กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ
สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพร่วมกับสถาบัน IRASEC (Institut de Recherche sur l’Asie du Sud-Est Contemporaine) จัดงานเสวนาในหัวข้อ “เนปีดอว์ เมืองหลวงแห่งใหม่ของพม่า” ในวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2554 เวลา 19.30 น. โดย ดร.กีย์ ลูแบชท์ นักวิจัยของสถาบัน IRASEC จะมาบอกเล่าเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญและเมืองหลวงแห่งใหม่ของประเทศพม่า
นับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 เป็นต้นมา เมืองหลวงของสหภาพพม่ามิใช่กรุงย่างกุ้งอีกต่อไป หากแต่เป็นเมืองเนปีดอว์ การย้ายเมืองหลวงซึ่งส่งผลให้เกิดการย้ายผู้คนจำนวนราว 200,000 คนครั้งนี้มีผู้คนกล่าวขวัญถึงเป็นจำนวนมากและมีการตั้งคำถามกันมากมายทั้งในประเทศแถบตะวันตกและในทวีปเอเชีย แม้ว่าเหตุผลที่ผลักดันให้ผู้นำพม่าตัดสินใจย้ายเมืองหลวงจะมีด้วยกันหลายประการ แต่ในสายตาของผู้สังเกตการณ์ เมืองหลวงแห่งใหม่นี้เองก็สร้างปัญหาใหม่ๆขึ้นมามากมาย ทางการของพม่าระบุว่าเมืองเนปีดอว์มีพื้นที่ 7,000 ตร.กม. จำนวนประชากรที่มีมากถึงเกือบหนึ่งล้านคนหลังจากสร้างเมืองนี้ได้ไม่ถึง 2 ปีแสดงให้เห็นว่าเมืองเนปีดอว์เป็นมหานครที่กำลังมีการขยายตัวอย่างเต็มที่ ทว่า ขนาดพื้นที่ของเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ทำให้มีการตั้งประเด็นถกเถียงกันในเรื่องของคุณภาพของเมืองและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมือง
ประวัติผู้บรรยาย ดร. กีย์ ลูแบชท์
ดร.กีย์ ลูแบชท์ ได้มาพำนักอยู่ที่ประเทศพม่าช่วงปีค.ศ. 1968 โดยเขาเข้ามาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทูตฝ่ายวัฒนธรรมประจำสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสและผู้อำนวยการสมาคมฝรั่งเศสในเวลาเดียวกัน จากนั้น ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ประเทศไทย ในปีค.ศ. 1975 เขาจบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาภูมิศาสตร์เขตร้อน จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ (วิทยานิพนธ์เรื่อง Le palmier ? sucre en Birmanie centrale) ได้ตีพิมพ์หนังสือ Que sais-je? La Birmanie และได้เข้าทำงานที่ CNRS ในปีค.ศ. 1981 เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยงานวิจัยของ CNRS ที่กรุงย่างกุ้ง ดร. กีย์ ลูแบชท์ผู้หลงใหลประเทศพม่าก็ได้มีโอกาสเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ต่างๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในพม่ามาตลอด 40 ปีอย่างใกล้ชิด ในปีค.ศ. 2001 เขาได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากรัฐ (จากผลงานเรื่อง Birmanie: un pays model? par le Bouddhisme) กีย์ ลูแบชท์มีผลงานวิชาการตีพิมพ์มากกว่า 70 เรื่อง เคยสอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากรและมหิดล เขายังได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรในงานประชุมวิชาการระดับโลกอย่างสม่ำเสมอ
งานเสวนาในครั้งนี้ วิทยากรบรรยายเป็นภาษาฝรั่งเศสโดยมีล่ามแปลเป็นภาษาไทย โดยจะจัดที่ห้องออดิทอเรียม สมาคมฝรั่งเศสฯ บัตรสำหรับนักศึกษาและสมาชิกราคา 150 บาท และบัตรสำหรับบุคคลทั่วไปราคา 200 บาท ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ห้องสมุด สมาคมฝรั่งเศสฯ (ปิดทำการวันจันทร์) ถ.สาธรใต้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ anne-sophie.jumelle@alliance-francaise.or.th หรือโทรศัพท์ 02-670-4230 หรือ www.alliance-francaise.or.th
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-670-4230 สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