กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ตลท.
งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 7 MONEY EXPO 2007 ปิดฉากอย่างสวยงามด้วยยอดผู้เข้าชมงานกว่า 6.5 แสนคน ดันเม็ดเงินสะพัดสูงสุดถึง 8.8 หมื่นล้านบาท แห่กู้ซื้อบ้านอันดับหนึ่ง 6.3 หมื่นล้านบาท สินเชื่อ SMEs ครองที่สองยอดพุ่ง 2 หมื่นล้านบาท ส่วนสินเชื่อบุคคลอันดับสาม 1.3 พันล้านบาท ยอดซื้อประกันสูงกว่า 600 ล้าน ซื้อกองทุนรวมทะลุ 700 ล้านบาท
นายสันติ วิริยะรังสฤษฏ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินครั้งที่ 7 MONEY EXPO 2007 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-13 พฤษภาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างคับคั่งสวนทางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยมีผู้เข้าชมงานตลอดทั้ง 4 วัน กว่า 6.5 แสนคน และมีผู้สมัครใช้บริการจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานทั้งธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน และบริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย กว่า 117,000 ราย คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 88,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดธุรกรรมที่สูงที่สุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา
สินเชื่อบ้านยังคงเป็นธุรกรรมที่ผู้เข้าชมงานสมัครใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยมูลค่าสูงถึง 63,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70 % ของปริมาณธุรกรรมรวม เนื่องจากสถาบันการเงินมีการแข่งขันกันเสนออัตราดอกเบี้ย 0% ให้กับลูกค้าภายในงาน และยังสะท้อนถึงความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูง
“มีหลายธนาคารที่ได้เตรียมแคมเปญอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในอัตรา 1% กว่าซึ่งคิดว่าต่ำที่สุดแล้ว แต่เมื่อมาเทียบกับธนาคารอื่นที่เสนออัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3-6 เดือน จึงตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงตาม บางแห่งก็สั่งลดดอกเบี้ยในวันแรกที่เริ่มเปิดงาน บางแห่งก็รอดูจนถึงวันที่สองของงานเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันกับธนาคารอื่นได้ โดยเฉพาะวงเงินกู้ที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทคิดดอกเบี้ยต่ำที่สุดเพียง 4.99% ต่อปี”
ส่วนธุรกรรมที่ผู้สมัครใช้บริการมากเป็นอันดับสองคือ สินเชื่อ SMEs โดยมีมูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นกว่า 20% ของปริมาณธุรกรรมรวม ขณะที่อันดับสามได้แก่ สินเชื่อบุคคล ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาท
การซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้งจากบริษัทประกันชีวิตและแบงก์แอสชัวรันส์ในปีนี้ก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยมียอดซื้อกรมธรรม์กว่า 3,000 ราย คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท
ส่วนบริการทางด้านการลงทุนปีนี้ มีประชาชนนักลงทุนให้ความสนใจไม่แพ้บริการทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกองทุนรวม มียอดซื้อกองทุนรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 768 ล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ มีนักลงทุนบางรายที่ตัดสินใจซื้อกองทุนภายในงานมูลค่าสูงถึง 20-30 ล้านบาท
ส่วนการเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมงานก็เพิ่มสูงถึง 3,179 บัญชี สะท้อนว่าผู้เข้าชมงานแสวงหาทางเลือกในการลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น
สำหรับการสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จัดให้ทั้งนักลงทุนมือใหม่และมืออาชีพได้เลือกเข้าฟังอย่างจุใจกว่า 50 หัวข้อตลอด 4 วันนั้น โดยเฉพาะงานมหกรรมนักวิเคราะห์ประจำปี 2550 ที่มาจัดในงานเป็นครั้งแรกได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนอย่างหนาแน่น จะเห็นได้จากจำนวนผู้เข้าฟังสัมมนาที่เต็มทุกรอบกว่า 15,000 คน
“มีผู้สนใจขอรับรายงานประจำปีของบริษัทจดทะเบียนที่นำมาแจกฟรีจำนวน 120,000 เล่ม และที่เป็น CD อีก 48,500 แผ่น และยังมีผู้สนใจบริจาคเงินเพื่อซื้อหนังสือด้านการลงทุนไปอีกจำนวนมาก โดยยอดเงินบริจาคสูงถึง 417,053 บาท แสดงว่ามีผู้ให้ความสนใจข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนเป็นอย่างมาก”
นอกจากนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ชมงาน พบว่า ผู้เข้าชมงานมีความพึงพอใจสูงสุดจากการเข้าชมงาน เพราะสามารถเลือกใช้บริการทั้งทางการเงินและการลงทุนได้อย่างครบถ้วนภายในงาน จึงถือว่างาน MONEY EXPO 2007 บรรลุเป้าหมายของการจัดงานที่ต้องการเป็นสื่อกลางระหว่างสถาบันการเงินและลูกค้ารายย่อยอย่างแท้จริง