กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้รวม5 จังหวัด 42 อำเภอ 214 ตำบล 1,689 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 66,034 ครัวเรือน 161,991 คน ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง และชุมพร มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยว่าปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้รวม 5 จังหวัด 42 อำเภอ 214 ตำบล 1,689 หมู่บ้าน 66,034 ครัวเรือน 161,991 คน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ดังนี้
นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 20 อำเภอ 122 ตำบล 1,051 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 62,538 ครัวเรือน 27,638 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 16,600 ไร่ ถนน 297 สาย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา ลานสกา ร่อนพิบูลย์ พระพรหม พิปูน
เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร จุฬาภรณ์ ชะอวด ขนอม สิชล นบพิตำ ปากพนัง พรหมคีรี ท่าศาลา ถ้ำพรรณรา ช้างกลาง เชียรใหญ่ ฉวาง และนาบอนพัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ 41 ตำบล 363 หมู่บ้าน 55 ชุมชน ราษฎรเดือดร้อน 23,677 ครัวเรือน 94,708 คน
มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง เขาชัยสน ควนขนุน กงหรา ศรีบรรพต บางแก้ว ป่าพะยอม นครรินทร์ และป่าบอน
สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล 23 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอดอนสัก กาญจนประดิษฐ์ไชยา และเวียงสระตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ 15 ตำบล 77 หมู่บ้าน 2 ชุมชน ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด รัษฎาชุมพร เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 อำเภอ 25 ตำบล 175 ราษฎรเดือดร้อน 14,719 คน 4,745 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร สวี หลังสวน ละแม พะโต๊ะ และทุ่งตะโก
นอกจากนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง บริเวณถนนเพชรเกษม (สายระนอง-พังงา-ภูเก็ต) ช่วงคลองบางหิน หมู่ที่ 2 ตำบลบางหิน ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเส้นทาง โดยน้ำกัดเซาะทางเบี่ยงขาด ทำให้รถใหญ่ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนรถเล็กสามารถให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางเบี่ยงจากบ้านดอนทราย-บ้านบางหินแทน
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต11 สุราษฎร์ธานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ 47 ลำ เรือท้องแบน 20 ลำ เรือ HDPE พร้อมไม้พาย 105 ลำ เครื่องเรือหางยาว 10 เครื่อง เครื่องเรือเร็ว 1 เครื่อง ถุงยังชีพ 1,710 ชุด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ERT 5 นาย สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป