"ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ปักธงรบประกาศชัยทุกโรงภาพยนตร์ 18 ม.ค.นี้ รายได้ทั้งหมดทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง

ข่าวทั่วไป Wednesday January 17, 2007 15:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
"ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี จากการกำกับของ ท่านมุ้ย - ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล พร้อมเผยจารึกแห่งหน้าประวัติศาสตร์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติมหาราชผู้ประกาศอิสรภาพให้ชนชาติสยาม ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ในวันกองทัพไทย 18 มกราคม 2550 สำหรับภาค 1 "องค์ประกันหงสา" ส่วนภาค 2 "ประกาสอิสรภาพ" จะจัดฉายอย่างต่อเนื่องในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์เรื่องนี้ จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยในการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้จำลองท้องพระโรงพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองซึ่งมีความวิจิตรงดงามอย่างยิ่งมาจัดแสดงที่บริเวณชั้น 1 โซนอีเดน เซ็นทรัลเวิลด์พลาซา และนิทรรศการภาพถ่ายจากภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ผลงานของช่างภาพมืออาชีพ โอ สิงหสุวิช ที่ บริเวณโซนเฮเว่นออนเซเว่น ชั้น 7 ใกล้กับ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ให้ผู้สนใจได้ชมตลอด 1 เดือน
ภาพยนตร์แห่งอิสรภาพเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างถึง 700 ล้านบาท ใช้เวลาในการถ่ายทำกว่า 3 ปี และเป็นภาพยนตร์ที่รวมดารานักแสดงทั่วฟ้าเมืองไทยทุกรุ่น ตั้งแต่อายุ 7-88 ปี กว่า 50 คน พร้อมนักแสดงประกอบที่หมุนเวียนร่วมเข้าฉากกว่า 1 แสนคน และทีมงานกว่า 200 คน ความยิ่งใหญ่อลังการที่เป็นการสร้างปรากฏการณ์โฉมใหม่ให้แก่วงการภาพยนตร์ไทยครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทุกคนและทุกฝ่ายต่างภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วม และเชื่อว่าจะสามารถปลุกจิตสำนึกในเรื่องความรักชาติ และสร้างกระแสการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินได้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ท่านมุ้ยได้กล่าวถึงการใช้เวลาในการถ่ายทำนานกว่า 3 ปี ว่า "รายละเอียดเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีมากมาย ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านมีเรื่องราวที่สำคัญและน่าสนใจมากมาย ซึ่งผมอยากถ่ายทอดให้คนไทยโดยเฉพาะรุ่นลูกรุ่นหลานได้เรียนรู้ให้มากที่สุด ผมใช้เวลา 6 ปีในการหาข้อมูลและเดินทางไปยังสถานที่จริงทั้งในเมืองไทยและพม่า ข้อมูลทางประวัติศาสตร์บางเรื่องตรงกัน บางเรื่องต่างกันนิดหน่อย บางเรื่องไม่มีในประวัติศาสตร์ของไทย แต่มีอยู่ในข้อมูลของพม่า อย่างเรื่องของพระสุพรรณกัลยา หรือเรื่องที่พระองค์ดำเคยไปประทับอยู่ที่หงสาวดี เรื่องการตีไก่ เหล่านี้ไม่มีในเอกสารประวัติศาสตร์ของไทย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราใช้ชื่อภาพยนตร์ว่า ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
นอกจากนี้ ท่านมุ้ยยังได้กล่าวถึงการจัดทำเป็นภาพยนตร์ไตรภาคว่า "วีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ กล้าหาญเด็ดเดี่ยว อดทนและทรงมุ่งมั่นที่จะกอบกู้เอกราชตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ความคับแค้นพระทัยในการอยู่ท่ามกลางศัตรู จึงอยากถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน และตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่า "อิสรภาพ" ที่ทำให้เรามีศักดิ์ศรีอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งรายละเอียดมากมายนี้หากสร้างให้จบในภาคเดียวคงไม่ประทับใจ ดูไม่รู้เรื่อง จึงทำเป็น 3 ภาค คือช่วงปฐมวัย ประกาศอิสรภาพ และการทำศึกสงครามครั้งสำคัญๆ"
