กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และ บ.เซ็ทเทรด ดอท คอม แนะแหล่งข้อมูลสำหรับผู้ลงทุนสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐาน บทวิเคราะห์ และงานวิชาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านสมาคมนักวิเคราะห์เผยผลวิเคราะห์พบมี 9 บริษัท มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27%
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด จะยังคงทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการเผยแพร่ข้อมูล อาทิ ข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน ข้อมูลสถิติสำคัญ ๆ บทวิเคราะห์ และงานวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"เจตนารมณ์ของการเผยแพร่ข้อมูลก็เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนของ ผู้ลงทุน เนื่องจากเมื่อผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในหลักทรัพย์ที่ครบถ้วน สมบูรณ์ จะทำให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุน และมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ลงทุนระยะกลาง หรือผู้ลงทุนระยะยาว" นางภัทรียากล่าว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถหาข้อมูลประกอบการลงทุนและตัวเลขสำคัญทางการเงินรายบริษัท รวมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน จาก SAA consensus ซึ่งเป็นผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่าง ๆ ที่ติดตามข้อมูลรายบริษัทอย่างใกล้ชิด และได้นำเผยแพร่ไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com ภายใต้หัวข้อ "SAA Consensus" หรือศูนย์รวมประมาณการตัวเลขของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลที่น่าสนใจ ได้แก่ สรุปหุ้นที่มีการคาดการณ์ตัวเลขกำไรเฉลี่ยถูกปรับขึ้น / ลดลงมากที่สุด 10 อันดับแรก หุ้นที่มีค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 2007 เติบโตสูงสุด / ต่ำสุด 10 อันดับแรก ตารางสรุปหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ต่ำสุด EPS Growth สูงสุด และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงสุด 10 อันดับแรก
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (SAA) เปิดเผยว่า ได้นำข้อมูลที่บริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมนักวิเคราะห์ฯ จัดทำและเผยแพร่ใน SAA Consensus มาพิจารณาต่อ โดยเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
นายสมบัติกล่าวว่า “จากผลการวิเคราะห์พบว่า ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นในปัจจุบันจะซบเซา โดยบริษัทที่คาดว่าจะมี EPS Growth ปี 2550 สูงสุด 10 อันดับแรก มี EPS Growth ระหว่าง 200% ขึ้นไป ถึงเกือบ 3,000% โดยบริษัทที่มี EPS Growth สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค (PF) มี EPS Growth 2,950% บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ (AI) มี EPS Growth 1,116% และ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) มี EPS Growth 650%
นอกจากนี้ 7 ใน 10 ของบริษัทที่มี EPS Growth สูงสุดยังมีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมากพอสมควรมีตั้งแต่ 14% ถึง 71% โดยบริษัทที่มีมูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานโดยเฉลี่ยสูงกว่าราคาหุ้นในปัจจุบันมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ (SATTEL) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 71.97% บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 41.23% และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 40.71%”
นายสมบัติกล่าวด้วยว่า “อย่างไรก็ตาม สำหรับ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ ที่ติดอันดับแรกนั้น อาจเป็นผลจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับข่าวความเสี่ยงบางประการทางธุรกิจและข่าวเชื่อมโยงบางประการกับผู้ถือหุ้น ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงกว่ามูลค่าที่ นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ซึ่งนักลงทุนควรหาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวได้ในรายละเอียดบทวิจัยของสำนักวิจัยต่างๆ ด้วย”
นอกเหนือจากหุ้นที่มี EPS Growth สูงสุดข้างต้น เมื่อสำรวจหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่โดยทั่วไปสมาคมนักวิเคราะห์ฯ ยังพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่นักวิเคราะห์มีความเห็นว่ามีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิดอยู่มากพอสมควร จากการสุ่มสำรวจใน SAA Consensus พบว่ามีทั้งสิ้น 9 บริษัท ที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 7% ถึง 27% โดยบริษัทที่มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิดโดยเฉลี่ย 3 อันดับแรกได้แก่ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด 27.03 % รองลงมาคือ .ปตท. (PTT) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด โดยเฉลี่ย 25.13% และ บมจ. อสมท (MCOT) มีมูลค่าที่เหมาะสมสูงกว่าราคาปิด โดยเฉลี่ย 18.93 %
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีแหล่งข้อมูลปัจจุบันที่ผู้ลงทุนสามารถค้นหา เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ ลงทุนในหลักทรัพย์ได้จากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th/setresearch ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่มีเนื้อหาที่เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับตลาดทุนในขณะนั้น โดยจะนำเสนอสาระโดยสรุปพร้อมกับการเชื่อมโยงเนื้อหาประเด็นจากข่าว และบทความที่น่าเชื่อถือและผ่านการคัดกรองทั้งของประเทศไทยและของโลก โดยอยู่ภายใต้หัวข้อ “In the Spotlight” ซึ่งจัดทำโดยฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นางภัทรียากล่าวเสริมว่า “การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนเป็นหนึ่งในภารกิจที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งเสริมให้มีการจัดทำบทวิเคราะห์ และสรุปข้อมูลสำคัญโดยสมาคมนักวิเคราะห์และหน่วยงานต่างๆ ในตลาดทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลที่หลากหลาย ประกอบการตัดสินใจ และนำไปประยุกต์ใช้ในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนได้ศึกษาทั้งข้อมูลพื้นฐานและใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบในการตัดสินใจลงทุนด้วย”
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร.0-2229—2036 / ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229—2037/ ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797