กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคเอกชนสหภาพยุโรปโดยกลุ่มผู้ค้าปลีก (Euro-retailer Produce Group:
Eurep) ได้กำหนดข้อตกลงว่าด้วยมาตรฐาน EurepGAP (Euro-retailer Produce Working Group for Good Agricultural Practices) ในสินค้าผัก ผลไม้ ปศุสัตว์ และไม้ดอก ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคในสหภาพยุโรปได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคอาหารที่ได้จากผลผลิต ทางการเกษตร รวมถึงกระบวนการผลิตต้องส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ตลอดจนผู้ผลิตต้องดูแลด้านสวัสดิภาพแรงงานด้วย
ทั้งนี้ผู้ค้าปลีกในสหภาพยุโรปจะไม่สนใจที่จะนำเข้าสินค้าเกษตรจากผู้ผลิต หากไม่ได้มาตรฐาน EurepGAP โดยปัจจุบันไทยส่งสินค้าเกษตรไปสหภาพยุโรป ในปี 2549 ประมาณ 60,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 9 ของมูลค่าการส่งออกไปสหภาพยุโรปทั้งหมด
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวโดย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้จัดสัมมนา ณ โรงแรมริชมอนด์โดยได้เชิญวิทยากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก UNCTAD คือ Dr.Ulrich Hoffmann
รวมทั้งตัวแทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อบรรยาย เรื่อง ผลกระทบของมาตรฐานเอกชน : EurepGAP
ต่อการส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา 3 กลุ่มประเทศ คือ กลุ่มประเทศแอฟริกา ได้แก่ ประเทศกาน่า เคนย่า อูกันดา กลุ่มประเทศเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม กลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล และคอสตาริกา ซึ่งสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจซักถามและแสดงความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนาภาครัฐบาลและภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ มีแผนที่จะจัดสัมมนา เรื่อง “มาตรฐาน EurepGAP: โอกาสและความท้าทายในตลาดอียู” ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 27 มิถุนายน 2550 ณ โรงแรมเซ็นทรัล โซฟิเทล ลาดพร้าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีทางการเกษตร (EurepGAP) ของสมาคมผู้ค้าปลีกในอียู ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทยได้ทราบล่วงหน้า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากต้องการส่งสินค้าเกษตรไปสหภาพยุโรป ทั้งนี้
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เวบไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.moc.go.th