กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้รวม 8 จังหวัด 80 อำเภอ 536ตำบล 3,464 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 257,786 ครัวเรือน 716,110 คน ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา กระบี่ และจังหวัดพังงา บ้านเรือนราษฎรเสียหายทั้งหลัง 4 หลัง บางส่วน 132 หลัง ถนน 1,483 สาย มีผู้เสียชีวิต 11 ราย(จ.นครศรีธรรมราช 7 ราย จ.พัทลุง 1 ราย จ.สุราษฎร์ธานี 3 ราย)
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยว่าปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้รวม 8 จังหวัด 80 อำเภอ 536ตำบล 3,464 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 257,786 ครัวเรือน 716,110 คน ดังนี้
นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 23 อำเภอ 159 ตำบล 1,285 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 89,351 ครัวเรือน 276,074 คนพื้นที่การเกษตรเสียหาย 150,049 ไร่ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 300,000,000 บาท ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชลานสกา ร่อนพิบูลย์ พระพรหม พิปูน เฉลิมพระเกียรติ หัวไทร จุฬาภรณ์ ชะอวด ขนอม สิชล นบพิตำ ปากพนัง พรหมคีรี ท่าศาลา ถ้ำพรรณรา ช้างกลาง เชียรใหญ่ ฉวาง นาบอน ทุ่งใหญ่ ทุ่งสง และบางขัน
พัทลุง น้ำท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ 63 ตำบล 583 หมู่บ้าน 45 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 44,508 ครัวเรือน 176,669 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 40,754 ไร่ ถนน 38 สาย ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง เขาชัยสน ควนขนุน กงหรา ศรีบรรพต บางแก้ว ป่าพะยอม ศรีนครรินทร์ป่าบอน ตะโหมด และปากพยูน
สุราษฎร์ธานี เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 17 อำเภอ 106 ตำบล 767 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 53,651 ครัวเรือน
199,790 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 157,992 ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 6,800,000 บาท มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ดอนสัก กาญจนประดิษฐ์ ไชยา เวียงสระ ท่าชนะ บ้านนาสาร บ้านนาเดิม คีรีรัฐนิคม เกาะสมุย วิภาวดี พุนพิน ท่าฉาง พระแสง เกาะพะงันพนม และบ้านขุนตา
ตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 34 ตำบล 166 หมู่บ้าน และ 3 เทศบาล ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,256 ครัวเรือน
7,080 คน ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง ห้วยยอด รัษฎา นาโยง และย่านตาขาว
ชุมพร เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ 1 เทศบาลเมือง 40 ตำบล 381 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 18,684 ครัวเรือน 55,385 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,242 ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 30,904,000 บาท ได้แก่ อำเภอเมืองชุมพร สวี หลังสวน ละแม พะโต๊ะ ทุ่งตะโก และปะทิว
สงขลา เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ 14 ตำบล 73 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 9,375 ครัวเรือน 28,144 คน ได้แก่ อำเภอระโนด และกระแสสินธุ์
กระบี่ เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 7 อำเภอ 37 ตำบล 209 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,260 ครัวเรือน 9,785 คน
พื้นที่การเกษตรเสียหาย 150 ไร่ ได้แก่ อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม ลำทับ เกาะลันตา เหนือคลอง คลองท่อม และอ่าวลึก
พังงา เกิดน้ำท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ 43 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมืองพังงา เกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง คุระบุรี ตะกั่วป่า ทับปุด และกะปง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต11สุราษฎร์ธานี และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือ HDPE พร้อมไม้พาย เรือไฟเบอร์กลาส เรือยาง เครื่องเรือหางยาว เครื่องเรือเร็ว รถบรรทุก น น้ำดื่ม ถุงยังชีพ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด ERT สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป