กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--ปภ.
กรมป้องกันฯ แนะประชาชนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่เปิดน้ำไหลทิ้งขณะล้างหน้า แปรงฟันเลือกใช้อุปกรณ์ที่ประหยัดน้ำเพื่อรับมือและลดความรุนแรงของสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ภัยแล้งเป็นปัญหาที่ประเทศไทยประสบเป็นประจำทุกปี ซึ่งแม้ปีที่ผ่านมาจะมีปริมาณน้ำฝนมากก็ตามแต่ฤดูฝนสิ้นสุดเร็วกว่าทุกปี ทำให้เกิดปัญหาความแห้งแล้งอย่างรวดเร็ว ประชาชนเริ่มได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และเพื่อการเกษตรจำนวนมาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแนะนำประชาชนให้ร่วมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อลดการสูญเสียน้ำและการใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองและไร้ประโยชน์ โดยการไม่เปิดน้ำให้ไหลตลอดเวลา เมื่อล้างหน้า ล้างมือ แปรงฟัน โกนหนวด ถูสบู่ล้างจาน ควรปิดก๊อกน้ำก่อน และค่อยเปิดขณะที่ชะล้างหรือทำความสะอาด ขณะรดน้ำต้นไม้ควรใช้สปริงเกอร์ — ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการฉีดด้วยสายยาง ใช้ถังน้ำ—ฟองน้ำล้างรถ ไม่ใช้สายยางและเปิดน้ำไหลตลอดเพราะจะใช้น้ำมากกว่าที่จำเป็นถึง 4 เท่า ควรปิดน้ำขณะล้างรถ แล้วค่อยเปิดน้ำชะล้างทีเดียว
การใช้ภาชนะล้างพืชผักและผลไม้ ไม่ควรเปิดน้ำไหลตลอดเพราะจะสิ้นเปลืองน้ำกว่าที่จำเป็นถึง 1 เท่า ควรหาภาชนะใส่ขณะล้าง และนำน้ำที่ใช้ล้างผักแล้วไปรดน้ำต้นไม้ นอกจากนี้ ไม่ควรรดน้ำต้นไม้ตอนแดดจัด เพราะอาจจะทำให้มีการระเหยของน้ำโดยที่ต้นไม้และดินไม่อาจซับน้ำไว้ได้ และควรรดน้ำต้นไม้ในเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเช้าและช่วงเย็น สำหรับน้ำดื่มที่เหลือจากการดื่มให้ใช้รดน้ำต้นไม้ ชำระพื้นผิว หรือทำความสะอาดสิ่งต่างๆ แทน และควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดน้ำ และติดตั้งอุปกรณ์เติมอากาศที่หัวก๊อกของชักโครก ฝักบัว ก๊อก และหัวฉีดน้ำ เพื่อช่วยลดปริมาณการไหลของน้ำ สุดท้ายนี้ หากประชาชนร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด และปฏิบัติให้เป็นนิสัยในการดำเนินชีวิต นอกจากจะทำให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอแล้ว ประเทศไทยก็จะไม่ต้องประสบกับภาวะภัยแล้งอย่างแน่นอน