กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--คอร์ แอนด์ พีค
เป็นเรื่องง่ายที่จะบอกว่า “การเคลื่อนที่” และ “ไร้สาย” เป็นแนวโน้มของเทคโนโลยี แต่ยังไม่ชัดเจนนักว่าสิ่งดังกล่าวกำลังพัฒนาไปในทิศทางใด และสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจได้อย่างไร จะเห็นได้ว่าน้อยคนนักที่จะหยิบนิตยสารด้านธุรกิจหรือเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ขึ้นมาโดยไม่พบหัวข้อเกี่ยวกับการเติบโตทางเทคโนโลยีการเคลื่อนที่และไร้สาย และดูเหมือนว่าคนเราไม่สามารถอยู่ห่างพีดีเอ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ประมวลผลและสื่อสารอื่นๆ ไปได้ อย่างน้อยเมื่อพิจารณาจากอัตราการใช้และแนวโน้มการเติบโตในอนาคต
แต่สิ่งที่ขาดหายไปในกรณีนี้คือข้อมูลที่ใช้ในการอธิบาย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้แล้วสามารถปรับปรุงองค์กรและการทำงานของซัพพลายเชนได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่มีการเติบโตอย่างเทคโนโลยีการประมวลผลด้านการระบุแบบเคลื่อนที่ การพิมพ์ และจีพีเอส ไม่ได้อธิบายไว้ว่าผู้ให้บริการที่นำเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้มาทำงานเชื่อมโยงกัน สามารถประหยัดเวลาได้อย่างน้อยกว่า 40 นาที ต่อคนงาน 1 คน ต่อวัน และประหยัดได้มากถึง 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัท อินเตอร์เมคได้เข้ามาช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ให้ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดนี้ในด้านการผลิต จัดจำหน่าย การบริการภาคสนาม และสภาพแวดล้อมในระบบซัพพลายเชนอื่นๆ เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว โดยบริษัท อินเตอร์เมคได้บุกเบิกเทคโนโลยีหลายอย่างที่ใช้กันในปัจจุบัน อาทิ เทคโนโลยีการจับข้อมูล การประมวลผลเคลื่อนที่ และการสื่อสารไร้สาย และยังคงมุ่งมั่นในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับผู้นำด้านเครือข่ายไร้สายและการบริการข้อมูล ซอฟต์แวร์องค์กร และการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ โดยจากประสบการณ์ร่วมกับลูกค้าหลายพันรายทั่วโลก บริษัท อินเตอร์เมคสามารถเข้าถึงนักวิเคราะห์ นักวิจัย มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้นำด้านไอที และผู้จัดหาเครือข่ายโซลูชั่นที่ต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัท อินเตอร์เมคจึงได้จัดอันดับ 10 สุดยอดแนวโน้มเทคโนโลยีในด้านสภาพแวดล้อมการดำเนินงานแบบเคลื่อนที่ อุตสาหกรรม และซัพพลายเชน สำหรับปี 2550 - 2551 สมุดปกขาวนี้จะบ่งบอกถึงแนวโน้มดังกล่าว และยังอธิบายถึงวิธีการประยุกต์ใช้การดำเนินงานของซัพพลายเชน และเสนอผลลัพธ์ที่ได้จากผู้ใช้ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงธุรกิจของตนเอง
10 สุดยอดเทคโนโลยีที่มีผลต่อ Supply Chain
นี่คือสุดยอดเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มใน 10 อันดับแรก ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินการด้านซัพพลายเชน การขยายการผลิต การจัดจำหน่าย การค้าปลีก และการบริการระยะไกล
1. Connectivity: การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย 802.11 เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ บลูทูธ
2. Advanced Wireless (Voice & GPS) การสื่อสารด้วยเสียงและจีพีเอสเชื่อมรวมไปยังคอมพิวเตอร์ที่มีความทนทาน
3. Speech recognition: การสั่งงานด้วยเสียง
4. Digital imaging: การประมวลผลภาพดิจิตอล
5. Portable printing: การพิมพ์แบบเคลื่อนที่
6. 2 D & other bar coding advances: ความก้าวหน้าของระบบบาร์โค้ด 2 มิติ และระบบบาร์โค้ดอื่นๆ
7. RFID: อาร์เอฟไอดี
8. RTLS: ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง
9. Remote management: การจัดการทางไกล
10. Wireless and device security: ความปลอดภัยของอุปกรณ์และเครือข่ายไร้สาย
คุณน่าจะพอคุ้นเคยกับรายการเทคโนโลยีข้างต้นมาบ้างแล้ว แต่บางทีอาจไม่ใช่การพัฒนาและแนวโน้มล่าสุด ตัวอย่างเช่น คุณรู้หรือไม่ว่าแอพพลิเคชั่นใดๆ สามารถปรับเปลี่ยนให้รับสัญญาณเสียงได้ เนื่องจากการพัฒนาล่าสุดของเทคโนโลยีการเลียนแบบการจดจำเสียง คุณรู้หรือไม่ว่า บลูทูธ 802.11b/g การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่และจีพีเอสสามารถมีอยู่ในอุปกรณ์แบบพกพาเพียงชิ้นเดียว คุณรู้หรือไม่ว่าการปรับปรุงออพติกสามารถอ่านบาร์โค้ด 2 มิติที่อยู่บนกระดาษได้ในระยะที่ไกลขึ้น (50 ฟุตขึ้นไป) มากกว่าบาร์โค้ด 1 มิติ อยู่บนฉลากสะท้อนกลับ กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไปเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้และการพัฒนาอื่นๆ เพื่อช่วยในการผลิต การจัดจำหน่าย การบริการ และการดำเนินการด้านซัพพลายเชนอื่นๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Connectivity: การเชื่อมต่อ
การเชื่อมต่อไร้สายมีอยู่หลายรูปแบบ ได้แก่ บลูทูธสำหรับระบบเครือข่ายส่วนบุคคล ระบบไร้สาย 802.11 สำหรับระบบเครือข่ายแลนไร้สาย และระบบเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายในพื้นที่กว้างไกลของมือถือสำหรับการสื่อสารเสียงและข้อมูล เป็นสิ่งที่เห็นได้เป็นส่วนใหญ่ และขาดไม่ได้สำหรับการดำเนินธุรกิจในด้านการปฏิบัติการเฉพาะหลายๆ อย่าง แม้ว่านวัตกรรมและการนำไปใช้ได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ สิ่งที่ใหม่และสำคัญ คือ เทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกนำไปรวมอยู่ในอุปกรณ์ชิ้นเดียว และให้ฟังก์ชั่นการทำงานของระบบไร้สายหลายรูปแบบ นำมาซึ่งความสะดวกสบายทั้งกับผู้ใช้งานเอง และเจ้าหน้าที่ไอทีที่รับผิดชอบด้านการจัดการเครื่องมือเคลื่อนที่ดังกล่าว
สมาร์ทโฟนมีจุดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายในการเข้าถึงเสียงและข้อมูลได้ดี อย่างไรก็ตามยังคงมีข้อจำกัดอย่างมากในการส่งมอบ การบริการภาคสนาม และการดำเนินการแบบเคลื่อนที่ของซัพพลายเชนอื่นๆ เนื่องจากจอคอมพิวเตอร์ และส่วนติดต่อ (อินเตอร์เฟส) ไม่เหมาะกับแอพพลิเคชั่นขององค์กร และตัวอุปกรณ์เองไม่มีความทนทานเพียงพอสำหรับใช้งานในสภาวะแวดล้อมเช่นนี้ทุกวัน สำหรับการดำเนินการที่ต้องเก็บข้อมูลเป็นจำนวนมากหรือปริมาณการทำธุรกรรมที่มหาศาลนั้น เดิมบริษัทต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์พกพาที่มีความทนทานเพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อถือได้และประสิทธิภาพในการทำงานที่ต้องการ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ขาดคุณสมบัติด้านการเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่
Advanced Wireless: Voice & GPS ระบบไร้สายขั้นสูง : เสียงและจีพีเอส
ปัจจุบันบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำได้ผลิตคอมพิวเตอร์พกพาที่มีความทนทานสำหรับการสื่อสารด้วยเสียง ทำให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล สื่อสารข้อมูล และทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ด้วย โดยทั้งหมดนี้รวมอยู่ในอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน ผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลในการแยกเก็บรักษาโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ออกจากกัน หรือไม่มีความจำเป็นที่ต้องเปิดปิดกลับไปมาระหว่างอุปกรณ์เพื่อให้งานประจำวันสำเร็จลงได้ การรวมข้อมูลและเสียงเข้าไปในอุปกรณ์ชิ้นเดียวที่รวมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันนั้น สามารถลดผู้ดูแลระบบของอุปกรณ์ได้เป็นจำนวนกว่าครึ่งของจำนวนทั้งหมด ซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จะเห็นได้ว่าบ่อยครั้งที่บลูทูธถูกนำมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์เหล่านี้ โดยใช้เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่อยู่รอบๆ ซึ่งนั่นทำให้เกิดการลดต้นทุนรวมการเป็นเจ้าของลงได้อีกจากการกำจัดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมและการเปลี่ยนสายเคเบิล
การเชื่อมรวมการติดต่อเข้าด้วยกันยังคงดำเนินต่อไปด้วยการนำระบบสื่อสารจีพีเอสมาใช้กับคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น ในรุ่น CN 3 ของบริษัทอินเตอร์เมค ประกอบไปด้วยระบบเสียงและข้อมูลไร้สายครอบคลุมพื้นที่กว้างไกล เชื่อมต่อด้วย 802.11 บลูทูธ และจีพีเอส ทั้งหมดบรรจุอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่สามารถใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อได้
กรณีตัวอย่าง
สแตนลีย์ สตีมเมอร์ ธุรกิจแฟรนไชส์ทำความสะอาดพรม ดำเนินงานโดยอัตโนมัติใน 2 สาขาด้วยคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ที่เชื่อมต่อกับระบบสื่อสารไร้สายบริเวณกว้าง จีพีเอส และเครื่องอ่านแถบแม่เหล็กสำหรับดำเนินการการชำระด้วยบัตรเครดิตในเวลาจริงเมื่อการให้บริการเสร็จสิ้น การส่งเอกสารเคลื่อนที่ด้วยระบบจีพีเอส และการสื่อสารสองทางในเวลาจริงทำให้สแตนลีย์ สตีมเมอร์ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้เพียงพอโดยไม่ต้องจ้างพนักงานส่งเอกสารประจำในแต่ละสาขา และในแต่ละสถานที่นั้นสามารถประหยัดได้มากถึง 300 - 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ และทั้ง 2 สาขาสามารถประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการดำเนินการด้านเอกสารได้เป็นอย่างมาก
และด้วยค่าใช้จ่ายที่ลดลงของระบบสื่อสารไร้สายบริเวณกว้าง (ได้แก่ จีพีอาร์เอส จีเอสเอ็ม ซีดีเอ็มเอ และเทคโนโลยีอื่นๆ) และมากไปกว่าการวางแผนข้อมูลทั่วไป นวัตกรรมการประมวลผลเช่นนี้สามารถหาซื้อได้ และใช้งานได้จริงกับหลายบริษัท เช่นการนำไปใช้ในการเข้าถึงระบบข้อมูลในเวลาจริงสำหรับพนักงานส่งของ พนักงานขาย และบุคลากรที่ให้บริการ รวมไปถึงผู้ตรวจสอบและบุคลากรอื่นๆ
Speech recognition : การสั่งงานด้วยเสียง
เทคโนโลยีด้านเสียงอีกอย่างสำหรับการดำเนินการด้านซัพพลายเชน คือ การสั่งงานด้วยเสียงพูดสำหรับการป้อนข้อมูลแบบแฮนด์ฟรี ซึ่งกำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรมและมีการนำไปใช้ การสั่งงานด้วยเสียงพูดสามารถช่วยระบบการผลิตได้ โดยผู้ใช้ไม่ต้องมัวแต่เพ่งมองที่จอคอมพิวเตอร์อีกต่อไป จากแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นระบบเปิด และการปฏิบัติการที่เป็นสากลของการสังเคราะห์เสียง ความสามารถในการจดจำเสียงพูดขณะนี้ สามารถใช้ได้กับซอฟต์แวร์หลากหลายจำนวนมาก ประกอบด้วยการจัดการคลังสินค้า การขนและการเก็บเข้าที่ สินค้าคงคลัง การตรวจสอบ การควบคุมคุณภาพ และการนำไปใช้ในด้านอื่นๆ การบูรณาการที่ง่ายดายนี้เป็นไปได้ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียงที่ใช้การจำลองจอเทอร์มินัล (Terminal Emulation: TE) ซึ่งเป็นการขจัดความต้องการใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับเสียงแยกต่างหาก และส่วนติดต่อเฉพาะระหว่างระบบเสียงพูดและซอฟต์แวร์ที่ใช้ เทคโนโลยีแบบทีอีนี้สามารถสังเคราะห์เสียงเพื่อลดความจำเป็นที่จะต้องเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ และการสั่งงานด้วยเสียงพูดนี้ยังแสดงให้เห็นว่าเป็นเทคโนโลยีสำหรับการป้อนข้อมูลได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่แอพพลิเคชั่นแยกส่วน แต่ต้องได้รับการจัดการอย่างบูรณาการ การใช้การจำลองเทอร์มินอลสำหรับจัดรูปแบบและดำเนินการป้อนและส่งออกเสียง ช่วยให้ข้อมูลไหลผ่านทั้งจากและเข้าสู่แอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ ราวกับว่าเป็นการป้อนข้อมูลจากการสแกนบาร์โค้ด การกรอกข้อมูล หรือไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตามที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ใช้การจำลองเทอร์มินัล สามารถทำงานร่วมกับระบบการจัดการของคลังสินค้าได้ในเวลาจริง ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่สำคัญเรื่องหนึ่งจากเทคโนโลยีสั่งงานด้วยเสียงที่มีอยู่เดิม
