกา อาภามงคล (น้องเฟรนลี่) อายุ 9 ปี และด.ญ. เปมิกา อาภามงคล (น้องแฟนซี) อายุ 7 ปี เล่นดนตรีพิณแก้วจนประสบความสำเร็จ
สำหรับกิจกรรมภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือการเสวนากึ่งปฏิบัติการกับผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กใน 3 หัวข้อ ได้แก่ “ 108 กิจกรรม เพื่อการจดจ่อ จดจำ ทำได้” โดย ครูพบ-เกียรติยง ประวีณวรกุล นักจิตวิทยาคลินิก ซึ่งแนะวิธีให้คุณพ่อคุณแม่กระตุ้นให้ลูกรู้จักสังเกตและฝึกคิดวิเคราะห์ โดยการปล่อยให้เด็กได้ทดลองหาวิธีแก้ปัญหาง่ายๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเอง เพื่อเด็กจะได้เรียนรู้ จดจำและนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นต่อไป หัวข้อที่ 2 คือ “นิทาน : เครื่องมือชั้นดีในการสร้างสมาธิ ความจำ และการคิดวิเคราะห์” โดย คุณแต้ว-รพีพรรณ พัฒนาเวช อดีตบ.ก. สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก ซึ่งมาเล่านิทานพร้อมอุปกรณ์เสริมง่ายๆ เช่น เชือกสอดกระดาษที่เจาะรูไว้ ได้ทั้งความสนุก และได้ฝึกทั้งสมาธิและความจำต่างๆไปในตัว หัวข้อที่ 3 คือ “เสริมสร้างสมาธิ ความจำ และการคิดวิเคราะห์ด้วยดนตรี” โดย ครูอิงค์-อ.งามตา นันทขว้าง วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งดึงความสนใจของเด็กๆได้เป็นอย่างดี ด้วยนิทานประกอบดนตรี ที่เน้นให้เด็กรู้จักฟังและจับจังหวะเร็วช้า มีการเดิน วิ่ง หรือเคลื่อนไหวประกอบดนตรี เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เห็นตัวอย่างและนำไปปฎิบัติจริงกับลูกๆได้ เพราะดนตรี คือเครื่องมือชั้นดีในการเสริมสร้างสมาธิ ความจำ และนำไปสู่การคิดวิเคราะห์ของลูก ส่วนที่ 2 คือ ห้องนิทรรศการมีชีวิต ที่แบ่งเป็น 3 โซนให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยเข้ามาเรียนรู้ ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อเสริมสร้างกระบวนการเพิ่มพลังสมองให้กับลูกน้อย ประกอบก้วย โซนสมาธิ โซนความจำ และโซนการคิดวิเคราะห์ โดยทางเอนฟาได้เชื่อมโยงแต่ละโซนเข้าด้วยกันภายใต้แนวคิดเรื่อง “เสียง”
กิจกรรมในโซนแรกคือสมาธิ เป็นโซนที่ส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสเสริมสร้างสมาธิจากการจดจ่อฟังเสียงรอบตัวใน Sound Garden ในสวนเสียงแห่งนี้ จะฝึกให้เด็กๆ ได้สังเกตุความแตกต่างของเสียงนาฬิกาปลุกว่ามีเสียงร้องแตกต่างกันอย่างไร นอกจากนี้ เด็กๆ จะได้ลองฟังความดัง-ความเบาของเสียงกบร้องในสวน พร้อมฝึกให้เด็กๆ ได้ฟังเสียงน้ำไหลเพื่อให้รู้ว่าเสียงน้ำไหลเร็ว-ช้ามีเสียงลักษณะแตกต่างกันหรือไม่ ซึ่งการที่เด็กๆ ได้จดจ่อตั้งใจฟังเสียงต่างๆ รอบตัวจะเป็นการฝึกสมาธิให้เด็กๆ
หลังจากเด็กๆ ได้ผ่านกระบวนการฝึกสมาธิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่โซนที่สองซึ่งเป็นโซนสำหรับฝึกฝนด้านความจำ จากการรับรู้สู่ความจำระยะยาว ซึ่งเป็นกระบวนการที่ฝึกให้เด็กๆ ได้รู้จักเก็บข้อมูลต่างๆ และนำไปใช้ต่อยอดการเรียนรู้ต่อไป ทางเอนฟาโกร เอพลัส ได้คิดค้นกิจกรรมฝึกฝนความจำ จากการที่ได้ใช้ประสาทสัมผัสร่วมกันกับข้าวของเครื่องใช้ใกล้ตัว ซึ่งเด็กจะได้ทดลองเคาะสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหม้อ กระทะ ตะหลิว ที่ต้องใช้ทั้งตาดู หูฟัง และมือสัมผัส เพราะทั้งความแตกต่างของรูปร่าง รูปทรง ประโยชน์ใช้สอยให้ต้องจดจำและยังได้สนุกกับการได้ตี ได้เคาะอีกด้วย เสียงของวัตถุที่กระทบกัน ซึ่งมีทั้งเสียงสูงต่ำ อันเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำของเด็กเอง เป็นสิ่งที่สามารถสร้างความจำที่แตกต่างมากขึ้น ทำให้เด็กจะจำรายละเอียดต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
มาถึงกิจกรรมในโซนสุดท้ายคือ โซนของการคิดวิเคราะห์ ทางเอนฟาโกร เอพลัสได้นำจังหวะดนตรีมาเป็นตัวช่วยเพื่อให้เด็กเกิดการคิดวิเคราะห์ ด้วยการตั้งคำถามว่าขวดน้ำที่ตั้งอยู่มีเสียงแตกต่างกันรึเปล่า โดยให้โอกาสด็กๆได้เคาะขวดน้ำที่มีระดับน้ำภายในขวดที่แตกต่างกัน เพื่อเรียนรู้ว่าเสียงที่ได้จะมีเสียงสูงต่ำไม่เท่ากัน เพราะถ้าน้ำในขวดน้อยเวลาเคาะเสียงจะสูง ถ้าน้ำในขวดมากขึ้นเวลาเคาะเสียงจะต่ำ นอกจากนี้เด็กๆ ยังเล่นสนุกกับเปียโนน้ำขนาดยักษ์ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้เด็กๆ เกิดการคิดวิเคราะห์ หากเด็กๆ เห็นไฟขึ้นที่ตัวโน๊ตนั้นเด็กจะต้องกระโดดลงไปเหมือนกับนิ้วที่กำลังเล่นเปียโน ไฟที่ขึ้นบนแต่ละตัวโน๊ตจะเป็นจังหวะเพลง ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดการคิดวิเคราะห์ว่าหากไฟขึ้นตรงตัวโน๊ตตัวไหน จะต้องกระโดดบนตัวโน๊ตตัวนั้นเพื่อให้เกิดเป็นเสียงเพลงขึ้นมา
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจปรึกษาเรื่อง “กระบวนการเพิ่มพลังสมอง” สู่ความฉลาดระดับสูงของลูกน้อย สามารถติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ มี้ด จอห์นสัน ที่โทร. 02-725-8700 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.enfababy.com