กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เผยโฉมครั้งแรกพร้อมตัวถัง 3 รูปแบบ ประกอบด้วย แบบธรรมดา โอเพ่นแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ ทั้งยังมีรุ่นต่างๆ ให้เลือกถึง 5 รุ่น มอบตัวเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค
เครื่องยนต์ใหม่ทั้ง 3 รุ่นของเรนเจอร์ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ 2 รุ่น และเครื่องยนต์เบนซิน ดูราเทค 1 รุ่น ให้การประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้น
เรนเจอร์เป็นหนึ่งในรถกระบะขนาดคอมแพ็คที่ทันสมัยที่สุด ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีอันชาญฉลาด อาทิ ระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียงพร้อมการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ1 และระบบกล้องมองภาพด้านหลัง (Rear View Camera System)
เรนเจอร์มอบความมั่นใจในการขับขี่บนทุกสภาพถนน ด้วยความสามารถในการลุยน้ำสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ที่ 800 มิลลิเมตร และเทคโนโลยีอื่นๆ อาทิ Hill Descent Control และ Hill Launch Assist
ความสามารถในการลากจูงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน โดยบางรุ่นสามารถลากจูงน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3,350 กิโลกรัม สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นรถกระบะสไตล์แกร่งอย่างแท้จริงของฟอร์ด เรนเจอร์
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ เผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 พร้อมจัดแสดงตัวถังทุกรูปแบบในตระกูลเรนเจอร์ ใหม่ ที่ผ่านบททดสอบความทนทาน เปี่ยมสมรรถนะในการขับขี่ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้น สมกับเป็น “ความแข็งแกร่งแห่งศตวรรษที่ 21”
รถกระบะขนาดคอมแพ็คระดับโลกรุ่นใหม่ล่าสุดของฟอร์ด เผยโฉมภายใต้ตัวถัง 3 รูปแบบ ประกอบด้วยแบบธรรมดา โอเพ่นแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ พร้อมตัวเลือกอุปกรณ์ต่างๆ อีกมากมายที่ได้รับการบรรจุไว้ในรถที่มีตัวเลือกถึง 5 รุ่น ขึ้นอยู่กับประเทศที่วางจำหน่าย โดยตัวถังแต่ละรูปแบบที่นำเสนอต่างเป็นรถที่มีพื้นที่ใช้งานกว้างขวางมากที่สุดรุ่นหนึ่งเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน
สำหรับรุ่นโอเพ่นแค็บหรือที่บางประเทศเรียกว่าแร็บ (Rear Access Panels — RAP) หรือซูเปอร์แค็บ เป็นนวัตกรรมที่ฟอร์ดนำเสนอเป็นครั้งแรกในฟอร์ด เรนเจอร์ ที่วางจำหน่ายเมื่อปีพ.ศ. 2545 ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวรถกระบะแบบ 4 ประตูที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษเนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเข้าสู่ห้องโดยสารได้อย่างสะดวกสบายด้วยประตูรถที่เปิดกว้างออกไปยังฝั่งซ้ายและขวา พร้อมการป้องกันความปลอดภัยจากการชนด้านข้าง ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยที่ถูกนำมาใช้แทนเสากลางซึ่งมีอยู่ในรุ่นดับเบิ้ลแค็บทั่วไป
เรนเจอร์ยังมีตัวเลือกสำหรับการขับเคลื่อนทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ รวมทั้งมีระดับความสูงให้เลือก 2 ระดับ โดยรุ่นขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ ไฮ-ไรเดอร์ ใช้โครงสร้างตัวถังเดียวกันกับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ
เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาให้เป็นรถกระบะชั้นแนวหน้า หรือเป็นผู้นำในทุกๆ ด้านที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ อาทิ นวัตกรรมความทันสมัย ความปลอดภัย ความประหยัดน้ำมัน สมรรถนะ และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
เรนเจอร์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถที่ไฮเทคที่สุดเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมาย อาทิ ระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียงพร้อมการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ1 และระบบกล้องมองภาพด้านหลัง (Rear View Camera System) ขณะเดียวกัน เรนเจอร์ยังคงเป็นรถกระบะสไตล์แกร่งที่มีความสามารถในการลากจูงสูงสุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันที่ 3,350 กิโลกรัม ในบางรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขณะที่บางรุ่นมีความโดดเด่นด้านการบรรทุกน้ำหนักสูงสุดถึง 1,500 กิโลกรัม
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับการผลิตขึ้นจากโครงสร้างตัวรถกระบะระดับโลกของฟอร์ดที่มีความแข็งแกร่งสูง เพียงแพลตฟอร์มเดียวแทนการใช้โครงสร้างตัวถัง 2 แพลตฟอร์มเช่นในปัจจุบัน โดยจะผลิตขึ้นที่โรงงานในประเทศไทย แอฟริกาใต้ และอาร์เจนติน่า เพื่อจำหน่ายในประเทศต่างๆ กว่า 180 ประเทศทั่วโลก เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาในประเทศออสเตรเลียในฐานะรถกระบะคันแรกที่พัฒนาขึ้นจากการทำงานภายใต้กลยุทธ์ One Ford ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการผลิตสินค้าระดับโลกที่นำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญจากวิศวกรของฟอร์ดทั่วโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“การทำงานภายใต้กลยุทธ์ One Ford ทำให้เราสามารถนำเสนอรถกระบะที่ยอดเยี่ยมคันนี้ เนื่องจากทีมวิศวกรในประเทศออสเตรเลียสามารถนำความเชี่ยวชาญของฟอร์ดทั่วโลกมาใช้ รวมถึง สถานที่และเทคโนโลยีในการทดสอบรถ และที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าถึงองค์ความรู้โดยรวมของฟอร์ดในการนำเสนอรถกระบะสไตล์แกร่งที่แท้จริง” จิม บอมบิค ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรม ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าว
“เรายังสามารถนำเสนออุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียงพร้อมการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธในฟอร์ด เรนเจอร์ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ของลูกค้าฟอร์ดทั่วโลกได้อย่างแน่นอน”
รูปโฉมแห่งความแกร่งภายใต้ตัวถังที่ใหญ่ขึ้น
ด้วยพละกำลังและความมาดมั่นภายใต้รูปโฉมที่นักออกแบบเรียกว่า “ความแข็งแกร่งแห่งศตวรรษที่ 21” ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ที่มีความหล่อบึกบึน จึงเป็นรถที่เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นในเขตอาคารก่อสร้างหรือสถานที่พักผ่อนบันเทิงระดับหรู ด้านหน้าของรถมีจุดเด่นที่ระยะยื่นหน้าสั้น ติดตั้งกระจังหน้าลาย 3 แถบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบระดับโลกของรถกระบะภายใต้แบรนด์ฟอร์ด
กระจกบังลมหน้าได้รับการออกแบบให้ทำมุมเอียงไปด้านหลังมากขึ้นเพิ่มความสปอร์ตและความโฉบเฉี่ยวให้กับรูปทรงโดยรวม ขณะที่เหลี่ยมมุมต่างๆ ที่มักจะปรากฏให้เห็นในรถกระบะรุ่นก่อนๆ ได้ถูกลดทอนลงให้ดูทันสมัยและสอดคล้องกับหลักแอโรไดนามิกมากขึ้น ไฟหน้าและกระจกหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมด้วยขอบกระทะล้อแบบไม่แยกชิ้นช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้ลงตัวสำหรับทุกรุ่นและยังช่วยให้รถมีความดุดันและให้ความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้น
เรนเจอร์รุ่นไวล์ดแทรค เติมความสปอร์ตเพิ่มขึ้นอีกขั้นด้วยโทนสีตัดกันบริเวณด้านหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนักออกแบบได้ใช้เส้นสายสีดำคาดตรงกลางด้านหน้าตัวถังและตัดสีด้วยการไฮไลท์ช่องลมด้านล่าง นอกจากนี้ ยังใช้การเน้นสีแบบเดียวกันบริเวณกระจกมองข้าง มือจับประตู และช่องลมด้านข้างตัวถัง เพิ่มความรู้สึกเท่ในแบบสปอร์ตที่เข้มยิ่งขึ้น
“รูปโฉมที่ดุดันของไวล์ดแทรคและลวดลายกราฟิกใหม่ เป็นการออกแบบที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสปอร์ตและภาพลักษณ์ที่หรูหราขึ้น ไม่ว่าจะใช้ขนรถเอทีวีหรือบรรทุกเจ็ทสกีไปขับเล่นในวันหยุดก็ดูลงตัวในทุกด้าน” เครก เมทรอส หัวหน้าทีมนักออกแบบ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ กล่าว
เรนเจอร์รุ่นไวล์ดแทรคมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว แร็คหลังคาและโครงหลังคาด้านหลังแบบสปอร์ตที่ช่วยเสริมมุมมองด้านข้างให้โดดเด่น ตราสัญลักษณ์ของไวล์ดแทรคและการออกแบบลวดลายกราฟิกสุดพิเศษ นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค แตกต่างจากรถเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอื่นๆ
ด้วยความยาว 5,359 มม. และกว้าง 1,850 มม. รถกระบะสุดเท่ เรนเจอร์ ใหม่ จึงดูบึกบึนมากขึ้น ขณะเดียวกัน เรนเจอร์ยังคงเป็นรถที่ผู้ใช้งานสามารถขับขี่ไปบนถนนแคบๆ และบังคับทิศทางเพื่อเข้าจอดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นผลจากการตอบสนองที่ดีเยี่ยมของระบบพวงมาลัยที่มีระยะหมุนไม่เกิน 3.5 รอบ นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน
วิศวกรของฟอร์ดให้ความสำคัญอย่างมากต่อการใช้พื้นที่ทุกมิลลิเมตรอย่างคุ้มค่าในการเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้มีความกว้างขวางมากที่สุดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เก็บของท้ายรถ การที่เรนเจอร์ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากขึ้นทั้งในการทำงานและการพักผ่อนกับครอบครัว วิศวกรของฟอร์ดจึงให้ความใส่ใจเป็นพิเศษกับความสบายของเบาะนั่งด้านหลัง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 ของรุ่นโอเพ่นแค็บของเรนเจอร์ ใหม่ มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งรายหลักๆ ในตลาดทั้งสิ้น
สำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ วิศวกรได้ย้ายเสากลางไปด้านหน้าเล็กน้อยทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่วางขาและระยะห่างจากหัวเข่าถึงเบาะหน้ากว้างที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน โดยผู้ใหญ่ 3 คน สามารถนั่งด้วยกันที่เบาะนั่งด้านหลังอย่างสบายๆ แม้ว่าผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะมีความสูงกว่า 180 ซม.
นักออกแบบของฟอร์ดยังได้ออกแบบเส้นสายด้านข้างตัวถังให้สูงขึ้นอย่างมาก และยกขอบกระบะให้สูงขึ้น ทำให้เรนเจอร์โดดเด่นบนท้องถนน และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยด้วยพื้นที่เก็บของที่ลึกมากขึ้น สำหรับรุ่นตัวถังแบบธรรมดาและแบบโอเพ่นแค็บ มีขนาดพื้นที่บรรทุกของด้านหลังใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันที่ 1.85 ลูกบาศก์เมตร และ 1.45 ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ ขณะที่รุ่นดับเบิ้ลแค็บมีขนาดความจุอยู่ในระดับต้นๆ ของตลาดที่ 1.21 ลูกบาศก์เมตร
บริเวณเหนือซุ้มล้อของกระบะท้ายได้รับการขยายให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับการวางสิ่งของที่มีความยาวตลอดความยาวของกระบะ ช่วยให้เจ้า ของรถสามารถบรรทุกแผ่นไม้หรือแผ่นยิปซั่มได้โดยสะดวก ขณะที่ในบางประเทศมีการติดตั้งระบบจัดการสัมภาระที่ยืดหยุ่นได้มาก ทำให้จุดที่ใช้ยึดสิ่งของกับท้ายรถสามารถปรับระดับความลึกได้แทนที่จะเป็นจุดยึดสิ่งของแบบตายตัว ผู้ขับขี่จึงสามารถจัดการสัมภาระให้ลงตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น
นวัตกรรมภายในห้องโดยสาร
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามและทันสมัย เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ปกติจะพบได้ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเท่านั้น พื้นผิวสัมผัสภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่โดยใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และยังมีรูปลักษณ์ที่ดูดีมีคุณภาพ สำหรับรุ่นพื้นฐานใช้เบาะไวนิลช่วยให้ดูแลรักษาง่าย ขณะที่รุ่นสูงขึ้นไปมีการตัดขอบด้วยผ้าและหนังเป็นตัวเลือก โดยวัสดุที่ใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ ทั้งหมดล้วนผ่านการทดสอบความทนทานเพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้วทั้งสิ้น
“เราพัฒนาวัสดุที่มีความแข็งแรงแต่ไม่แข็งกระด้าง ทั้งยังดูสวยงาม มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดี” ปีเตอร์ โจนส์ ผู้จัดการฝ่ายงานออกแบบภายในห้องโดยสาร กล่าว “ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า เรนเจอร์ ใหม่ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลด้วยการออกแบบและการตกแต่งเบาะนั่งที่ดูดีและสะดวกสบาย ขณะเดียวกัน ก็มีความทนทานมากพอสำหรับการใช้งานอย่างเต็มที่”
เรนเจอร์ ใหม่ มอบความคุ้มค่าให้กับทุกพื้นที่ใช้สอยด้วยช่องเก็บของต่างๆ มากถึง 23 จุดในรุ่นดับเบิ้ลแค็บ ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณช่องเก็บของที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งหมด กล่องเก็บของกลางคอนโซลที่มีความลึกอย่างมาก ทำให้เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถกระบะที่มีพื้นที่ในกล่องมากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน ด้วยความจุ 8.5 ลิตรและสามารถบรรจุกระป๋องเครื่องดื่มได้มากถึง 6 กระป๋อง ทั้งยังสามารถเก็บความเย็นได้ในรุ่นที่มีการต่อท่อแอร์เข้าไปยังกล่องดังกล่าว
กล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร มีขนาดใหญ่พอสำหรับการบรรจุเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาด 16 นิ้ว ขณะที่ช่องเก็บของด้านข้างประตูสามารถใส่ขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรได้ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่สำหรับวางโทรศัพท์เคลื่อนที่และของกระจุกกระจิกอื่นๆ บริเวณตรงกลางคอนโซล รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ซึ่งอยู่ในระยะที่ผู้ขับสามารถเอื้อมถึงได้ ขณะที่ใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังมีช่องเก็บของซ่อนอยู่ เหมาะสำหรับการเก็บเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถจะหยิบใช้ได้ง่าย
เรนเจอร์ ใหม่ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่ทันสมัย เทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบาย ปลอดภัย และขับสนุกยิ่งขึ้น ขณะที่บางรุ่นสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านบลูทูธ ยูเอสบี และไอพอด รวมทั้งระบบควบคุมการสั่งการด้วยเสียง เพื่อสั่งงานวิทยุ ซีดี ไอพอด ยูเอสบี ระบบแอร์อัตโนมัติ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระบบควบคุมการปรับอากาศทั้งร้อนและเย็น รวมทั้งระบบครูซ คอนโทรล ที่มีให้เลือกในรุ่นสูงๆ รวมทั้งยังมีตัวเลือกหน้าจอสีแสดงผลขนาด 5 นิ้วพร้อมระบบเนวิเกเตอร์ผ่านดาวเทียมในบางรุ่น
กำลังแรงขึ้นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
ระบบส่งกำลังของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้กำลังและแรงบิดที่เหนือชั้น ผสานกับประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ โดยมีเครื่องยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับราคาที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย
? เครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า)
? เครื่องยนต์ดีเซล ฟอร์ด ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ที่ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ (200 แรงม้า)
? เครื่องยนต์เบนซิน ฟอร์ด ดูราเทค ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้แรงบิดมากถึง 226 นิวตันเมตร และกำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) สามารถใช้กับพลังงานทางเลือกแบบ LPG ได้
เครื่องยนต์เบนซินของเรนเจอร์ ใหม่ มอบอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยรุ่นที่ขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 9.8 ลิตร/100 กม.2 ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร มอบอัตราการประหยัดน้ำมันเหนือชั้น ด้วยอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยที่ 7.6 ลิตร/100 กม. ในรุ่นขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.2 ลิตรมีอัตราสิ้นเปลืองที่ 9.6 ลิตร/100 กม. ในรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 2
ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมและขนาดของถังน้ำมันที่สามารถจุได้ถึง 80 ลิตร เรนเจอร์ ใหม่ เฉพาะรุ่นจึงสามารถขับได้ระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ในการเติมน้ำมันแต่ละครั้ง นอกจากนี้ เครื่องยนต์ทุกรุ่นของเรนเจอร์ ใหม่ ยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในระดับเดียวกับมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดของประเทศต่างๆ ที่จะวางจำหน่าย
ในตลาดรถกระบะ การติดตั้งระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีดนับว่ามีจำนวนไม่มาก และเรนเจอร์ ใหม่ นับเป็นรถกระบะคันแรกที่ติดตั้งระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ใหม่ ที่ได้รับการปรับจูนให้การขับขี่ที่นุ่มนวล เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วจนผู้ขับขี่แทบจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ นับเป็นการเน้นย้ำถึงความประณีตในการขับขี่แบบเดียวกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของเรนเจอร์
ระบบเกียร์แบบซีเควนเชียลสำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติ มอบการขับขี่ที่ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างโดนใจ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกเปลี่ยนมาขับแบบเกียร์ธรรมดาได้ด้วย นับเป็นความเหนือชั้นในการขับขี่ที่แตกต่างจากคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน ระบบส่งกำลังของฟอร์ดยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดมากมายที่ช่วยให้เรนเจอร์ ใหม่ ให้ทั้งสมรรถนะในการขับขี่ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์
ระบบส่งกำลังเกียรอัตโนมัติของเรนเจอร์ ใหม่ มาพร้อมนวัตกรรมที่ทันสมัย ด้วยความสามารถในการตรวจจับว่ารถกำลังวิ่งอยู่บนเนินที่มีความลาดชันหรือไม่ จากนั้น ระบบส่งกำลังจะใช้เทคโนโลยี Grade Control Logic ในการค่อยๆ ลดเกียร์ลงขณะขับลงเนินเพื่อเพิ่มแรงเบรกจากระบบส่งกำลังเมื่อรถตรวจจับได้ว่าผู้ขับกำลังเหยียบเบรก
ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์ธรรมดา เป็นตัวเลือกที่มาพร้อมเรนเจอร์รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร มีการติดตั้งระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบส่งกำลังและอัตราทดเกียร์ได้รับการปรับจูนใหม่เพื่อให้เหมาะกับการเหยียบคันเร่งอย่างสนุกสนาน มอบการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ รวมทั้งความเงียบภายในห้องโดยสาร
ขับนิ่ง เกาะถนนในทุกสภาพการขับขี่
ด้วยแชสซีใหม่ ระบบช่วงล่างใหม่ทั้งด้านหน้าและหลัง รวมทั้งระบบพวงมาลัยใหม่ ฟอร์ด เรนเจอร์ จึงมอบความสบายในการขับขี่แบบ เดียวกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องใช้แรงมากมายในการบังคับทิศทางของรถ ด้วยพวงมาลัยที่มีความแม่นยำ จึงให้เสถียรภาพในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น
ระบบกันสะเทือนด้านหลังของเรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการปรับจูนให้เหมาะกับการขับขี่ในสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ และรองรับการบรรทุกน้ำหนักมากๆ ทั้งยังช่วยให้การทรงตัวดีเยี่ยมเมื่อขับด้วยความเร็วสูงบนพื้นดิน ช่วยลดการส่ายของรถ และช่วยให้รถไม่ลื่นไถลเมื่อขับบนพื้นผิวที่ขรุขระ นอกจากนี้ การปรับตั้งระบบกันสะเทือนที่เป็นเอกลักษณ์ ยังรวมถึงการพัฒนาสปริงและโช้คให้มอบความสบายยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการขับขี่บนถนนที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ เช่นในประเทศไทย
วิศวกรของฟอร์ดยังค้นพบวิธีการอันชาญฉลาดในการเก็บซ่อนชิ้นส่วนที่สำคัญให้พ้นจากอันตราย เพื่อให้ผู้ขับเรนเจอร์สามารถตะลุยไปได้แม้ในเส้นทางสุดโหด จุดต่ำสุดของรถอยู่สูงจากพื้นสูงสุดถึง 241 มม. ซึ่งเป็นผลจากการยกชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบส่งกำลังขึ้นไปอยู่ด้านบนคานเหล็กของโครงสร้างตัวถัง ทั้งชุดเกียร์ ถาดน้ำมัน และอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ จึงได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัย
เพื่อเพิ่มศักยภาพในการลุยน้ำของเรนเจอร์ ใหม่ อุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นหลักๆ และชุดดักอากาศภายในห้องเครื่องจึงถูกยกให้สูงขึ้น ช่วยให้เรนเจอร์สามารถลุยน้ำได้ลึกกว่ารถกระบะอื่นๆ สำหรับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อและรุ่นขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ ไฮ-ไรเดอร์ สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 800 มม. นับเป็นความสูงระดับแถวหน้าของรถในกลุ่มนี้ ซึ่งจะต้องโดนใจผู้ขับขี่ที่ต้องขับรถข้ามแม่น้ำหรือขับฝ่าน้ำท่วมอย่างแน่นอน
เรนเจอร์ยังเป็นรถที่ขับขี่บนทางลาดชันได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการติดตั้งระบบ Hill Launch Assist ทำให้แม้แต่รถที่บรรทุกน้ำหนักมาก ซึ่งอาจมีน้ำหนักรวมถึง 3,200 กิโลกรัม ก็ยังสามารถหยุดและออกตัวอีกครั้งได้บนถนนที่มีความลาดชันถึง 60% ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่รถกระบะทั่วๆ ไปจะสามารถทำได้ ด้วยเหตุนี้ เรนเจอร์ ใหม่ จึงช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อต้องขับไปบนเส้นทางที่ท้าทาย
เมื่อต้องขับลงจากเนินที่มีความลาดชัน ระบบ Hill Descent Control จะทำงานแบบอัตโนมัติในการช่วยเสริมแรงเบรกและลดความเร็วของรถโดยไม่ทำให้เบรกล็อก และผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกแต่อย่างใด การควบคุมการทำงานจึงเป็นไปอย่างง่ายดาย และมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือชั้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ
เรนเจอร์ ใหม่ รุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ได้รับการติดตั้งห้องเกียร์เสริม (Transfer Case) ที่มีความทนทาน ทั้งในรุ่นระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อเป็นแบบ 4 ล้อได้ทุกเวลา (Shift on the fly) ด้วยปุ่มควบคุมบนคอนโซลที่ใช้งานได้อย่างง่ายดาย สำหรับบางรุ่น ผู้ขับขี่สามารถเลือกเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ด สลิป หรือระบบดิเฟอเรนเชียลล็อคแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic locking rear differential) เพื่อช่วยลดอาการล้อหมุนฟรี
เพื่อความมั่นใจด้านความทนทานต่อการใช้งาน เรนเจอร์ ใหม่ ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อพิสูจน์ความทรหดทั้งในสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศสุดโหด ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบขับในประเทศออเสเตรเลีย ดูไบ ประเทศไทย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ สวีเดน และแอฟริกาใต้ ซึ่ง เรนเจอร์ต้องฝ่าฟันทั้งอากาศที่ร้อนจัด หนาวจัด ถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝน การขับบนภูเขาสูง ไปจนถึงการขับฝ่าแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทะเลทรายอันแห้งผาก และถนนที่เป็นหลุมบ่อ รถต้นแบบของเรนเจอร์ผ่านการเดินทางมาแล้วกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ยังไม่รวมถึงการทดสอบอีกมากมายในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์
สร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัย
ความปลอดภัยภายในห้องโดยสารของรถกระบะได้รับความสำคัญมากยิ่งขึ้น จากการที่ผู้ขับขี่นิยมใช้รถกระบะทั้งในการทำงานและใช้สำหรับครอบครัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร ด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีอันชาญฉลาดที่ช่วยปกป้องทั้งก่อนและในขณะเกิดการชน
