กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ค่าย เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ผู้นำตลาดลงทุนทองคำครบวงจร ประกาศเดินหน้าปรับ กลยุทธ์เตรียมความพร้อม และปูพื้นฐานนักลงทุนทองคำที่มีอยู่รวมกว่า 2,000 ราย สู่กระบวนการเทรดออนไลน์เต็มรูปแบบ เพื่อรองรับแผนตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) ที่ดีเดย์พร้อมขยายเวลาเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ส ในช่วง 19.30-22.30น. และพร้อมเปิดบริการเทรด ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส โดยจัดสัมมนาใหญ่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ผ่านช่องทาง “MTS Academy” โดยมีลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 250 ราย เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับระบบ “MTS Online” ที่พัฒนาขึ้นอย่างประสิทธิภาพ และครบวงจร อาทิ ระบบฐานข้อมูล, ระบบการเทรดออนไลน์ , ระบบการชำระเงินออนไลน์ เป็นต้น
น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเตรียมการในการรองรับนโยบายการเพิ่มบริการของบริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่จะมีการเปิดให้บริการเพิ่มเวลาการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สในช่วงเวลา 19.30-22.30 น. และการให้บริการซื้อขายสัญญาการลงทุนซิลเวอร์ ฟิวเจอร์ส ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า จะเปิดให้บริการในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ ดังนั้นทางกลุ่มบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ในฐานะผู้นำการให้บริการด้านการลงทุนทองคำที่ครบวงจร จึงได้มีการปรับกลยุทธ์หลัก เพื่อรองรับการให้บริการดังกล่าว โดยมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุน มาสู่การใช้บริการด้วยระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้พัฒนาบริการลงทุนซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งด้านระบบฐานข้อมูลการวิเคราะห์การลงทุน, ระบบการซื้อขาย และระบบการชำระเงิน(Midnight Clear ที่ชำระได้ถึงเที่ยงคืนไปสู่ธนาคารหลัก อันได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารไทยพาณิชย์ ผ่านระบบออนไลน์) เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่นักลงทุน ก่อนที่จะมีการเปิดให้บริการจากทางการแบบเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
“ก่อนหน้านี้ กลุ่มนักลงทุนมักจะใช้บริการในลักษณะ โกลด์โฟน หรือการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบโทรศัพท์เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าร้านค้าทอง หรือลูกค้ารายใหญ่ แต่หลังจากบริษัทฯ มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีและระบบออนไลน์ ให้รองรับการให้บริการซื้อขายทองคำแท่งแบบครบวงจร ตั้งแต่ระบบฐานข้อมูล , ระบบที่รองรับการซื้อขาย และระบบการชำระเงิน อย่างเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อย ปรากฎว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ไปจนถึงลูกค้ารายย่อยมากขึ้น โดยสัดส่วนเริ่มปรับขึ้นมาสู่การใช้ระบบบริการเทรดออนไลน์ประมาณ 40% ซึ่งในช่วง 2-3 เดือนจากนี้เป็นต้นไป คาดว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การใช้ระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นราว 60% ทีเดียว นับเป็นการปูพื้นฐานสำคัญสู่การเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ส ในช่วงกลางคืน ที่จะเกิดขึ้นด้วย อย่างล่าสุดบริษัทฯ มีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนผ่านระบบออนไลน์ ที่มีลูกค้าสนใจเข้าร่วมงานเกือบ 250 คนนั้น พบว่า กว่า 60% มีความสนใจเป็นอย่างมากที่จะหันมาใช้ระบบการลงทุนออนไลน์เพิ่มขึ้นนั่นเอง” น.พ.กฤชรัตน์ กล่าว
ด้านนาย ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวเสริมว่า การพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสั่งซื้อ — ขายทองคำผ่านระบบ โกลด์ออนไลน์, โกลด์โฟน และระบบโกลด์โมบาย รวมถึงบริการ ““MTS MIDNIGHT TRADE” และบริการ ““MTS MIDNIGHT CLEAR” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีนักลงทุนและลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยปัจจุบัน มียอดสมัครบัตร MTS Sabai Card ที่มีเข้ามากว่า 1300 ราย และยอดสมัครใช้บริการ MTS Midnight Clear ซึ่งเป็นระบบชำระเงินล่าสุดที่บริษัทได้ทำการพัฒนาขึ้นแล้วกว่า 700 ราย ซึ่งระบบดังกล่าวตอบรับกับความต้องการของนักลงทุนทองคำที่ใช้บริการในช่วงกลางคืนได้เป็นอย่างดี เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนทองคำแท่งให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับ ระบบ MTS MIDNIGHT CLEAR ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ล่าสุดของกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและนักลงทุน รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนทองคำแท่งให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยสามารถเปิดระบบ Clear Port ในการชำระเงินได้จนถึงเที่ยงคืน โดยลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ หรือธนาคารไทยพาณิชย์ได้จนถึงเที่ยงคืน ซึ่งปกติการชำระเงินจะดำเนินการได้เฉพาะในช่วงที่ธนาคารเปิดทำการเท่านั้น ซึ่งระบบดังกล่าวนี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถ Clear Port Auto ได้ในทันที โดยลูกค้าสามารถส่งคำสั่งชำระเงินด้วยตัวเองได้ถึงเที่ยงคืน โดยไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารใบชำระเงิน( pay-in) เพื่อเคลียพอร์ตกับสถาบันการเงินอีก มีการพัฒนาให้ระบบมีความปลอดภัยสูง ที่เรียกว่า Triple Lock เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอีกด้วย
ด้านน.พ. กฤชรัตน์ กล่าวเสริมเกี่ยวกับตลาดทองคำในขณะนี้ (ราคา ณ. วันจันทร์ที่ 21 มี.ค. Spot อยู่ที่ 1,427 เหรียญ) ราคาทองคำอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการสู้รบในลิเบีย หลังจากที่กองทัพอังกฤษระดมยิงขีปนาวุธโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของลิเบียซึ่งอยู่รอบกรุงทริโปลีและเมืองมิสราตา ทำให้ราคาปรับขึ้นมา 150 บาทต่อบาททองคำ และยังมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1,440 USD ในเร็วๆนี้ โดยราคามีแนวรับสำคัญที่ 1,400 เหรียญ จำแนะนำให้นักลงทุนเริ่มเข้าซื้อในจังหวะที่ราคาอ่อนตัวเท่านั้น และขายที่แนวต้านสำคัญดังกล่าว