กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปความเสียหายจากแผ่นดินไหวใน 4 จังหวัด รวม 12 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนประชาชน โบราณสถาน และสถานที่ราชการได้รับความเสียหายหลายแห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ ความเสียหายเพิ่มเติม เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบฯ พร้อมสั่งการให้ ปภ.จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหว ความรุนแรง 7.0 ริกเตอร์
ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ทางตอนใต้ของประเทศพม่า ห่างจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 30 กิโลเมตร เมื่อคืนวันที่ 24 มีนาคม 2554 และเกิดอาฟเตอร์ช๊อก ขนาด 3.0 — 6.2 ริกเตอร์ตามมากว่า 40 ครั้ง ส่งผลให้เกิดความเสียหายใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา และน่าน โดยจังหวัดเชียงรายได้รับความเสียหายใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอ แม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่จัน และอำเภอพาน มีผู้เสียชีวิตจากการถูกกำแพงบ้านล้มทับ 1 ราย รวมถึงโบราณสถานได้รับความเสียหาย 4 แห่ง ได้แก่ พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุ เจดีย์หลวง พระวิหารวัดปู่ข้าว และวิหารวัดแม่เลียบ จังหวัดพะเยา ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอดอกคำใต้ โดยโบราณสถานได้รับความเสียหาย 2 แห่ง ได้แก่ องค์พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ และพระธาตุในวัดพระธาตุหลวง ส่วนจังหวัดน่าน วิหารวัดภูมินทร์วรวิหาร วัดช้างค้ำวรวิหาร และวัดเขาน้อยมีรอยร้าวเล็กน้อย สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ อาคารสำนักงานของเทศบาลตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทรายได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ทั้งนี้ ปภ. ได้ตรวจสอบข้อมูลผลกระทบจากแผ่นดินไหวกับเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพลพบว่าเขื่อนทั้ง 2 แห่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแต่อย่างใดนายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้สถานการณ์แผ่นดินไหวได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่ง ปภ. ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือจัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบฯ ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานการดำเนินงานกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด มั่นใจได้ว่าหากเกิดสถานการณ์ภัยจะสามารถแจ้งเตือนประชาชนได้ทันท่วงที จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ อย่าตื่นตระหนก อย่าหลงเชื่อข่าวลือ และปฏิบัติตามคำแจ้งเตือนของหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด หากประชาชนได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง