กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต
กลุ่มแอกซ่า เอเชีย แปซิฟิก โฮลดิ้ง ปลื้มผลประกอบการปี 2549 มีรายได้ 454.5 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 24 % และมีกำไร 677.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25 % สะท้อนภาพให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจของกลุ่มแอกซ่า ขณะที่กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต มีอัตราเติบโต 49 %
มร.แอนดริว เพ็นน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอกซ่า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2549 ของกลุ่มแอกซ่า เอเชีย แปซิฟิก โฮลดิ้ง มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 454.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้น 24 % จากปี 2548 ซึ่งมีรายได้จากการดำเนินงาน 367.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรสุทธิ 677.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 25 % จากปีก่อนซึ่งมีผลกำไร 542.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และประกาศปันผลครั้งสุดท้ายที่ 11.25 เซ็นต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 45 % จากปีก่อนซึ่งปันผลที่ 7.75 เซ็นต์ต่อหุ้น
มร.แอนดริว กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมนี้ และกลุ่มแอกซ่ายังคงเติบโตตามแผนธุรกิจที่กลุ่มแอกซ่าได้วางไว้ในรอบหลายปีที่ผ่าน ซึ่งการที่กลุ่มแอกซ่มีรายได้เพิ่มขึ้น 24 % เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจของกลุ่ม แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มแอกซ่าได้ใช้จ่ายเงินซื้อกิจการเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน ทำให้กลุ่มสามารถเพิ่มอัตราเงินปันผลครั้งสุดท้าย และซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถกำหนดนโยบายด้านการแบ่งปันผลกำไรจากปีละ 50 % เป็น 60 % ของกำไรสุทธิได้
ทั้งนี้รายได้จากการประกอบธุรกิจในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้น 20% และกลุ่มแอกซ่าสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าธุรกิจของเราเป็นร้อยละ 65 ก่อนกำหนด 1 ปี ได้สำเร็จ มูลค่าของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นถึง 25% และได้ปรับปรุงอัตราส่วนระหว่างรายได้กับรายจ่ายได้ดีขึ้น
สำหรับรายได้จากการประกอบธุรกิจในฮ่องกงเพิ่ม 24% สะท้อนถึงการขยายตัวที่รวดเร็ว ผลกำไรที่งดงาม อัตราการดำรงอยู่ดีขึ้นและรายได้สมทบจากเอ็มแอลซี ฮ่องกง j(MLC Hong Kong)
ในระหว่างปี 2549 กลุ่มแอกซ่าเริ่มธุรกิจร่วมในอินเดียและมาเลเซีย แต่ตลาดส่วนอื่นๆ ในเอเชียก็ล้วนแต่ขยายตัวได้ดี ดัชนีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 61% ในขณะที่มูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 51%
“เราสามารถรวมกิจการของ MLC Hong Kong เข้ากันได้เป็นอยางดีและการผสมผสานค่าใช้จ่ายและรายรับของทั้งสองฝ่ายก็ดำเนินไปได้อย่างดีกว่าที่คาดไว้ เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้ลงนามในข้อตกลงกับ AXA SA เพื่อซื้อกิจการของ Winterhur Life Hong Kong ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของเราใหญ่ขึ้น ตลอดจนจะเปิดโอกาสให้เราได้เข้าถึงตลาดที่มีกำไรสุทธิสูงและตลาดยูนิตลิงค์นี้ได้มากขึ้น การควบรวมนี้จะถูกเสนอเข้าสู่การอนุมัติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปีนี้”
มร.แอนดริว ได้กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในอนาคต ว่า “ธุรกิจของเราดำเนินไปได้อย่างมั่นคงและเราอยู่ในฐานะที่ดีที่จะเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้นต่อไป
สภาพธุรกิจในตลาดออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ยังคงเข็มแข็ง การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางด้านงบประมาณของออสเตรเลียจะเพิ่มความดึงดูดใจในฐานะเครื่องมือการออมระยะยาว การเปลี่ยนด้านภาษีและการแนะนำโครงการ KiwiSaver ที่กำลังจะเกิดขึ้นในนิวซีแลนด์จะช่วยสถานะภาพด้านการออมเงินของประเทศนั้นได้ดี เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อบรรลุเป้าหมาย AXA 6 Goal ในตอนปลายปี 2007 ซึ่งหมายถึงเป็นการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้จริงๆ 1 ปี
สถานะภาพที่กลุ่มแอกซ่าเป็นผู้สร้างความแตกต่างในเอเชีย เป็นเสมือนโอกาสทองในการสร้างความเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจ เราประสบความสำเร็จในฮ่องกงด้วยการที่เราสามารถควบรวมกิจการของ MLC ได้สำเร็จก่อนเป้าหมายและแผนการซื้อกิจการ Winterthur Life Hong Kong ก็จะเป็นโอกาสที่ดีของเราในการขยายธุรกิจ การประกอบธุรกิจของเราในเอเชีย ขยายตัวอย่างเข็มแข็งและมีมูลค่าที่จับต้องได้มากขึ้น ด้วยการขยายตัวในลักษณะนี้ เราเชื่อว่าเรากำลังเคลื่อนไปสู่การบรรลุเป้าหมาย Asia 6 Goal ที่ตั้งไว้
“สถานะภาพทางด้านการเงินที่เข้มแข็งช่วยให้เราสามารถริเริ่มแผนบริหารเงินทุนใหม่ๆ และสร้างโอกาสทางด้านการขยายธุรกิจ” มร.แอนดริวกล่าวในตอนท้าย
ด้านบริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด ในปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างสูงและต่อเนื่อง โดยมีเบี้ยประกันรับปีแรก 1,300.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49 % และเบี้ยประกันรับรวม 3,136 ล้านบาท (รวมเบี้ยประกันชำระครั้งเดียว 10 %) เพิ่มขึ้น 49 % ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ส่งผลให้บริษัทฯพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ในใจของคนไทยภายในปี 2550