การสั่งงานด้วยเสียงแต่เดิมนั้น มักจะใช้สนับสนุนการปฏิบัติการโดยรวมชั้นสูงที่ผู้วางระบบให้ความสำคัญกับเวลาและการผลิตมากกว่าความแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการคัดเลือก จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่ป้อนจากบาร์โค้ดจะมีความแม่นยำมากกว่า และการป้อนเสียงโดยทั่วไปนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่าสามารถส่งเสริมกระบวนการผลิตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากพนักงานสามารถใช้มือกับสายตาในการคัดเลือกได้โดยไม่ต้องมัวแต่จ้องมองจอคอมพิวเตอร์ ใช้คีย์บอร์ด และเครื่องสแกนในการดำเนินงานแล้วเสร็จ โดยมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าการป้อนข้อมูลด้วยบาร์โค้ดนั้นมีความแม่นยำมากกว่าการใช้เสียง (99% เทียบกับ 95%) แต่ในระบบบาร์โค้ดต้องใช้พนักงานประจำ 26 ตำแหน่ง (เอฟทีอี) เพื่อจัดการปริมาณการทำธุรกรรมที่เท่ากัน
กรณีตัวอย่าง
Lighthouse for the Blind เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในรัฐเซนต์หลุยส์ และเป็นสถานที่ฝึกและจ้างพนักงานที่พิการทางสายตา สามารถปรับปรุงคลังสินค้าได้ถึง 25% ด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบนวัตกรรมนี้ประกอบด้วย ระบบยืนยันเสียงใช้คัดเลือกสิ่งของ สามารถช่วยพนักงานที่พิการทางสายตาเลือกสินค้าตามลำดับได้อย่างถูกต้อง
เมื่อทำการวิเคราะห์ระบบแบบผสมผสานที่ใช้การสั่งงานด้วยเสียงโดยใช้ทีอี พบว่ามีความแม่นยำเทียบเท่ากับการป้อนข้อมูลด้วยบาร์โค้ด ขณะที่ใช้พนักงานน้อยกว่าถึง 22 เอฟทีอี แสดงให้เห็นว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อคำนึงถึงผลของความผิดพลาดในการตรวจสอบ
Digital imaging: การประมวลผลภาพดิจิตอล
เช่นเดียวกับเสียง ภาพดิจิตอลเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ลูกค้ามีความคุ้นเคย ซึ่งในขณะนี้ได้เป็นพื้นฐานในแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์การประมวลผลเคลื่อนที่ขององค์กร บริษัทขนส่งและกระจายสินค้าใช้กล้องดิจิตอลเชื่อมรวมกับคอมพิวเตอร์แบบพกพา ดังนั้นพนักงานขับรถสามารถบันทึกข้อมูลการจัดส่ง จัดเก็บใบเสร็จที่ประทับตรา และรายละเอียดของเงื่อนไขที่ใช้ในการป้องกันการส่งสินค้า
กรณีตัวอย่าง
บริษัท มิชชั่นฟูดส์ คือผู้ผลิตอาหารแม็กซิโก รายใหญ่ของโลก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ส่งขายไปทั่วสหรัฐ โดยดำเนินการแบบขายตรงที่ส่งให้ถึงที่สำหรับซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีก บริษัท มิชชั่นฟูดส์ ได้เปลี่ยนรูปแบบจากการการออกใบเสร็จด้วยมือมาเป็นการใช้คอมพิวเตอร์มือถือและพิมพ์สำเนาใบเสร็จด้วยเครื่องพิมพ์พกพา รายการบันทึกของใบเสร็จจะถูกส่งไปยังสำนักงานใหญ่ของมิชชั่นฟูดส์ในเวลาจริงผ่านระบบเครือข่ายไร้สายบริเวณกว้าง
การดำเนินการดังกล่าวช่วยขจัดขั้นตอนการสแกนกระดาษใบเสร็จหลายๆ พันใบ บริษัทหวังที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายต่อปีเป็นจำนวนเลข 5 หลักในการเปลี่ยนรูปแบบของใบเสร็จ โดยพนักงานขับรถใช้เครื่องพิมพ์ที่กะทัดรัดพกพาได้ทำให้ประหยัดเวลาและความเหนื่อยล้าที่ต้องปีนเข้าและออกจากรถเพื่อทำการพิมพ์
นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการเชื่อมรวมกันของระบบเชื่อมต่อไร้สาย ได้แก่ คอมพิวเตอร์พกพาที่สื่อสารกับเครื่องพิมพ์เคลื่อนที่ผ่านทางบลูทูธ ส่งข้อมูลใบเสร็จด้วยจีพีอาร์เอส และใช้เครือข่ายแลนไร้สายที่ศูนย์กระจายสินค้า
ช่างที่มีความชำนาญใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบการให้การบริการ โดยแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ประกอบด้วยการจับภาพการวางสินค้าบนชั้นวาง และตรวจสอบการยินยอมให้มีการส่งเสริมการขาย เก็บสะสมข้อมูลที่มีการแข่งขัน การออกเอกสารจากผู้ตรวจสอบ เก็บสะสมหลักฐานรายงานการเกิดอุบัติเหตุ และบันทึกความเสียหายและเงื่อนไขการใช้สำหรับการเรียกร้องค่าชดเชยด้านการประกัน
Portable printing: การพิมพ์แบบเคลื่อนที่
มีการใช้งานเครื่องพิมพ์แบบพกพาที่ทนทานเป็นประจำเพื่อให้ได้เอกสารอ้างอิงเมื่อต้องการใช้งาน สำหรับการใช้งานทั่วไป ได้แก่ การจัดเตรียมใบส่งสินค้าที่มีการลงนาม ใบสั่งซื้อ ใบสั่งงาน และรายการการตรวจสอบ การใช้เครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์แบบพกพาร่วมกันจะทำให้ลูกค้าสามารถมีเอกสารที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการขาย บริการ และการส่งมอบสินค้า ขณะที่การสร้างระเบียนอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้องค์กรไม่ต้องดำเนินการด้านงานเอกสาร เครื่องพิมพ์พกพายังคงเป็นส่วนหนึ่งของของอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั้งหมดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยการใช้งานในรูปแบบเดิมนั้นจะเน้นในงานด้านการบริการภาคสนามและการกระจายสินค้า แต่การนำมาใช้ในคลังสินค้าและโรงงานก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการพิมพ์ที่ใช้ร่วมกับรถโฟล์คลิฟท์สำหรับการคัดเลือก เก็บเข้าที่ การทำป้ายผนึกการส่งสินค้า และกิจกรรมอื่นๆ โดยการพิมพ์แบบเคลื่อนที่ช่วยประหยัดแรงงานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม โดยลดจำนวนพนักงานที่จะต้องเดินทางไปยังตำแหน่งที่ใช้พิมพ์ป้ายผนึก ตั๋ว หรือคอยป้อนรายการสินค้า และผลลัพธ์อื่นๆ ได้
2 D & other bar coding advances: บาร์โค้ด 2 มิติ
บาร์โค้ด 2 มิติเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมในการใช้งาน โดยสามารถใช้แสดงข้อมูลจำนวนมากได้ในพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด อย่างไรก็ตาม 2 มิติยังคงเป็นเทคโนโลยีที่มีตลาดเฉพาะ เนื่องจากในสภาพแวดล้อมการทำงานจำนวนมาก การอ่านสัญลักษณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการปรับปรุงความสามารถในการอ่านบาร์โค้ด 2 มิติให้ดีขึ้น และยังเกิดเทคโนโลยีปรับภาพอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้การใช้งานบาร์โค้ด 2 มิติเป็นไปอย่างแพร่หลายในด้านการจัดการสินค้า การตรวจสอบย้อนกลับ การบำรุงรักษาและซ่อมแซม และการดำเนินการอื่นๆ
องค์กรส่วนใหญ่ต้องการใช้งานบาร์โค้ดที่มีการแสดงสัญลักษณ์ ขนาดสัญลักษณ์ และข้อมูลเข้ารหัสที่แตกต่างกันจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น การแสดงสัญลักษณ์ในรูปแนวเส้นตรงขนาดใหญ่สำหรบป้ายผนึกระบุชั้นวางของคลังสินค้า ป้ายผนึกขนาด 4 นิ้วที่มีแถบบาร์โค้ดเป็นป้ายผนึกสำหรับการส่งสินค้าปกติ และบาร์โค้ด 2 มิติ ยังเหมาะสำหรับการติดตามงานที่ดำเนินอยู่ตลอดทั้งระบุอายุการใช้งานและการตรวจสอบย้อนกลับได้ จะเห็นได้ว่าเครื่องอ่านดั้งเดิมไม่สามารถจดจำป้ายผนึกที่แปะอยู่กับชั้นวางที่อยู่ไกลถึง 50 ฟุต รวมทั้งบาร์โค้ดที่แสดงในรูป 2 มิติด้วย การพกเครื่องอ่านแยกกันสองชิ้นเพื่อให้ทำงานทั้งสองอย่างได้นั้น เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น องค์กรต่างๆ จึงมักเลือกใช้แอพพลิเคชั่นบาร์โค้ดเส้นตรงทั่วไปมากกว่า
ขณะนี้ผู้ใช้ไม่ต้องได้อย่างเสียอย่างอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น กลไกสแกนปรับโฟกัสอัตโนมัติ EX25 ของบริษัท อินเตอร์เมคเป็นเครื่องอ่านบาร์โค้ดเครื่องแรกที่สามารถอ่านบาร์โค้ดแบบเป็นทางยาวและ 2 มิติ ได้ไกลถึง 50 ฟุต โดยให้ความแม่นยำเหมือนในระยะ 6 นิ้ว การพัฒนาเพิ่มเติมในเทคโนโลยีการให้แสงสว่างช่วยให้สามารถอ่านบาร์โค้ดในสภาพแวดล้อมที่มืดทึบ ซึ่งไม่สามารถอ่านได้มาก่อน การพัฒนาเหล่านี้ทำให้สามารถใช้งานบาร์โค้ดได้ในสภาพแวดล้อมที่ก่อนหน้านี้คิดว่าต้องใช้อาร์เอฟไอดี หรือการจับข้อมูลอัตโนมัติ การใช้ Data Matrix และการแสดงสัญลักษณ์แบบ 2 มิติ กำลังเติบโตอย่างมากในด้านการระบุสินค้าถาวร การจัดลำดับก่อนหลังของผลิตภัณฑ์ และการตรวจสอบย้อนกลับ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านการสแกนร่วมกับกระบวนการให้รหัสทุกชนิดในหลายระยะ บริษัทสามารถสร้างคุณลักษณะการมองเห็นขั้นสูง และการตรวจสอบย้อนกลับเข้าสู่การผลิต รายการสินค้า และการดำเนินการกระจายสินค้าของพวกเขาได้
กรณีตัวอย่าง
“สำหับผู้ใช้ระดับล่าง การมีเครื่องสแกนเครื่องเดียวที่สามารถอ่านโค้ดต่างๆ ได้ ช่วยปรับปรุงความสามารถในการผลิตได้อย่างมาก สำหรับแผนกไอที EX25 ลดจำนวนอุปกรณ์จับข้อมูลจำนวนมากที่ต้องใช้ ลดการฝึกอบรม และต้นทุนสนับสนุนได้”
สตีฟ แบงเกอร์
เออาร์ซี แอดไวซอรี่ กรุ๊ป
RFID: อาร์เอฟไอดี
อาร์เอฟไอดียังใช้งานได้ดีในปัจจุบัน โดยเฉพาะในองค์กรธุรกิจที่ต้องจัดการสินทรัพย์และการดำเนินการด้านซัพพลายเชน ตัวอย่างเช่น กองทัพเรือสหรัฐใช้การป้อนข้อมูลอาร์เอฟไอดีเพื่อลดเวลาในกระบวนการคลังสินค้าที่สำคัญได้ประมาณ 98% โดยในส่วนลอจิสติก TNT สามารถลดเวลาการตรวจสอบปริมาณรถบรรทุกได้ 24% ด้วยการใช้ระบบอาร์เอฟไอดีบันทึกสินค้าที่อยู่บนรถพ่วงโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ บริษัทอื่นๆ นับร้อยแห่งทั่วโลกกำลังนำอาร์เอฟไอดีมาช่วยในกระบวนการจัดส่งสินค้า การรับ และแอพพลิเคชั่นการรู้ความเป็นไปของคลังสินค้า สำหรับกรณีศึกษาเกี่ยวกับระบบนี้และตัวอย่างการใช้งานขององค์กรอื่นๆ กรุณาดูที่สมุดปกขาวในเว็บไซต์ www.intermec.com
สิ่งที่อยู่เบื้องหลังการนำอาร์เอฟไอดีมาใช้สำหรับด้านสินค้าคงคลัง คลังสินค้า และการดำเนินการกระจายสินค้า คือการใช้เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีที่ติดกับยานพาหนะ และเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีแบบเคลื่อนที่อื่นๆ เพื่อขยายหรือแทนที่รุ่นที่ใช้ติดตั้งอยู่กับที่ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานแบบเคลื่อนที่ บริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อ ติตตั้ง และดูแลรักษาเครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีที่ติดตั้งแยกส่วนในแต่ละทางเข้าออก เครื่องอ่านที่ติดกับรถโฟล์คลิฟท์และเครื่องอ่านแบบพกพา สามารถครอบคลุมได้ทุกจุดของการขนถ่ายสินค้าจำนวนมาก และถูกนำไปใช้ในทางเดินระหว่างชั้นสินค้าและทุกที่ทั่วทั้งโรงงาน นอกจากนี้ ยังลดค่าใช้จ่ายการลงทุนด้านอาร์เอฟไอดีที่จำเป็น ตลอดจนพวกเขายังสามารถส่งมอบข้อมูลโดยตรงให้ถึงมือผู้ใช้ได้ ซึ่งช่วยป้องกันความผิดพลาด และยังสามารถบันทึกข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ด้วย
กรณีตัวอย่าง
“รถโฟล์คลิฟท์ที่ใช้งานร่วมกับอาร์เอฟไอดีสำหรับผู้ใช้งานระดับล่าง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องอ่านได้โดยไม่ลดทอนความสามารถในการทำงานลง”
อีริค มิเชลเซน
เอบีไอ รีเสิร์ช
ความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐานอาร์เอฟไอดีกำลังช่วยหลายบริษัทที่ใช้ระบบ EPC Gen 2 ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ช่วยให้การยืนยันการส่งสินค้าและระบบปรับปรุงสินค้าคงคลังเป็นไปอย่างปกติ และยังเกิดแอพพลิเคชั่นตรวจสอบและติดตามขั้นสูงขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจสอบย้อนกลับทางอิเล็กทรอนิกส์ด้านเภสัชกรรมจำนวนมากได้ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี EPC และกฎระเบียบขององค์การอาหารและยาสหรัฐก็สนับสนุนการใช้อาร์เอฟไอดีในการตรวจสอบย้อนกลับซัพพลายเชนเช่นกัน
กรณีตัวอย่าง
คณะบริหารความมั่นคงทางสังคมสหรัฐ (SSA) ใช้ระบบอาร์เอฟไอดีในคลังสินค้าเพื่อติดตามสินค้าคงคลังและอำนวยความสะดวกให้การขนส่งสินค้าให้ประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างสำนักงานสาขา โดย SSA ปรับปรุงความสามารถในการผลิตได้ถึง 39% และประหยัดเงินได้มากถึง 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี และยังคาดว่าจะประหยัดแรงงานได้เพิ่มขึ้น 70% เมื่อมีการปรับปรุงและขยายระบบเพิ่มเติมเต็มรูปแบบ
แนวคิดอื่นๆ ในด้านการนำอาร์เอฟไอดีมาใช้ในซัพพลายเชน กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก จากงานวิจัยบางชิ้นพบว่าจะมีการนำอาร์เอฟไอดีไปใช้เพิ่มขึ้นในด้านการจัดการสินทรพัย์ แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ได้รับการจัดตั้งอย่างดีและให้มูลค่าทางธุรกิจที่ชัดเจนและเข้มแข็ง ดังนั้นจึงมีการนำไปใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นการจัดการสินทรัพย์ยังส่งเสริมให้เกิดการใช้ระบบอาร์เอฟไอดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนากิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องเพื่อผลประโยชน์ภายในองค์กรด้วย
RTLS: ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง
ระบบแสดงตำแหน่งในเวลาจริง (RTLS) ทำให้คุณสามารถขยายเครือข่ายแลนไร้สายของคุณเข้าสู่ระบบการติดตามสินทรัพย์ ตัวผลักดันตลาดที่สำคัญคืออุปกรณ์แสดงตำแหน่งไร้สายจากบริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ซึ่งทำให้การติดตามสินทรัพย์ผ่านระบบแลนไร้ของบริษัท ซิสโก้ โดยอุปกรณ์ใดๆ ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายแลนไร้สายสามารถถูกติดตามและระบุตำแหน่งได้ แอพพลิเคชั่นหนึ่งคือการติดตามรถโฟล์คลิฟท์ผ่านทางคลื่นวิทยุของคอมพิวเตอร์ที่ติดอยู่กับตัวรถของพวกเขา อุปกรณ์แสดงตำแหน่งไร้สายและซอฟต์แวร์สนับสนุนสามารถติดตามตำแนห่งของวิทยุในเวลาจริงเพื่อสนับสนุนการเก็บแบบไดนามิก เส้นทาง เวลาที่ตรวจสอบ และการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับกำลังการผลิตและการวิเคราะห์การใช้ประโยชน์สินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สินค้าและสินทรัพย์ราคาแพงอื่นๆ หลายรายการสามารถถูกจัดหาให้ด้วยอุปกรณ์ RTLS สำหรับการตรวจสอบในเวลาจริง
Remote management: การจัดการระยะไกล
การใช้ระบบแลนไร้สายเพื่อติดตามสินทรัพย์ของคลังสินค้าและโรงงาน เป็นตัวอย่างของการปรับใช้ทรัพยากรไอทีให้เป็นประโยชน์กับสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม อีกตัวอย่างคือระบบการจัดการระยะไกลประสิทธิภาพสูงได้รับการพัฒนาเฉพาะเพื่อกำหนดค่า ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาเครื่องอ่านและเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด อุปกรณ์อาร์เอฟไอดี คอมพิวเตอร์ที่ทนทาน และอุปกรณ์การเก็บและสื่อสารข้อมูลอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยผู้ดูแลเครือข่ายโดยทั่วไปสามารถมองเห็นหรือควบคุมอุปกรณ์ระยะไกลเหล่านี้ได้ไม่ครอบคลุม เนื่องจากสินทรัพย์ไอทีองค์กรและระบบการจัดการเครือข่ายถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพีซี เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายทั่วไป และไม่ได้ระบุการกำหนดค่าและเงื่อนไขการใช้เฉพาะเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและประมวลผลในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
ต่อไปนี้คือบางตัวอย่างที่อธิบายว่าทำไมระบบการจัดการตามเป้าหมายโดยทั่วไปจึงจำกัดประสิทธิภาพด้านอายุใช้งานและการจัดการอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการด้านซัพพลายเชน
คอมพิวเตอร์ที่ทนทานเปรียบเสมือนญาติสนิทขององค์กรที่ต้องได้รับการปรับปรุงซอฟต์แวร์และโปรแกรมซ่อมแซมด้านความปลอดภัยเป็นระยะๆ และควรได้รับการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจถึงความสอดคล้องกันในการกำหนดค่าและรุ่นซอฟต์แวร์
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดและป้ายผนึกอัจฉริยะอาร์เอฟไอดีต้องได้รับการปรับปรุงเป็นระยะๆ ด้วยแม่แบบป้ายผนึกใหม่และรูปแบบบาร์โค้ดใหม่ และใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบเทอร์มัล ซึ่งบางครั้งต้องมีการปรับค่าความร้อน ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดมีภาษาคำสั่งเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ร่วมกับจอภาพการพิมพ์โดยทั่วไป รวมถึงแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่ผลิตขึ้มาสำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตและเลเซอร์ของสำนักงาน
เครื่องอ่านอาร์เอฟไอดีสามารถนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมการทำงานได้ โดยเปลี่ยนการจ่ายกำลังไฟ และทำการปรับแต่งอื่นๆ
