กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กรมบัญชีกลางรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ประจำเดือนมีนาคม 2550 เบิกจ่ายเงินไปแล้ว 127,872.18 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.16 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 0.10 และในช่วงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เบิกจ่ายเงินไปแล้ว 664,082.14 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.40 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 4.11
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงการเบิกจ่ายเงิน ดังนี้
1. เดือนมีนาคม 2550 ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 127,872.18 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.16 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 0.10 จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน 106,881.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.57 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,246,571.25 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกัน ของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 0.13 (8.57 - 8.70) และรายจ่ายลงทุน จำนวน 20,990.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.57 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 319,628.75 ล้านบาท สูงกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 0.37 (6.57 - 6.20)
2. ในช่วงไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 (ตุลาคม 2549 - มีนาคม 2550) ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังทั้งสิ้น 664,082.14 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.40 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนร้อยละ 4.11 และต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายร้อยละ 0.06 (42.40 - 42.46) จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ จำนวน 556,724.19 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.66 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ 1,246,571.25 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 4.61 (44.66 - 49.27) รายจ่ายลงทุน จำนวน 107,357.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.59 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน 319,628.75 ล้านบาท ต่ำกว่าอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนเท่ากับร้อยละ 4.98 (33.59 - 38.57)
2.1 กระทรวงที่มีอัตราการเบิกจ่ายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ กระทรวงแรงงานและรัฐวิสาหกิจ มีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 74.91 53.06 และ 50.81 ตามลำดับ
2.2 โครงการที่ได้งบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ที่มีผลการเบิกจ่ายสูงสุด 3 อันดับแรกยังคงได้แก่ โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการพัฒนาความมั่นคงที่อยู่อาศัยคนจนในชุมชนแออัดโครงการบ้านมั่นคง และรายจ่ายในการบริหารจัดการของรัฐบาลด้านความมั่นคง มีอัตราการเบิกจ่ายรายจ่ายต่อวงเงินงบประมาณร้อยละ 81.03 78.68 และ 53.33 ตามลำดับ
นายมนัส กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐที่มี ท่านรองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) เป็นประธาน หน่วยงานกลาง / กระทรวง / กรมที่มีงบประมาณสูงเป็นกรรมการ และกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ มีการประชุมครั้งที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 โดยท่านประธานได้มอบนโยบายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเบิกจ่ายเงินภาครัฐและต้องการให้ส่วนราชการ / รัฐวิสาหกิจ เจ้าของงบประมาณเร่งรัดการใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และได้มอบหมายงานให้หน่วยงานกลางและหน่วยงานที่มีงบประมาณสูงติดตามเร่งรัด และแก้ไขปัญหาในส่วนที่รับผิดชอบเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามเป้าหมายและเม็ดเงินลงสู่ประชาชนฐานราก ซึ่งทำให้คาดหมายได้ว่าการเบิกจ่ายเงินจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และได้อัตราตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ในปีนี้จะมีมาตรการที่เข้มงวดในเรื่องการเบิกจ่ายเงินและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี กล่าวคือหากส่วนราชการใดก่อหนี้ไม่ทันภายในปีงบประมาณอาจไม่ได้รับอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี