กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--มสช
มูลนิธิสัมมาชีพ (มสช.) ร่วมกับเครือมติชน และคณะกรรมการโครงการผู้นำฯ รุ่น 1 สานต่อโครงการอบรม "ผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง" (Leadership for Change) รุ่น 2 ต่อยอดความคิด ติดอาวุธทางปัญญาให้ผู้นำรุ่นใหม่ในทุกภาคส่วนของสังคม อาทิ ผู้นำองค์กรท้องถิ่น ผู้นำภาคธุรกิจเพื่อสังคม ผู้นำภาคประชาสังคม และผู้นำชุมชน ที่มีความตั้งใจจริงและมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสังคมไทย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยมูลนิธิสัมมาชีพได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขา ทั้งภาคการเมืองการปกครอง ภาคเศรษฐกิจ การค้า ภาคสังคม การศึกษา และกลุ่มผู้นำชุมชน เพื่อเปิดมุมมองและถ่ายทอดองค์ความรู้ในทุกมิติ ให้แก่ผู้ร่วมอบรมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จำนวน 150 ท่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กำหนดจัดการอบรมทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างวันที่ 5 มี.ค. — 3 เม.ย. 2554 ณ ห้องประชุมอาคารข่าวสด
ดร.สำราญ ภูอนันตานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า ผลสำเร็จของโครงการผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่น 1 นับเป็นการสร้างเสริมแรงบันดาลใจกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมจำนวนมากกระตือรือล้นในการช่วยเหลือสังคม โครงการผู้นำ -นำการเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของมูลนิธิสัมมาชีพ จัดเป็นโครงการยุทธศาสตร์ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ หรือประสานกันที่จะช่วยผลักดันสังคมไทยให้เป็นสังคมสัมมาชีพ เพราะการพัฒนาประเทศที่มีความเสถียรและยั่งยืนนั้นจะต้องมาจากพลังผลักดันร่วมกันของสังคมในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับฐานรากจนถึงระดับประเทศ“การที่เราจะเลือกผู้นำเพื่อการบริหารจัดการที่ดี มีความโปร่งใส มีความยุติธรรม มีคุณธรรมและจริยธรรม ได้นั้น สมาชิกในสังคมส่วนใหญ่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมและจริยธรรม โครงการนี้จึงมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาผู้นำเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมและประเทศชาติ” ดร.สำราญ กล่าว
ด้าน คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กรรมการบริหารมูลนิธิสัมมาชีพ ในฐานะ ผู้อำนวยการโครงการอบรม “ผู้นำ —นำการเปลี่ยนแปลง” กล่าวเสริมว่า ประเด็นสำคัญที่ถือเป็นความสำเร็จของโครงการผู้นำฯ ในรุ่น 1 คือการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้นำองค์กร ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำความคิดของกลุ่มพลังทางสังคมหลายๆ ส่วน อาทิ นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิสัมมาชีพ ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการประทรวงวิทยาศาสตร์ คุณดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าไทยตลอดจนนักวิชาการจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนภูมิภาคที่ได้มีโอกาสเข้ามารับฟังแนวคิด ความรู้จากวิทยากร ซึ่งเป็นผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญในทุกสาขา เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไทยในอนาคตสำหรับการแบ่งกลุ่มเนื้อหาและทีมวิทยากรรุ่น 2 จะเน้นทั้งในด้านการคิดและการค้นหามุมมองที่ชัดเจนสำหรับการกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศไทย ภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของสังคมโลก สภาพแวดล้อมทั้งทางเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ ระดับภูมิภาคไปจนถึงความเกี่ยวพันในระดับโลก นอกจากนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยกลุ่มเนื้อหาการอบรมด้านเศรษฐกิจมหภาคเศรษฐกิจชุมชน ไปจนถึงการขับเคลื่อนที่เข้มข้นมากขึ้น โดยภาคเอกชน ภาคประชาชน ทั้งในด้านการพัฒนาประเทศ และความสัมพันธ์กับความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคจุดเด่นอีกประการของหลักสุตรอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง คือ จะมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งในเรื่องการเมืองการปกครอง ทิศทางที่ควรจะเป็น บทบาทและความหมายของภาคประชาชน กลุ่มพลังในประชาสังคมยุคใหม่ทิศทางการปฏิรูปภาคเกษตร การศึกษา เป็นต้น
“ผู้จัดโครงการผู้นำฯ มองเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ความจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างองค์ความรู้สำหรับผู้นำรุ่นใหม่ในอนาคต พร้อมๆ กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระยะยาว สำหรับกลุ่มคนที่จะร่วมคิด ร่วมขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยทางมูลนิธิสัมมาชีพ วางแผนงานที่จะดำเนินการโครงการอบรมผู้นำ รุ่น 3 ภายในปลายปี 2554 เพื่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมพัฒนาชุมชน สังคมทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสัมมาชีพให้เต็มพื้นที่ของประเทศไทย” ผู้อำนวยการโครงการผู้นำฯ กล่าวสรุป
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สำนักงานเลขานุการ มูลนิธิสัมมาชีพ โทร. 02 936 6613 , 086 789 7808 (อาทร)
email : sammachiv@gmail.com