กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ดิสนีย์
ภาพยนตร์ อนิเมชั่นคอเมดี้ ผจญภัย "Gnomeo & Juliet” / “โนมิโอ กับ จูเลียต” สร้างจากบทละครรักชื่อก้องโลกของเชคสเปียร์ ที่ถูกนำมาดัดแปลงใหม่ ใส่มุกขำ มุกอำ มุกล้อเลียน แบบกวนๆ โดย ผู้กำกับ เคลลี่ แอสบูรี่ จาก “Shrek 2” ที่เรียงร้อยผ่านบทเพลงอมตะนิรันดร์กาลของ เอลตัน จอห์น ให้เสียงพากย์โดย เจมส์ แม็คอะวอย (“Atonement,” “The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe”) และ เอมิลี บลันท์ (“The Devil Wears Prada,” “The Young Victoria”) ในบท โนมิโอ และ จูเลียต
“Romeo and Juliet” ฉบับดั้งเดิมประพันธ์โดย วิลเลียม เชคสเปียร์ ในปลายศตวรรษที่ 16 โศกนาฏกรรมของคู่รักวัยเยาว์ยังคงได้รับการเล่าขานมาจนถึงทุกวันนี้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโอเปราโดยจอร์จ เบนดาในศตวรรษที่ 18 ไปจนถึงมิวสิคัลยอดนิยมยุค 50s เรื่อง “West Side Story” และภาพยนตร์เอ็มทีวีปี 1996 เรื่อง “Romeo + Juliet” ในปี 2010 ทวิตเตอร์ได้เปิดตัว “Such Tweet Sorrow” ซึ่งเป็นเวอร์ชันทวีตแบบอิมโพรไวส์ของละครเรื่องนี้ ที่นำเสนอโดยรอยัล เชคสเปียร์ คัมปะนีและมัดลาร์ค โปรดักชัน คัมปะนี และบัดนี้ เราก็มีเวอร์ชั่นตัวโนมประดับสวนเพิ่มเข้าไปอีก
เคลลี่ แอสบูรี่ ผู้กำกับ ผู้ที่ประสบการณ์คอเมดี้และรากเหง้าแบบศิลป์ของเขาทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับโปรเจ็กต์นี้ ผลงานการกำกับของแอสบูรีได้แก่ภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์เรื่อง “Shrek 2” (2004) และ “Spirit—Stallion of the Cimarron” (2002) นอกจากนี้ เขายังได้ทำงานเป็นนักวาดภาพในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “Shrek” (2001), “Toy Story” (1995), ภาพยนตร์โดยทิม เบอร์ตันเรื่อง “Nightmare Before Christmas” (1993) และ “Beauty and the Beast” อีกด้วย ทีมผู้อำนวยการสร้างรู้สึกว่าแอสบูรี่มีความสามารถในการนำเสนอแง่มุมที่อ่อนไหวของตัวละครที่น่าขบขันเหล่านี้ออกมาได้
แอสบูรี่ ผกก. เล่าว่า "ถ้าคุณจะสร้างหนังแอนิเมชั่นให้ผู้ชมกลุ่มใหญ่สนุกกับมัน คุณก็ต้องใส่ทั้งเสียงหัวเราะและหยดน้ำตาเข้าไป แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือความจริงใจครับ แต่การจะเปลี่ยนหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของเชคสเปียร์ ให้กลายเป็นคอเมดี้แอนิเมชั่นที่เหมาะสำหรับคนทั้งครอบครัวจะเป็นเรื่องดีแน่รึเปล่า แต่ผมเชื่อมั่นว่า โนมิโอกับจูเลียต พร้อมจะให้ทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมแน่นอน เรื่องราวของ “โนมิโอ กับ จูเลียต” เกิดขึ้นใน “สแตรทฟอร์ด อัพพอน เอวอน” บ้านเกิดของเชคสเปียร์ บอกเล่าความบาดหมางที่ดุเด็ดเผ็ดร้อนระหว่าง มิสเตอร์คาปูเล็ต และ มิสมอนตากิว เพื่อนบ้านผู้คลั่งไคล้การทำสวนของพวกเขามากจนเกินขอบเขต สวนของทั้งคู่เต็มไปด้วยตัวโนมปูนปลาสเตอร์ ซึ่งจะจะลุกขึ้นมามีชีวิตเวลาที่พวกมนุษย์ไม่อยู่ และทำตัวแบบเดียวกับเจ้าของเป๊ะๆ การทะเลาะเบาะแว้งระหว่างโนมสีแดงและโนมสีน้ำเงิน การชิงดีชิงเด่นของทั้งสองฝั่ง นำมาซึ่งเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม และความฮา”
24 มีนาคม นี้
ในโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล 3 มิติเท่านั้น