นักวิชาการนิด้าเชื่อรัฐบาลผ่านอภิปรายฉลุย แนะรัฐเน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจยั่งยืนดีกว่าเน้นประชาภิวัฒน์

ข่าวทั่วไป Friday March 18, 2011 08:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ชำแหละอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ชี้ฝ่ายค้านได้แต้มบวกจากการอภิปรายประเด็นทางเศรษฐกิจที่มีมูล แต่ก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วจะได้รับเสียงสนับสนุนจนผ่านฉลุย พร้อมแนะรัฐบาลเน้นวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจระยะยาว สร้างความยั่งยืนมากกว่าจะซื้อใจแก้ปัญหาระยะสั้นด้วยนโยบายประชาภิวัฒน์ รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการ MPA Executive Program Bangkok สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้แสดงความคิดเห็นต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในประเด็นด้านเศรษฐกิจว่า ต้องยอมรับว่า ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเงินเฟ้อ ค่าแรง สินค้าราคาแพงและขาดตลาดนั้น ฝ่ายค้านสามารถหาข้อมูลมานำเสนอได้ค่อนข้างดี และเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำให้ประชาชนสนใจ ขณะที่รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามในเรื่องเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการบริหารงานของรัฐบาลไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า จึงทำให้เกิดปัญหา อย่างเช่นกรณีของกระทรวงพาณิชย์ในการปัญหาน้ำมันปาล์ม “งานนี้ต้องถือว่า ฝ่ายค้านได้แต้ม จากการชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่มีผลกระทบโดยตรงทำให้ประชาชนเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า รัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเสียงโหวตและน่าจะได้รับการไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน” รศ.ดร.มนตรีกล่าว อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจอีกหลายประเด็นที่รัฐบาลใช้วิธีแก้ไขที่ไม่เหมาะสม และไม่เป็นไปตามหลักทางวิชาการ อาทิเช่น เรื่องขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ที่จะส่งผลต่อภาระการคลังระยะยาว ซึ่งจะต้องบริหารให้ดี โดยรัฐบาลได้จัดทำงบประมาณปี 2554 โดยมียอดขาดดุลสูงถึง 4.2 แสนล้านบาท ผู้อำนวยการ MPA Executive Program Bangkok นิด้า กล่าวว่า การแก้ปัญหาของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นการแก้เพื่อหวังผลในระยะสั้นมากกว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาของประเทศในระยะยาว อย่างเช่นในปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อไม่ได้สูงมากนัก แต่รัฐบาลกลับอนุมัติให้มีการขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งที่ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งรายจ่ายแบบนี้ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มภาระการคลังในระยะยาว นอกจากนี้ การขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็ยังเป็นต้นเหตุที่จะส่งผลต่อเนื่องให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ภาระต้นทุนของผู้ประกอบการที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการผลิตที่ลดลง และ ประชาชนที่ไม่ได้ขึ้นค่าแรงก็จะมีรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่จะเกิดตามมาต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การขึ้นเงินเดือนดังกล่าวก็อาจไม่ได้ส่งผลด้านบวกต่อการเติบโตด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างเต็มที่นัก เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงความยั่งยืนในการแก้ปัญหาระยะยาวและการแก้ปัญหาที่ตรงจุด จึงคาดว่าผลที่ตามมาอาจจะไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ต้องเสียไป ดังนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องบริหารงบประมาณให้ดี เช่นเดียวกับที่ภาคเอกชนจะต้องบริหารต้นทุนให้ดี เนื่องจากประเทศไทยเพิ่งจะผ่านพ้นปัญหาเศรษฐกิจมาได้ไม่นาน โดยปัจจุบันภาระงบประมาณแผ่นดินกว่า 80% เป็นรายจ่ายประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการ ทำให้มีสัดส่วนของงบประมาณที่จะนำไปใช้ในการลงทุน วางโครงสร้าง พัฒนาประเทศ ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะพยายามดูแลในเรื่องค่าครองชีพ แต่ก็มีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้รับผลพวงจากมาตรการดังกล่าวด้วย ทำให้มีรายได้เท่าเดิมแต่จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ทำให้มีความเดือดร้อนเนื่องจากรายได้แท้จริงติดลบ ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะใช้นโยบายในการที่จะทำให้เกิดการเพิ่มศักยภาพในการก่อให้เกิดรายได้ให้มากขึ้น อาทิ การจัดการศึกษาทั้งในและนอกระบบเพื่อให้ความรู้มากขึ้น รวมถึงการฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงานและผู้ประกอบการให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาวและยั่งยืนมากกว่า “ทุกคนรู้และเข้าใจว่าปัญหาของประเทศมีมากมาย ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลคงไม่สามารถแก้ได้หมดทุกปัญหา แต่ก็อยากจะให้รัฐบาลวางรากฐานรองรับการเติบโตในอนาคตไว้ด้วย โดยหวังว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้เมื่อทุกอย่างฟื้นตัวขึ้นมา เศรษฐกิจก็สามารถจะกลับมาขับเคลื่อนไปได้ด้วยตัวเอง” ผู้อำนวยการ MPA Executive Program Bangkok นิด้า กล่าว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนามหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) พิภพ ฆ้องวง (ท๊อป) โทร. 02-248-7967-8 ต่อ 118 Email : c_mastermind@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