กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ไอดีซี
ที่ สิงคโปร์ และ ฮ่องกง วันที่ 10 มีนาคม 2554 ไอดีซี คาดว่า ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนจะแตะ 137 ล้านเครื่องในปี 2554 ซึ่งจะเป็นยอดจำหน่ายครั้งแรกที่ทะลุกว่า 100 ล้านเครื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น
“สมาร์ทโฟนเคยเป็นอุปกรณ์ยอดนิยมเมื่อปี 2553 ด้วยยอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงถึงเท่าตัวจากปี 2552 ในปี 2554 ไอดีซี คาดว่า ความร้อนแรงนี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกเมื่อผู้ผลิตมือถือยี่ห้อต่าง ๆ กำลังแข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้าสำหรับอุปกรณ์ที่มีกำไรงามประเภทนี้ ขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือก็พยายามเพิ่มรายได้จากฝั่งดาต้าให้สูง รวมถึงการแข่งขันระหว่างผู้เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มมือถือต่าง ๆ ก็ตามจีบนักพัฒนาแอพอีกด้วย” กล่าวโดย นางสาวเมลิซ่า เชา ผู้จัดการฝ่ายวิจัยตลาด ด้านอุปกรณ์สื่อสารปลายทาง ประจำไอดีซี เอเชียแปซิฟิก
ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ทั้งประเภทที่เป็นรุ่นธรรมดาและสมาร์ทโฟน คาดว่าจะมียอดอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า อยู่ที่ร้อยละ 34 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น โดยในอีก 5 ปีข้างหน้ายอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวสูงถึง 942 ล้านเครื่องจาก 551 ล้านเครื่องในปี 2553 มือถือรุ่นธรรมดาและสมาร์ทโฟนมีอัตราการเติบโตในระดับสูงในปี 2553 มือถือรุ่นธรรมดามีอัตราการเติบโตร้อยละ 17 จากปี 2552 เป็นผลมาจากการเติบโตของมือถือในตลาดล่างจากประเทศจีน แบรนด์ที่ผลิตภายในประเทศที่มีราคาต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,000 บาท จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ยี่ห้อ ZTE จากประเทศจีน และ G-Five จากประเทศอินเดียขยับขึ้นไปสู่การเป็นยี่ห้อที่อยู่ในกลุ่มผู้นำ 5 อันดับแรกของภูมิภาคนี้ในปี 2553
อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 สมาร์ทโฟนจะมีอัตราการเติบโตสูงถึงแปดเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นธรรมดา มียอดจำหน่ายอยู่ที่ราว 359 ล้านเครื่อง โดยสัดส่วน 3 ใน 5 ของยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปี 2558 จะเป็นสมาร์ทโฟนซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่มีสัดส่วนแค่เพียง 1 ใน 5 เท่านั้น
ยังมีอีกหลายเหตุผลเบื้องหลังที่เป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดสมาร์ทโฟน ทั้งนี้มาจากความต้องการใช้งานในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แม้ว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปยังมีราคาค่อนข้างแพง ลำพังแค่เฉพาะในประเทศเกาหลีใต้อย่างเดียว สมาร์ทโฟนมีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงถึง 10 เท่าในปี 2553 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของยี่ห้อ Apple และ Samsung ในทางตรงกันข้าม Nokia ได้มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการนำเสนอโทรศัพท์มือถือที่มี Symbian OS พร้อมหั่นราคาลงต่ำกว่า 200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเครื่องสำหรับตลาดที่กำลังเกิดใหม่อย่างในอินเดียและเวียดนาม
ในปี 2554 และปีถัดไปข้างหน้า ไอดีซี คาดว่า ยี่ห้อต่าง ๆ จำนวนมาก จะนำเสนอโทรศัพท์ราคาถูกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Andriod ซึ่งจะไม่เพียงช่วยทำให้เพิ่มอุปสงค์สำหรับตลาดที่เกิดใหม่ แต่ยังทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นธรรมดาทั้งตลาดพิจารณาที่จะอัพเกรดไปใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น
จนถึงขณะนี้ ยี่ห้อ Nokia และ Symbian OS ยังคงเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนที่ไร้คู่แข่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ แต่ ไอดีซี เชื่อว่า Andriod จะเข้ามายึดตลาด Symbain ภายในปีนี้ เมื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nokia ที่สนับสนุนการทำงานบนวินโดวส์ไม่สามารถออกวางจำหน่ายจนกว่าจะถึงปลายปี 2554
ตารางที่ 1 ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แบ่งตามยี่ห้อ ในปี 2552 และ 2553
อันดับ ยี่ห้อ ส่วนแบ่งตลาดในปี 2552 ส่วนแบ่งตลาดในปี 2553 อัตราการเติบโตต่อปี
1 Nokia 71.1% 53.7% 58%
2 Apple 7.6% 12.6% 247%
3 Samsung 4.1% 8.5% 339%
4 RIM 3.4% 4.8% 195%
5 HTC 2.8% 3.5% 164%
Others 11.0% 16.9% 220%
รวม 100% 100% 109%
Source: IDC Asia/Pacific Quarterly Mobile Phone Tracker, 4Q10