สำหรับภาคแรก "องค์ประกันหงสา" มีจุดเด่นที่การสื่อถึงจินตภาพที่เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ "พระองค์ดำ" (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ในช่วงทรงพระเยาว์ที่ต้องเสด็จไปประทับยังหงสาวดีในฐานะองค์ประกัน ภายใต้การดูแลประดุจโอรสบุญธรรมของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงพระผนวชเป็นสามเณรอยู่ในสำนักของพระมหาเถรคันฉ่องที่ได้ถวายความรู้แด่พระองค์ดำจนทรงเจนจบทั้งศิลปวิทยาการแขนงต่างๆ และยุทธศาสตร์การรบตามตำราพิชัยสงคราม จากรายละเอียดที่ท่านมุ้ยและทีมงานได้ค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลมากมายมานำเสนอโดยภาคแรกนี้จบลงในช่วงที่ทรงหนีกลับอยุธยา
นักแสดงรุ่นเยาว์หน้าใหม่ที่ท่านมุ้ยเป็นผู้คัดเลือกให้รับบท "พระองค์ดำ" คือ น้องบีเจ ด.ช.ปรัชฌา สนั่นวัฒนานนท์ จากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งมีความสามารถทางการแสดงและมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ อดทนกับการทำงานในกองถ่ายทำภาพยนตร์เกินวัย 9 ขวบ จนได้รับคำชมเชยจากนักแสดงรุ่นใหญ่และทีมงาน
"ภาพยนตร์เรื่องนี้สำคัญมากนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกอบกู้ชาติบ้านเมืองมาให้เรา ผมศึกษาจากหนังสือที่ครูสอนการแสดงหามาให้อ่าน เป็นการ์ตูน สนุกมากครับ ก่อนแสดงทุกครั้งท่านมุ้ยจะเรียกมาคุย ให้ทำความเข้าใจกับบทก่อน ถ้ายังแสดงได้ไม่ดีท่านก็สอนว่าควรทำอย่างไร ภูมิใจที่ได้ทำงานกับท่าน เพราะท่านเป็นผู้กำกับที่เก่งมากครับ ผมก็ทุ่มเทสุดความสามารถ ไม่ท้อครับ" น้องบีเจ กล่าว
ความยิ่งใหญ่อลังการของ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ได้รับความสนใจจากคนไทยทั่วประเทศ โดยมีกระแสตอบรับที่แรงมาก ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากผู้สนับสนุนทุกราย คือ เซเว่นอีเลฟเว่น, ทรู, ธนาคารไทยพาณิชย์ และการบินไทย ในการร่วมโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ทางเซเว่นอีเลฟเว่น ได้จัดทำสินค้าลิขสิทธิ์กว่า 20 ชนิด อาทิ สายรัดข้อมือ, ถ้วยกาแฟ, เสื้อ, หมวก, พวงกุญแจ, สติ๊กเกอร์, สมุดโน้ต, แฟ้ม,แทตทู, ชุดปากกา-ดินสอ, จำหน่ายที่เซเว่นอีเลฟเว่นกว่า 3,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม
ในส่วนของ ทรู ก็ร่วมโปรโมตผ่านสื่อทุกประเภท โดยนำภาพต่างๆ จากภาพยนตร์ไปจัดทำเป็น คอลเลคชั่นสำหรับบัตรเติมเงิน, บัตรเงินสด, ซิมการ์ดทรูมูฟ, ทั้งยังมีคอนเทนท์ต่างๆ จากภาพยนตร์ให้ดาวน์โหลดฟรี อาทิ สกรีนเซฟเวอร์ และวอลล์ เปเปอร์ ฯลฯ
สำหรับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำบัตรเอทีเอ็ม รุ่น "นเรศวร" จำนวนจำกัด 100,000 ใบ ที่ออกแบบอย่างสวยงาม 4 แบบ
นอกจากนี้ยังมีสินค้าลิขสิทธิ์อื่นๆ ที่บริษัท พร้อมมิตร โปรดักชั่น จำกัด ผู้สร้างภาพยนตร์ได้จัดทำขึ้น โดยมอบหมายให้บริษัทผู้ได้รับสิทธิ์ดำเนินการ อาทิ หนังสือ "ตามรอยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" จัดพิมพ์โดย อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, หนังสือเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ ผลิตโดยนิตยสาร ไอโอสโคป, นิตยสารดาราภาพยนตร์ฉบับพิเศษ, ดีวดีและวีซีดี ชุดพิเศษเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ จัดจำหน่ายโดยสหมงคลฟิล์ม, เกมการ์ด จัดจำหน่ายโดย พร้อมมิตร โปรดักชั่น และ Collectible Figurine ผลิตโดย อาร์ทีบ๊อกซ์ ฯลฯ
ร่วมกันภาคภูมิใจกับภาพยนตร์แห่งอิสรภาพ ที่จะปักธงประกาศชัยพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ 18 ม.ค.นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. 0 2691 6302-4, 0-2274 961-2

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