การปกป้องความปลอดภัยที่เหนือชั้นของเรนเจอร์ ใหม่ เริ่มต้นจากโครงสร้างตัวถังที่ใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษตลอดทั้งคัน เพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชน ขณะที่เฟรมตัวถังใหม่ช่วยลดความแรงจากการกระแทกได้
การใช้แบบจำลองในคอมพิวเตอร์ที่มีความทันสมัย ช่วยให้วิศวกรของฟอร์ดสามารถทดสอบการชนแบบเสมือนจริงได้มากกว่า 9,000 ครั้งก่อนที่จะสร้างรถต้นแบบขึ้นมาเพื่อทดสอบการชนจริงๆ ระบบคอมพิวเตอร์แบบเสมือนจริงจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทีมวิศวกรสามารถทดสอบการชนในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างรอบด้าน มากกว่าการทดสอบการชนจริงแบบทั่วไป
เรนเจอร์นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยปกป้องความปลอดภัยหลังเกิดการชนด้วย อาทิ ถุงลมนิรภัยตามจุดต่างๆ ของรถที่จะมีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศที่วางจำหน่าย ม่านถุงลมนิรภัยได้รับการติดตั้งในตัวถังทุกรูปแบบเป็นครั้งแรก โดยถุงลมนิรภัยเหล่านี้จะถูกบรรจุไว้บริเวณขอบหลังคา ขณะเกิดการชนด้านข้าง ถุงลมนิรภัยเหล่านี้จะพองตัวขึ้นเพื่อรองรับการกระแทกบริเวณศีรษะของผู้โดยสารที่นั่งอยู่ติดกับประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยครอบคลุมทั้งโครงสร้างตัวถังและส่วนที่เป็นกระจก จากบริเวณเสาหน้า (A-pillar) ไปจนถึงเสาหลัง (C-pillar) ของรถ
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหน้านับว่าเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับเรนเจอร์ ถุงลมนิรภัยชุดนี้จะติดตั้งบริเวณด้านข้างของเบาะเพื่อปกป้องบริเวณลำตัวเมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง นอกจากนี้ เรนเจอร์ ใหม่ ยังมาพร้อมถุงลมนิรภัยด้านหน้าสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
เรนเจอร์ ใหม่ ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดพร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง และระบบลดแรงกระแทกจากการเบรกสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า รวมทั้ง เทคโนโลยี BeltMinder ของฟอร์ดจะช่วยเตือนให้ผู้โดยสารด้านหน้าคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีช่วยปกป้องความปลอดภัยก่อนการชนเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ โดยมีระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอสพี) ที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มแรงเบรกและลดแรงบิดของเครื่องยนต์เพื่อลดการปัดของล้อ และบรรเทาอาการท้ายปัดหรือดื้อโค้งขณะขับขี่บนถนนลื่นๆ หรือเมื่อผู้ขับจำเป็นต้องเปลี่ยนเลนกระทันหัน ระบบดังกล่าวจึงมีความสำคัญอย่างมากในการช่วยลดอุบัติเหตุ
ระบบอีเอสพีที่ติดตั้งในเรนเจอร์ ใหม่ ยังประกอบด้วยเทคโนโลยีย่อยต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้น อาทิ ระบบ Trailer Sway Control ที่จะคอยจับการเคลื่อนไหวของส่วนพ่วงท้ายว่ามีการแกว่งหรือไม่ และหากพบอาการดังกล่าว ระบบจะเพิ่มแรงเบรกเข้าไปยังล้อเพื่อลดการแกว่งของส่วนพ่วงท้าย ด้านระบบ Adaptive Load Control ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาเสถียรภาพของรถได้แม้ในขณะบรรทุกน้ำหนักมาก ระบบ Roll-over Mitigation จะคอยตรวจจับความเร็วของรถ การเร่งด้านข้าง และองศาของพวงมาลัย ซึ่งเมื่อรถมีแนวโน้มว่าจะเสียสมดุล ระบบจะเข้าแทรกแซงการทำงานเพื่อลดความเสี่ยงของการพลิกคว่ำ
ระบบอีเอสพีของเรนเจอร์ ทำงานได้อย่างดีเยี่ยมในการขับขี่แบบออฟโร้ดเช่นเดียวกัน ด้วยการปรับการควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของรถ และจะไม่แทรกแซงการทำงานโดยไม่จำเป็นเมื่อรถวิ่งบนถนนที่ขรุขระ สำหรับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อนั้น ผู้ขับขี่สามารถปิดการทำงานบางส่วนของระบบอีเอสพีได้ เพื่อลดการควบคุมอาการท้ายปัดและการดื้อโค้ง รวมทั้งการลดแรงบิดของเครื่องยนต์ แต่ระบบจะยังคงแทรกแซงการทำงานของเบรกเพื่อลดอาการล้อหมุนฟรี การปรับตั้งการทำงานแบบนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับการขับขี่บนพื้นทรายหนาๆ หรือบนพื้นที่ปกคลุมด้วยโคลนมากๆ เพื่อช่วยรักษาสมดุลของรถและให้การควบคุมที่แม่นยำ
ศักยภาพในการเบรกที่เหนือชั้นของเรนเจอร์ ใหม่ เป็นผลมาจากการใช้เบรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน รวมทั้งการติดตั้งเทคโนโลยีในการเบรกมากมายเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้ในระยะทางสั้นที่สุดในทุกสถานการณ์ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (เอบีเอส) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ได้รับการออกแบบให้สามารถรับรู้ได้ถึงการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงเบรกเพื่อชะลอความเร็วของรถ
ระบบ Gravel Road Logic ในระบบเอบีเอสช่วยลดระยะในการเบรกขณะขับขี่บนพื้นถนนที่ลื่น ซึ่งพบเห็นได้บ่อยครั้งในบางประเทศที่มีถนนแบบไม่ลาดยางจำนวนมาก ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีบีดี) ช่วยเสริมการทำงานของล้อหลังเมื่อมีการบรรทุกน้ำหนักที่แตกต่างกัน ทั้งยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ นอกจากนี้ เรนเจอร์ ใหม่ ยังมีระบบสัญญาณไฟกระพริบที่จะติดเองแบบอัตโนมัติเพื่อเตือนรถคันที่ตามมาด้านหลังทันทีที่ผู้ขับขี่เบรกกระทันหัน
ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ไม่เพียงให้ความสำคัญกับผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังใส่ใจผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ โครงสร้างรูป 6 เหลี่ยมภายใต้ฝากระโปรงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บบริเวณศีรษะของผู้เดินถนน และกันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยดูดซับแรงกระแทก
“เรนเจอร์ ใหม่ เป็นรถที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร” แกรี่ โบส์ ผู้อำนวยการสายการผลิตรถกระบะขนาดคอมแพ็คระดับโลกของฟอร์ด กล่าว “สิ่งที่ทำให้เรนเจอร์แตกต่างจากรถอื่นๆ คือนอกจากคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถกระบะได้อย่างรอบด้านแล้ว ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่มากกว่า โดยไม่จำเป็นต้องลดทอนส่วนใดส่วนหนึ่งลงไป ลูกค้าที่เป็นเจ้าของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จึงไม่ได้เป็นเจ้าของสมรรถนะในการลากจูง การบรรทุกน้ำหนัก และการลุยน้ำที่เหนือชั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของรถกระบะที่ประหยัดน้ำมัน มีห้องโดยสารที่สะดวกสบาย และเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอีกด้วย”
ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ฟอร์ด มอเตอร์คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเดียร์บอร์น มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใน 6 ทวีปทั่วโลก มีพนักงานประมาณ 164,000 คน และมีโรงงานประมาณ 70 แห่งทั่วโลก บริษัทฯ มีรถยนต์แบรนด์ชั้นนำอันได้แก่ ฟอร์ด และลินคอล์น นอกจากนี้ ยังให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของฟอร์ดได้ที่ www.ford.co.th หรือ www.fordmotorcompany.com
ติดต่อ:
ปัณฑ์ชนิต โรจน์อมรสวัสดิ์
คมสัน สิงห์ทอง
ชยภัค ลายสุวรรณ
โทร. 02 686 4647
โทร. 02 686 4643
โทร. 02 686 5912
proatamo@ford.com
ksingha1@ford.com
claisuwa@ford.com
1 บลูทูธ เป็นทะเบียนการค้าของบริษัท Bluetooth SIG Inc และได้รับการอนุญาตให้นำมาใช้
2 ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันทั้งหมดได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากการทดสอบภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC Directive 93/116/EC) ตัวเลขอัตราการประหยัดน้ำมันทั้งหมดยึดตามที่ปรากฏในระเบียบการด้านประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงของยุโรป (European Fuel Economy Directive EU 80/1268/EEC) ซึ่งอาจแตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ ของโลก