กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--กรมธนารักษ์
กรมธนารักษ์ร่วมกับ ธพส. เตรียมสร้างอาคารหรูเน้นรูปแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ย่านใจกลางกรุงเขตพญาไท ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส บนที่ราชพัสดุ เนื้อที่ 5 ไร่เศษ เพื่อให้หน่วยราชการใช้เป็นที่ทำงานและบางส่วนเช่าเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะสามารถช่วยรัฐประหยัดงบประมาณจากการเช่าพื้นที่อาคารเอกชนได้ราว210 ล้านบาทต่อปี โดยจะเริ่มก่อสร้างต้นปีหน้า คาดแล้วเสร็จทันใช้ในปี 2558
วันนี้ (29 มีนาคม 2554) ณ กรมธนารักษ์ ในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลง บบส.(เดิม) โดยมี ดร.มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้บริหารบริษัท ธนา ักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมธนารักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้รับคำขอใช้ที่ดินราชพัสดุเพื่อสร้างเป็นสำนักงานจากหน่วยงานราชการในเขตกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากมีข้อจำกัด และไม่สามารถจัดหาที่ดินได้ จึงมีโครงการก่อสร้างเป็นอาคารแทนการให้พื้นที่ว่างเปล่า ดังนั้น
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 บนถนนแจ้งวัฒนะ จึงได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับหน่วยงานราชการ ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานราชการเข้าใช้ประโยชน์มากกว่า30 หน่วยงาน
นายวินัย กล่าวต่ออีกว่า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถือได้ว่าเป็นโครงการนำร่องในการนำที่ราชพัสดุมาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่า และเพิ่มรายได้เข้ารัฐ รวมทั้งเป็นการแก้ปัญหาให้กับหน่วยงานราชการท ี่ยังไม่มีสำนักงาน แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ ฉะนั้น กรมธนารักษ์จึงได้ร่วมมือกับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) พัฒนาที่ราชพัสดุเพื่อเป็นอาคารสำนักงานรวมหน่วยงานราชการ โดยการนำที่ราชพัสดุแปลงบรรษัทบริหารสินทรพัย์สถาบันการเงิน หรือ บบส.เดิม เนื้อที่ 5 ไร่เศษ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยพหลโยธิน 3 เขตพญาไท ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส ระหว่างสถาน สนามเป้าและสถานีอารีย์ เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานให้หน่วยงานราชการเข้าใช้ โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องขยายพื้นที่การทำงานให้สอดคล้องกับภารกิจและรองรับการบริการจากประชาชน ส่วนสาเหตุที่เลือกพื้นที่บริเวณ บบส.เดิม ในการดำเนินโครงการ เนื่องจากเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจ มีแนวโน้มการพัฒนามากขึ้น มีระบบการขนส่งและการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ รวมทั้งมีส่วนขยายเชื่อมต่อกับหน่วยงานราชการอื่นๆ และหน่วยงานเอกชนที่สำคัญหลายแห่ง
สำหรับรูปแบบโครงการดังกล่าว ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นได้ของโครงการเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการพัฒนาใช้ประโยชน์ในที่ดินเต็มศักยภาพตามที่กฎหมายกำหนด มีรูปแบบที่เหมาะสมและมีความทันสมัยมากที่ส ุด รูปแบบอาคารเป็นสถาปัตยกรรมสีเขียว หรือ Green Architecture เพื่อต้องการสร้างสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ มีผลดีต่อสุขภาพของผู้ทำงาน ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร ผ่านการเลือกใช้วัสดุและวิธีการก่อสร้างที่เ ป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมพื้นที่ใช้สอย 75,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 2,500 ล้านบาท หากจัดให้ ธพส. เช่าเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งนี้จะสร้างรายได้เข้ารัฐราว 52 ล้านบาทต่อปี และจะช่วยหน่วยงานภาครัฐประหยัดงบประมาณในการเช่าอาคารกับเอกชนเพื่อใช้เป็นสำนักงานในการปฏิบัติถึงปีละกว่า 210 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ในต้นปี หน้า และแล้วเสร็จสมบูรณ์แบบพร้อมใช้ในในปี 2558 อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวในท้ายที่สุด