กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--วอร์นเนอร์ มิวสิค
“คาราบาว” กลับมาสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ในวาระที่เดินทางมาถึงอายุ 30 ปี ประเดิมคอนเสิร์ตแรกกับ “เวโลโดรม รีเทิร์นส์” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 — 20 มีนาคมที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาเวโลโดรม หัวหมาก เพื่อสะสางเรื่องค้างคาใจจากคอนเสิร์ต “ทำโดยคนไทย” คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์เมื่อ 26 ปี ก่อน ที่เป็นคอนเสิร์ตที่เล่นไม่จบ
คอนเสิร์ต “เวโลโดรม รีเทิร์นส์” ได้กลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเพลงไทยอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเวที แสง สี เสียง สุดอลังการงานสร้าง การขึ้นเวทีร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของ อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และ กิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว คาราบาว) 2 สมาชิกยุคคลาสสิกไลน์อัพ คอนเสิร์ตเปิดตัวด้วยภาพประวัติศาสตร์จากคอนเสิร์ต ทำโดยคนไทย กับเพลง รอยไถแปร ที่แอ๊ด คาราบาวร้องส่งคนดูกลับบ้านในครั้งนั้น พร้อมโชว์เทคนิคโฮโลแกรมที่ทำให้มีแอ๊ด คาราบาว 2 คน ร้องเพลงรอยไถแปรคู่กัน จากนั้นคาราบาวก็ได้หยิบเอาบทเพลงเก่าๆ ที่หายไปจากเวทีคอนเสิร์ตของคาราบาวมานาน มาเล่นให้แฟนๆ ฟังอย่างจุใจ อาทิ เพลง ลูกแก้ว, ลูกหิน, เรฟูจี, แป๊ะขายขวด, ท.ทหารอดทน, ถนนชีวิต, ขี้เมาใจดี, คนนิรนาม, พ่อ, เฒ่าทะเล, บิ๊กสุ ต่อด้วยบทเพลงคาราบาวในภาคอะคูสติกที่ไพเราะ งดงาม กับเพลง ผู้เฒ่า-ไม้ไผ่-ฝ่าลมฝน, คนเก็บฟืน และ ตุ๊กตา
หลังจากนั้นเป็นเวลาของความยิ่งใหญ่ อลังการ กับ เพลง “ทับหลัง” ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมทั้งสนาม นับเป็นครั้งแรกของคอนเสิร์ตในเมืองไทยที่มีเฮลิคอปเตอร์มาบินวนอยู่เหนือผู้ชมอย่างใกล้ชิด พร้อมพลุที่สวยงามหลายชุด
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะคาราบาวได้เตรียมความพิเศษแบบสนุกสุดขีดด้วย “คาราบาวเมดเล่ย์” ที่เอาเพลง 3 ช่าโจ๊ะๆ ของคาราบาวมาเรียงร้อยกันถึง 17 เพลง ยาวเหยียดกว่าครึ่งชั่วโมง ที่คนทั้งเวโลโดรมพร้อมใจลุกขึ้นเต้นพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าเวลานี้ไม่มีสาวกคาราบาวคนไหนนั่งติดเก้าอี้ แถมยังได้เห็นสมาชิกคาราบาวลุกขึ้นสลัดกีตาร์ และไม้กลอง มาตีกลองยาว ตะโพน และ เล่นอังกะลุงแบบไทยๆ ซึ่งเป็นภาพประทับใจที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนอีกด้วย
กว่า 3 ชั่วโมงที่แฟนๆ คาราบาวต่างเต็มอิ่มกับความสนุกสนานและประทับใจกับบทเพลงของคาราบาว ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง “ตามรอยพ่อ” เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของปวงชาวไทย เนื่องในปีมหามงคลครบรอบพระชนมายุ 84 พรรษา
คอนเสิร์ต “เวโลโดรม รีเทิร์นส์” จบลงด้วยความสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ อลังการทั้งเวที แสง สี เสียงและการแสดงของคาราบาว นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และเป็นบันทึกหน้าสำคัญของวงการเพลงไทย ที่แฟนๆ จะต้องประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปอีกนาน