กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง ให้โลกพัก หรือ Earth Hour 2011 ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ WWF ประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันจัดขึ้น ณ บริเวณหน้าสำนักงานตลาดนัดจตุจักร (ประตู 1) เขตจตุจักร โดยรณรงค์ให้ประชาชน หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน พร้อมใจกันปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น 1 ชั่วโมง เพื่อสร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ผนึกกำลัง 5 เมืองใหญ่ในไทยปิดไฟลดโลกร้อน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในปีนี้กรุงเทพมหานคร และ WWF ประเทศไทย ยังคงสานต่อการจัดกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ภายใต้แคมเปญ “มากกว่าปิดไฟให้โลกพัก” โดยเดินหน้ารณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันปิดไฟที่ไม่ใช้งานเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ร่วมกับเมืองต่างๆ 4,616 เมือง จาก 128 ประเทศทั่วโลก และยังได้รับความร่วมมือจาก 5 เมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยเข้าร่วมกิจกรรมด้วย พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน อาทิ การขี่จักรยาน การปลูกต้นไม้ หรือการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์ โดยตั้งเป้ารณรงค์ให้ทุกคนเริ่มลงมือปฏิบัติและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกิจกรรม Earth Hour 2011 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 มี.ค.54 ตั้งแต่เวลา 18.00 — 22.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน โดยจะทำการปิดไฟพร้อมกันในเวลา 20.30 — 21.30 น. ร่วมกับ 5 เมืองใหญ่ของประเทศไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต นนทบุรี และนครราชสีมา นอกจากนี้เมืองต่างๆ 4,616 เมือง จาก 128 ประเทศทั่วโลกก็จะร่วมกันปิดไฟ 1 ชั่วโมงในช่วงเวลาดังกล่าวของแต่ละท้องถิ่นเช่นกัน
หลากหลายกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงาน
นอกจากกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมงที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ โครงการประกวดแนวคิดรักษ์โลก ลดโลกร้อน : เราทำได้มากกว่าปิดไฟ...ให้โลกพัก “Go Beyond The Hour” ผ่านทางสังคมออนไลน์ที่ www.facebook.com/earthhourth นิทรรศการภาพถ่าย Shot on Climate Change ในวันเสาร์ที่ 26 มี.ค. 54 ณ บริเวณชั้นล่างอาคารสำนักงานบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา และในระหว่างวันที่ 14 — 17 มี.ค. 54 จะมีกิจกรรมเดินรณรงค์บนถนนสายหลักของกรุงเทพฯ 4 สาย ได้แก่ ถนนสีลม เขตบางรัก ถนนข้าวสาร เขตพระนคร ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ และถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน ตั้งแต่บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไปจนถึงศูนย์การค้ามาบุญครอง ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตจะจัดกิจกรรมเดินรณรงค์บริเวณหาดป่าตอง ในวันที่ 24 มี.ค. 54 และจังหวัดเชียงใหม่จัดกิจกรรมเดินรณรงค์บนถนนคนเดิน ในวันอาทิตย์ที่ 20 มี.ค. 54 ด้วย เพื่อร่วมกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
12 Landmark ทั่วไทยร่วมปิดไฟพร้อมกัน
สำหรับ 12 จุดหลักทั่วไทยที่จะร่วมกิจกรรมปิดไฟระหว่างเวลา 20.30 — 21.30 น. พร้อมกันในวันที่ 26 มี.ค.54 นี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ - วัดอรุณราชวราราม วัดสุทัศน์เทพวราราม สะพานพระราม8 และศาลหลักเมือง จ.ขอนแก่น - ประตูเมือง จ.เชียงใหม่ - วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ ประตูท่าแพ จ.ภูเก็ต - หาดป่าตอง จ.นนทบุรี — การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ จ.นครราชสีมา — อนุสารีย์ท้าวสุรนารี และสถานที่สำคัญเชิงสัญลักษณ์ทั่วโลกก็จะร่วมปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อแสดงพลังด้วยเช่นกัน
สรุปผลการดำเนินงานในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับผลการดำเนินการจัดกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551-2553 ซึ่งประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยในปี 2551 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 74 เมกะวัตต์ สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ 46 ตัน คิดเป็นมูลค่า 220,000 บาท เมื่อเทียบกับก่อนปิดและหลังปิดไฟ ส่วนในปี 2552 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ 1,423 เมกะวัตต์ สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 894 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4.31 ล้านบาท เมื่อเทียบกับการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาสูดสุด ส่วนปี 2553 สามารถลดกระแสไฟฟ้าได้ถึง 1,620 เมกะวัตต์ ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,003 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ในปี 2553 จะไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ เนื่องจากมีการชุมนุมทางการเมือง แต่ยังประสบความสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนและผลของการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง