กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ 21-25 มี.ค. 54 เฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนทุกชนิด ราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.59 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ระดับ 109.30 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 3.17 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 115.50 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.85 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรลอยู่ที่ 104.62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.22 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 121.76 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 2.09 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล อยู่ที่ 132.30 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล จากสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียและตะวันออกกลางที่ยังไม่มีท่าทียุติโดยกองกำลังสหรัฐฯ และยุโรป ในนามสหประชาชาติ โจมตีฝ่ายรัฐบาลลิเบียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการโจมตีประเทศอาหรับจากประเทศตะวันตกครั้งใหญ่ที่สุดหลังจากสหรัฐฯ บุกอิรักในปี 2546
ความกังวลว่าอุปทานน้ำมันอาจตึงตัวยังคงมีอย่างต่อเนื่อง อาทิ ประธานาธิบดีเยเมน นาย Ali Abdullah Saleh เตือนอาจเกิดสงครามกลางเมือง (เยเมนส่งออกน้ำมันดิบที่ระดับ 290,000 บาร์เรลต่อวัน) การสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ เหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองใน ซีเรีย แอลจีเรีย โดยเฉพาะบาห์เรน ซึ่งอาจลุกลามเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. 54 เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 352.8 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามปริมาณสำรอง Gasoline ลดลง 5.3 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 219.7 ล้านบาร์เรล และ Distillates คงที่อยู่ที่ระดับ 152.6 ล้านบาร์เรล
สำหรับภาคเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณดีขึ้นจาก GDP ในไตรมาสที่ 4/53 อยู่ที่ระดับ 3.1% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ระดับ 2.8% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุด 19 มี.ค. 54 ลดลง 3,000 ราย จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 382,000 ราย อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้นำประเทศยุโรปเลื่อนกำหนดการออกมาตรการเพิ่มวงเงินรักษาเสถียรภาพทางการเงินจากเดือน มี.ค. 54 เป็นเดือน มิ.ย. 54 หลังจากนายกรัฐมนตรีโปรตุเกสประกาศลาออกเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 54 นอกจากนั้น Fitch และ Standard & Poor’s ลดระดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสลง 2 ระดับ อยู่ที่ A- และ BBB ตามลำดับ และ Moody’s ลดระดับความน่าเชื่อถือธนาคารในประเทศสเปน 30 แห่ง
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ ในระยะสั้นคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะแกว่งตัวอยู่ที่ระดับ 100-107 เหรียญสหรัฐฯ /บาร์เรล โดยราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังสหประชาชาติกับฝ่ายรัฐบาลลิเบียอาจเพิ่มระดับความรุนแรงรุนแรงขึ้น หลังจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization: NATO) มีมติร่วมปฏิบัติการทางทหารในลิเบีย อย่างไรก็ตาม ควรติดตามสถานการณ์การเมืองในลิเบียและตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด และให้จับตามองเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นประเมินความเสียหายโดยตรงจากภัยธรรมชาติครั้งแรกประมาณ 2-3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นความเสียหายจากภัยธรรมชาติมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จึงอาจส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทร. 0 2537-1630
โทรสาร 0 2537 2171