ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่ “บ. บ้านปู” พร้อมคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ชุดเดิมที่ระดับ “AA-” แนวโน้ม “Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 11, 2011 09:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาทของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” พร้อมทั้งประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “AA-” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคงเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินส่วนใหญ่ที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้เงินกู้ที่มีอยู่ อันดับเครดิตสะท้อนความเป็นผู้นำในตลาดถ่านหินในภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนความหลากหลายของแหล่งถ่านหินและฐานลูกค้า รวมถึงรายได้เงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียและจีนซึ่งรวมถึงการต่อใบอนุญาตทำเหมืองยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออันดับเครดิตของบริษัท แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะดำเนินนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังเพื่อสร้างการเติบโตตามแผนงาน ทั้งนี้ ราคาถ่านหินที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและเงินปันผลที่แน่นอนจากธุรกิจไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะช่วยชดเชยความเสี่ยงจากต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นและความเสี่ยงด้านการรักษาปริมาณสำรองถ่านหินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทบ้านปูเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานรายใหญ่ในเอเชียซึ่งก่อตั้งในปี 2526 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตถ่านหินในประเทศไทย บริษัทมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมีแหล่งถ่านหินอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย จีน และออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังขยายการลงทุนสู่ธุรกิจไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและจีนด้วย ที่ผ่านมาราคาถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มปริมาณการผลิตส่งผลให้บริษัทมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจถ่านหินเพิ่มขึ้นเป็น 82% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2553 จากระดับ 78% ในปี 2551 ในขณะที่กำไรส่วนที่เหลือซึ่งมาจากธุรกิจไฟฟ้ามีสัดส่วนลดลงเหลือ 18% ในปี 2553 เมื่อพิจารณาในแง่ของการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์แล้ว ในปี 2553 EBITDA ในสัดส่วน 66% ของบริษัทมาจากการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย ส่วนที่เหลือ 17% มาจากประเทศจีน และอีก 16% มาจากประเทศไทย บริษัทจะมีความหลากหลายของพื้นที่ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นหลังการรับรู้รายได้จากธุรกิจถ่านหินในประเทศออสเตรเลียจากการลงทุนใน Centennial Coal Co., Ltd. (CEY) เต็มปีในปี 2554 ปริมาณการผลิตถ่านหินของกลุ่มบ้านปูในปี 2553 (ไม่รวมประเทศจีน) มีจำนวนทั้งสิ้น 22 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่มาจากเหมืองในประเทศอินโดนีเซีย ราคาถ่านหินที่สูงขึ้นส่งผลให้ปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทในประเทศอินโดนีเซียปรับเพิ่มขึ้นเป็น 329 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ระดับการผลิตที่สูงขึ้นทำให้ปริมาณสำรองถ่านหินของบริษัทยังคงรองรับการผลิตใกล้เคียงกับระดับเดิมที่ 13 ปี ในปี 2553 บริษัทบ้านปูมีกำไรสุทธิสูงถึง 24,728 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นกำไรจากการขายหุ้นบางส่วนใน PT Indo Tambangraya Megah TBK (ITM) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) หากไม่รวมกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวจำนวน 15,777 ล้านบาทแล้ว กำไรสุทธิของบริษัทจะอยู่ที่ 8,951 ล้านบาท ซึ่งลดลง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายปรับตัวลดลงเป็น 17.4% ในปี 2553 จาก 31.4% ในปี 2552 จากผลของปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น การไม่มีกำไรจากการทำสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้า ตลอดจนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และการมีค่าใช้จ่ายตัดจำหน่ายสำหรับโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำเหมืองใต้ดิน Indominco นอกจากนี้ การหยุดผลิตชั่วคราวของเหมือง Jorong ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้อัตรากำไรลดลงในปี 2553 ด้วยเช่นกัน ในส่วนของ EBITDA ก็ปรับลดลง 26% เป็น 19,498 ล้านบาทในปี 2553 ทั้งนี้ คาดว่าราคาถ่านหินที่สูงในปัจจุบัน รวมถึงการรับรู้ผลกำไรจากการดำเนินงานของ CEY จะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้น ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 บริษัทมีการกำหนดราคาขายแบบคงที่ในสัดส่วน 40% ของปริมาณถ่านหินที่จะขาย ส่วนที่เหลือ 60% กำหนดราคาอ้างอิงแบบลอยตัว ทั้งนี้ ราคาขายถ่านหินที่คาดว่าจะสูงตามความต้องการจากประเทศจีนและอินเดียจะส่งผลดีต่อบริษัท ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธุรกิจถ่านหินของบริษัทบ้านปูในประเทศจีนชะลอตัวในปี 2553 โดยให้ผลกำไรตามวิธีส่วนได้เสียเพียง 3,212 ล้านบาทในปี 2553 ลดลง 20% จากปี 2552 แม้ว่าราคาถ่านหินในประเทศจีนยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม สาเหตุหลักมาจากการที่ใบอนุญาตในการทำเหมือง Daning ซึ่งเป็นเหมืองที่บริษัทถือหุ้น 56% ไม่ได้รับการต่ออายุ แม้บริษัทได้ยื่นขอต่ออายุใบอนุญาตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 แต่เจ้าหน้าที่ในประเทศจีนก็ออกให้เพียงใบอนุญาตชั่วคราวระหว่างเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 2553 เท่านั้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในประเทศจีนยังคงไม่ออกใบอนุญาตในการทำเหมือง Daning ส่งผลให้เหมืองดังกล่าวซึ่งปกติผลิตถ่านหินได้ปีละ 4 ล้านตันต้องหยุดการผลิตลงตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 อย่างไรก็ตาม เหมือง Gaohe ในประเทศจีนจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2554 ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากการหยุดผลิตถ่านหินที่เหมือง Daning ได้บางส่วน ผลประกอบการของ CEY เป็นไปตามคาด ด้วยปริมาณการผลิตถ่านหิน 3.6 ล้านตันในไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 หลังการซื้อกิจการเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2553 บริษัทรับรู้รายได้จาก CEY จำนวน 6,500 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 อัตรากำไรขั้นต้นของ CEY อยู่ที่ระดับ 32% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 10% ซึ่งดีกว่าอัตรากำไรในช่วงปีบัญชี 2553 (สิ้นสุดเดือนมิถุนายน) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553 ภาระหนี้เงินกู้รวมของบริษัทบ้านปูเพิ่มขึ้นเป็น 90,628 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ 51.4% ซึ่งสูงกว่านโยบายของบริษัทเล็กน้อย ในอนาคตบริษัทมีแผนการลงทุนระดับปานกลางสำหรับโครงการที่พัฒนาอยู่ในปัจจุบัน โดยได้จัดงบลงทุนไว้ปีละประมาณ 100-150 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2554-2556 และจะลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการหงสาอีกจำนวน 255 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2557-2558 บริษัทมีแผนการจะชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยปีละประมาณ 10,000 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะใช้เงินจากกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายของบริษัทที่มีจำนวนประมาณ 25,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้สุทธิต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะลดลงตามลำดับจากระดับ 51.4% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ AA- อันดับเครดิตตราสารหนี้: BP125A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ AA- BP145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 คงเดิมที่ AA- BP15NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 คงเดิมที่ AA- BP165A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ AA- หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2569 AA- แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