กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
TKS เพิ่มทุนให้กับนักลงทุนสถาบัน ขยายกำลังผลิตสยามเพรสฯ รับธุรกิจบูม
-คาดใช้เงินเบื้องต้น 119.7 ลบ. / ดันกำลังผลิตเป็น 700-750 ตันต่อเดือน
TKS ประกาศเพิ่มทุน 42 ล้านหุ้น เตรียมขายให้กับนักลงทุนสถาบัน รับตลาดการพิมพ์ ส่อเค้าบูม วางแผนนำเงินไปขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตให้ “ที.เค.เอส.สยามเพรส” และเก็บเป็นทุนหมุนเวียนในอนาคต คาดกระบวนการเพิ่มทุนเสร็จสิ้นในไตรมาส 3/50 เผยในเบื้องต้นดันกำลังการผลิตของ ที.เค.เอส. สยามเพรสฯ จาก 600 ตันต่อเดือน เป็น 700-750 ตันต่อเดือน พร้อมรองรับการแข่งขันได้อย่างคล่องตัว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2550 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2550 ได้มีมติ ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 318,000,000 บาท เป็น 360,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 42,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด ซึ่งการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทต้องการใช้เงินเพิ่มทุนเบื้องต้นจำนวนประมาณ 119.7 ล้านบาท ทั้งนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ลงทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด (TKS ถือหุ้น 100%) สำหรับการซื้อเครื่องจักรและก่อสร้างขยายโรงงานเพิ่มเติม รองรับการเติบโตในอนาคต และเงินส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจต่อไป
สาเหตุที่ตัดสินใจเพิ่มทุนในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นแนวโน้มของธุรกิจการพิมพ์ที่จะเติบโตอย่างชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป จากการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคการเมือง , งานเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ , เทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจการพิมพ์เริ่มมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องไปในอนาคต ขณะที่ธุรกิจ การพิมพ์ของบริษัทซึ่งดำเนินการผ่านทาง บริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด กำลังการผลิตใกล้จะเต็ม 100% จึงจำเป็นต้องขยายกำลังการผลิตรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาในอนาคตอันใกล้ เพราะเชื่อว่า เมื่อเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ธุรกิจการพิมพ์จะกลับมาแข่งขันกันมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัท มีเป้าหมายจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มจาก 600 ตันต่อเดือน มาเป็น 700-750 ตันต่อเดือน พร้อมกันนี้บริษัทมีพื้นที่รองรับการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ไว้แล้ว โดยเป็นการเตรียมเผื่อเอาไว้ตั้งแต่ต้นสำหรับแผนงานในอนาคต หากมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
"คาดว่ากระบวนการเพิ่มทุนจะเสร็จสิ้นในราวไตรมาสที่ 3/50 โดยจะนำเงินไปขยายกำลังการผลิตได้ทันทีในปี 2551 และจะรับรู้รายได้ทันทีในปีเดียวกัน ซึ่งจะทำให้รายได้ในธุรกิจการพิมพ์เติบโตได้ประมาณ 15% จากในปี 2550 ที่คาดว่าจะเติบโตในระดับ 12% โดยมีรายได้ประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาท สำหรับการลงทุนครั้งนี้ถือว่าไม่มาก เพราะจะดำเนินการแค่ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เป็นระบบดิจิตอลเพิ่มอีก 1 เครื่อง และมีแผนจะก่อสร้างโรงงานเพิ่มอีกเพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องจักรใหม่หากต้องการขยายกำลังการผลิตในอนาคต”
เขากล่าวต่อว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้นอกเหนือจากมีเป้าหมายเพื่อขยายธุรกิจในกลุ่มการพิมพ์แล้ว การมีพันธมิตรเป็นนักลงทุนสถาบันที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มธุรกิจในต่างประเทศเข้ามาร่วมถือหุ้น จะเป็นช่องทางสำหรับการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศในอนาคต ซึ่งปัจจุบัน TKS มีลูกค้าที่เป็นตลาดต่างประเทศอยู่แล้วบางส่วน อาทิ ในตลาดออสเตรเลียและสิงคโปร์ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% ของรายได้รวม และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10% ในอนาคต
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ TKS ในปีนี้ มั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 8-10% จากรายได้ในปี 2549 ที่มีรายได้ประมาณ 10,500 ล้านบาท หลังจากไตรมาสที่ 2/50 ทั้งธุรกิจไอที และธุรกิจการพิมพ์ มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจากไตรมาสแรกอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อเนื่องหลังจากการเมืองมีความชัดเจน ภาครัฐเริ่มใช้จ่ายมากขึ้นและภาคธุรกิจเริ่มขยายธุรกิจอีกครั้ง
ทั้งนี้ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2550 วันที่ 3 เดือนกันยายน 255
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : นายณัฐพงษ์ ใจแกล้ว โทร. 02-5449396