กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--อาร์ค เวิลดไวด์
ด.ญ. ปัญชลิกา และ เปมิกา อาภามงคล เด็กหญิงวัย 7 และ 9 ปี สาธิตการเล่น Glass Harp หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “พิณแก้ว” ในเพลง Twinkle little star และเพลงลอยกระทง สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้มาร่วมงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “มหัศจรรย์พลังสมอง” ที่จัดขึ้นโดย เอนฟาโกร เอพลัส ณ อุทยานการเรียนรู้ ทีเคพาร์ค เป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองคนหลงรักเครื่องดนตรีสุดมหัศจรรย์ชิ้นนี้ตั้งแต่แรก หลังจากเกิดความสงสัยถึงที่มาของเสียงที่ได้ยินจากแก้ว ก่อนได้ทดลองและเรียนรู้จนสามารถดัดแปลงตัวโน๊ต
ด.ญ. เปมิกา อาภามงคล วัย 9 ปี กล่าวว่า “ตอนแรกๆ ก็วางมือไม่ค่อยถูกค่ะ แต่ก็ฝึกฝนไม่นานก็สามารถเล่นได้ เริ่มเล่นแรกๆ เราก็ต้องเรียนเกี่ยวกับตัวโน๊ตก่อน แล้วค่อยนำตัวโน๊ตจากเปียโนมาประยุกต์ให้เข้ากับพิณแก้วค่ะ”
พิณแก้วเป็นเครื่องดนตรีที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 500 ปี เสียงอันไพเราะงดงามของพิณแก้วเกิดจากการสั่นสะเทือนของตัวแก้วขณะที่เราเอานิ้วมือถูวนไปรอบๆ บริเวณของขอบแก้ว เคล็ดลับของการเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ต้องใช้แก้วที่มีก้าน โดยปกติแก้วก้านที่มีขายอยู่ทั่วไปจะมีรูปทรงหลากหลายแตกต่างกันทั้ง วงกลม วงรี สามเหลี่ยม สูง เตี้ย แต่ที่รูปทรงที่เหมาะสำหรับการเล่นพิณแก้วต้องเป็นทรงกลม มีก้านสั้นจะให้เสียงของโน๊ตที่แตกต่างกัน ก่อนลงมือเล่นพิณแก้ว ต้องล้างแก้วและมือให้สะอาด ซึ่งนิ้วมือที่ใช้ถูแก้วต้องเปียกน้ำอยู่เสมอ โดยจะใช้นิ้วใดก็ได้ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล
อาจารย์วีระพงศ์ ทวีศักดิ์ นักดนตรีพิณแก้ว ผู้เป็นที่ 1 ในเอเชีย และ 1 ใน 20 ของโลก อาจารย์สอนพิณแก้วคนเดียวในประเทศไทยเปิดเผยถึงความเปลี่ยนแปลงของเด็กที่เล่นพิณแก้วว่าจะมีพัฒนาการทางด้านสมาธิความจำ และการคิดวิเคราะห์ดีกว่าเด็กทั่วไป เนื่องจากต้องมีสมาธิในการจดจ่อกับการวางนิ้วมือให้ถูกต้อง การฟังคีย์เสียง พร้อมแนะนำให้ผู้ที่สนใจเริ่มฝึกเล่นให้เล่นจากแก้วเพียง 5 ใบ ซึ่งจะได้โน๊ต 5 ตัว
อาจารย์วีระพงศ์ เปิดเผยถึงความเปลี่ยนแปลงของเด็กที่เล่นพิณแก้วว่าจะมีพัฒนาการทางด้านความคิด ความจำ และการคิดวิเคราะห์ดีกว่าเด็กทั่วไปว่า “ข้อแรกเลยผมคิดว่าเด็กที่เล่นพิณแก้วจะได้ฝึกฝนในเรื่องของสมาธิแน่ๆ เพราะเวลาเด็กๆ เล่นดนตรี ต้องมีสมาธิสูงมา ความน่าสนใจของเครื่องดนตรีจะดึงดูดให้เด็กๆ มีสมาธิอยู่กับดนตรี ซึ่งเมื่อเด็กๆ เรียนหนังสือ ก็เป็นการฝึกสมาธิไปในตัว”
การแสดงพิณแก้วเป็นหนึ่งตัวอย่างในการใช้ดนตรีในการฝึกฝนพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกน้อย ทั้งยังเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวสามารถฝึกได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ภายในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “มหัศจรรย์พลังสมอง” โดยเอนฟาโกร เอพลัส ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กมาร่วมพูดคุยและแบ่งปันเคล็ดลับในการเพิ่มพลังสมอง เพื่อความพร้อมในทุกๆ การเรียนรู้ อาทิ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และดร.พัฒนา ชัชพงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการศึกษาปฐมวัย ม.ศรีนครินทรวิโรฒ พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจัดกิจกรรมเวิร์คชอป ในการส่งเสริมศักยภาพลูกน้อยสู่ความฉลาดระดับสูง โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ส่วน คือ
1. โซน Sound Garden ช่วยฝึกฝนสมาธิกับการฟังเสียงที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติหรือเสียงที่มีอยู่รอบตัว เช่น เสียงน้ำไหล เสียงกบ เสียงแมลง เสียงนาฬิกา เสียงกล่อมเด็ก หรือแม้กระทั่งเสียงของแม่ เพราะเด็กจะชอบดนตรี ชอบเคลื่อนไหว จะช่วยจัดข้อมูลในสมอง จากการเชื่อมโยงการใช้ร่างกายกับเสียงที่ได้ยิน
2. โซนอุโมงค์เครื่องครัว ในการฝึกความจำที่สัมพันธ์กับการจำแนกเสียง ลักษณะของวัตถุกับของใช้ภายในบ้าน โดยเฉพาะเครื่องครัวที่ทำให้เด็กได้ฝึก ตาดู หูฟัง กายสัมผัส ทำให้เด็กสามารถเห็นความแตกต่างของรูปทรง ระดับเสียง สามารถจดจำความแตกต่าง ส่งผลต่อการจำในระยะสั้นและระยะยาว
3. หลังจากเด็กมีสมาธิฝึกความจำ ก็ช่วยให้เป็นเด็กที่สามารถคิดวิเคราะห์เป็น โดยส่วนที่ 3 ที่จะนำระดับเสียงตัวโน๊ตเข้ามาให้เด็กลองเล่นผ่านขวดแก้ว และเปียโนน้ำ ที่จะช่วยเสริมสร้างระดับการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี ซึ่งความฉลาดระดับสูงในที่นี้ คือความสามารถในการควบคุมความสนใจ โดยการดึงข้อมูลที่บันทึกไว้ ความมีเหตุผล การสลับสับเปลี่ยน รวมไปถึงการวางแผนและตัดสินใจ สามารถประมวลผลข้อมูลเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ซับซ้อน เช่นการเข้าใจด้านภาษา ความมีเหตุผล และการแก้ปัญหา เป็นต้น
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจปรึกษาเรื่อง “กระบวนการเพิ่มพลังสมอง” สู่ความฉลาดระดับสูงของลูกน้อย สามารถติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ มี้ด จอห์นสัน ที่โทร. 02-725-8700 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.enfababy.com