กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ผลการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางกรมศุลกากร ครั้งที่ 1/2550 กรมศุลกากรจำหน่ายรถยนต์ได้จำนวนทั้งสิ้น 89 คัน ทำรายได้เข้ารัฐเป็นมูลค่ากว่า 122 ล้านบาท
เมื่อวันพุธที่ 11 เมษายน 2550 เวลา 10.00 น. นายสังกรณ์ พึ่งประดิษฐ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในการเปิดขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางกรมศุลกากร โดยวิธีประมูลด้วยวาจา และมอบหมายให้บริษัท คฑา คอมมูนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ ณ บริเวณลานจอดรถ กรมศุลกากร คลองเตย
รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยถึงผลการขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางฯว่า รถยนต์ของกลางที่กรมศุลกากรนำมาขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูลด้วยวาจาในครั้งนี้ จำนวน 98 คัน มีรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ อาทิ MERCEDES BENZ , TOYOTA , MITSUBISHI , FERRARI , JAGUAR , KIA , NISSAN , B.M.W. , HONDA , HYUNDAI , ALFA ROMEO , ROVER , MAZDA , PEUGUEOT ฯลฯ โดยกรมศุลกากรสามารถจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 89 คัน เป็นมูลค่า 122.264 ล้านบาท
สำหรับรถยนต์ที่เปิดประมูลด้วยราคาสูงสุด ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อ FERRARI รุ่นปี 1984 สีแดง 2 ประตู เปิดประมูลด้วยราคา 14.29 ล้านบาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 17 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมศุลกากรจัดขายทอดตลาดรถยนต์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 1 ในรอบปี 2550 หลังจากที่ได้เว้นการขายทอดตลาดรถยนต์ของกลาง ตั้งแต่ต้นปี 2549 โดยให้จำหน่ายเฉพาะกับหน่วยงานราชการ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น (ดร.ทนง พิทยะ) ซึ่งที่ผ่านมากรมศุลกากรสามารถขายทอดตลาดรถยนต์ของกลาง ได้ดังนี้
- ปีงบประมาณ 2546 จำนวน 6 ครั้ง ขายทอดตลาดรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 376 คัน ทำรายได้เข้ารัฐ จำนวน 379.84 ล้านบาท
- ปีงบประมาณ 2547 จำนวน 5 ครั้ง ขายทอดตลาดรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 801 คัน ทำรายได้เข้ารัฐ จำนวน 469.587 ล้านบาท
- ปีงบประมาณ 2548 จำนวน 6 ครั้ง ขายทอดตลาดรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 771 คัน ทำรายได้เข้ารัฐ จำนวน 766.872 ล้านบาท