ซอฟต์แวร์จัดการอุปกรณ์มีพร้อมให้ใช้งานแล้ว เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งหมด รวมทั้งช่วยในการจัดหาการตรวจสอบในเวลาจริง และแจ้งให้ทราบหากมีอุปกรณ์ใดเข้าสู่ภาวะออฟไลน์ และถ้ามีการใช้กับมาตรฐานระบบเปิด ยังสามารถเข้าถึงโซลูชั่นการจัดการเครือข่ายองค์กรของคุณได้ (เช่น Tivoli) บริษัทต่างๆ ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวเพื่อปรับปรุงความมีเสถียรภาพและเวลาให้บริการในการผลิตที่สำคัญ การกระจายและการดำเนินงานด้านการบริการ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวยังช่วยงานได้มากเมื่อมีการอัพเกรดระบบ เนื่องจากผู้ดูแลระบบสามารถใช้กำหนดค่าและติดตั้งซอฟต์แวร์ทางไกลและข้ามกลุ่มอุปกรณ์ได้ แทนที่จะต้องจัดการอุปกรณ์แต่ละตัวแยกต่างหาก คุณลักษณะเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการจัดการอุปกรณ์ได้อย่างมาก และยังรักษาระบบให้ทันสมัยด้วยซอฟต์แวร์และการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Security: ความปลอดภัย
ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นเป็นแนวโน้มและความต้องการของธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมในการนำมาใช้เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีซัพพลายเชน โดยคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่จะถูกล็อคไม่ให้มีการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าและข้อมูลอื่นๆ ได้ในกรณีที่อุปกรณ์หายหรือถูกขโมย คอมพิวเตอร์ไร้สายที่ทนทานและอุปกรณ์เก็บรวบรวมข้อมูลยังสนับสนุนความปลอดภัยชั้นนำหลายอย่าง ที่สอดคล้องกับระบบป้องกันเครือข่ายไร้สายองค์กร ได้แก่ 802.11i, 802.1x, WPA, WPA2, LEAP, FIPS-140, RADIUS Server, VPN และอื่นๆ โดยอุปกรณ์การเก็บรวบรวมข้อมูลไร้สายที่สนับสนุน Cisco Compatible Extensions (CCX) สามารถรวมอยู่ใน Cisco Unified Wireless Network และใช้ประโยชน์ด้านการจัดการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งสามารถเชื่อถือได้ และมีคุณลักษณะด้านความปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันแฮคเกอร์และการเข้าถึงที่ไม่ถูกต้อง การรับรองความถูกต้อง และการเข้ารหัส รวมถึงไฟล์วอลล์ที่มีอยู่และอื่นๆ
บทสรุป
องค์กรธุรกิจต้องการความปลอดภัย ความชัดเจนแบบเรียลไทม์ และการปรับปรุงข้อมูลต้องไม่หยุดอยู่เฉพาะที่ประตูสำนักงานเท่านั้น แต่ต้องครอบคุลมการดำเนินการด้านซัพพลายเชนทั้งหมด เพื่อให้ระบบข้อมูลเชื่อถือได้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าการพัฒนาในระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ระบบสื่อสารไร้สาย อาร์เอฟไอดี บาร์โค้ด และการเก็บรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ตลอดจนเทคโนโลยีสื่อสาร กำลังช่วยองค์กรธุรกิจขยายทัศนวิสัยและการควบคุมพื้นที่ดำเนินงานของพวกเขาได้มากขึ้น
สมุดปกขาวนี้ให้บางตัวอย่างของวิธีที่องค์กรสามารถใช้ประโยชน์แนวโน้มของเทคโนโลยีซัพพลายเชน โดยบริษัท อินเตอร์เมคกำลังช่วยหลายบริษัทและหน่วยงานรัฐบาลในทุกขนาดปรับปรุงการผลิต บริการด้านการกระจายสินค้า และการดำเนินการซัพพลายเชนอื่นๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ 10 อันดับเหล่านี้ หากต้องการเรียนรู้ด้านการบริการ เทคโนโลยี และแนวโน้มล่าสุดที่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อช่วยธุรกิจของคุณ กรุณาติดต่อบริษัท อินเตอร์เมค
บริษัท อินเตอร์เมค (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก : IN) พัฒนา ผลิต และผสานเทคโนโลยีที่สามารถระบุ ติดตาม และจัดการสินทรัพย์ในซัพพลายเชนได้ เทคโนโลยีหลักของบริษัท ได้แก่ อาร์เอฟไอดี ระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และระบบเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด รวมถึงสื่อป้ายผนึก ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงด้านการผลิต คุณภาพ และการตอบสนองของการดำเนินธุรกิจของลูกค้าในอุตสาหกรรมหลายแห่งทั่วโลก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อินเตอร์เมค เยี่ยมชมได้ที่ www.intermec.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด โทร. 0-2-439-4600 ต่อ 8300, 8204
อีเมล์: srisuput@corepeak.com