3 สมาคมยืนยันน้ำตาลในประเทศไม่ขาดแคลน ยังขายไม่ออกอีก 146 ล้าน ก.ก. ชี้อย่าดูแค่โมเดิร์นเทรด

ข่าวทั่วไป Wednesday March 30, 2011 14:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย มั่นใจปริมาณน้ำตาล 2,500 ล้านกิโลกรัม เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศแน่นอน หลังมีข้อมูลน้ำตาลค้างกระดานรอขายกว่า 146 ล้าน ก.ก. เทียบเท่ากับ 3 งวดปกติ ระบุสัดส่วนการขายน้ำตาลในโมเดิร์นเทรดแค่ 8-10% ของปริมาณน้ำตาลในประเทศทั้งหมด ไม่สามารถเป็นดัชนีชี้วัดว่า น้ำตาลขาดแคลนได้ ชี้ทางแก้ปัญหาน้ำตาลในโมเดิร์นเทรด ให้ห้างตักน้ำตาลขายโดยโรงงานไม่ต้องลงทุนแพ็คถุง และเข้มงวดกับผู้ค้าปลีกทั่วไปให้ขายในราคาควบคุม นางวัลยารีย์ ไพสุขศานติวัฒนา เลขานุการคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า จากการจัดเก็บข้อมูลของโรงงานน้ำตาลทรายทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2554 พบว่า สำหรับโควตา ก. (จำหน่ายในประเทศ) ได้จำหน่ายน้ำตาลทรายออกไป 6,637,274.97 กระสอบ จากน้ำตาลทรายที่ได้ขึ้นงวดแล้ว 7,973,066 กระสอบ จึงเหลือน้ำตาลที่ค้างกระดานอีก 1,335,791.03 กระสอบ หรือ 133.58 ล้านกิโลกรัม เมื่อรวมกับน้ำตาลฤดูการผลิตเมื่อปี 2552/2553 ที่มียอดค้างกระดานรอการขายอีก 12.71 ล้านกิโลกรัม ทำให้ณ วันที่ 28 มีนาคม มีน้ำตาลทรายที่รอการขายสูงถึง 146.29 ล้านกิโลกรัม ทั้งนี้ ในแต่ละสัปดาห์ จะมีน้ำตาลทรายขึ้นงวดเพื่อขายในประเทศอีกประมาณ 48 ล้านกิโลกรัม น้ำตาลที่ค้างกระดานปัจจุบันนี้ จึงเทียบเท่ากับ 3 งวดปกติ“ช่วงเดียวกันของฤดูการผลิตปีที่ผ่านมา มีน้ำตาลค้างกระดานเพียง 102.92 ล้านกิโลกรัมเท่านั้น แต่ปีนี้มีปริมาณน้ำตาลค้างกระดานสูงกว่ามาก สะท้อนว่า ความต้องการน้ำตาลในประเทศในปีนี้ต่ำกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่ปริมาณน้ำตาลโควตา ก. ที่จัดสรรไว้ปีนี้ที่ 25 ล้านกระสอบ หรือ 2,500 ล้านกิโลกรัม สูงกว่าปีที่แล้วถึง 3 ล้านกระสอบ และยังมีสำรองไว้อีก 3 ล้านกระสอบ หรือ 300 ล้านกิโลกรัม รวมเป็นปริมาณที่เตรียมไว้บริโภคในประเทศเท่ากับ 2,800 ล้านกิโลกรัม ซึ่งเป็นการเพิ่มจากปีที่แล้ว 30% จึงเชื่อว่า ปริมาณน้ำตาลในปีนี้จะเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศอย่างแน่นอน” นางวัลยารีย์กล่าว อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกว่าน้ำตาลขาดแคลนนั้น น่าจะมาจากกรณีที่ผู้บริโภคไปซื้อน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัมตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) แล้วไม่สามารถหาซื้อได้ในบางแห่ง เป็นเพราะเรื่องของราคาขาย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำหนดราคาขายปลีกน้ำตาลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่กิโลกรัมละ 23.50 บาท แต่ในทางปฏิบัติจริงประชาชนที่ซื้อน้ำตาลถุง 1 กิโลกรัมในห้างโมเดิร์นเทรดจะได้ราคาต่ำกว่าซื้อตามตลาดสด หรือซื้อจากร้านโชว์ห่วย ประกอบกับการขยายสาขาของโมเดิร์นเทรด ทำให้มีความต้องการซื้อน้ำตาลจากโมเดิร์นเทรดสูงขึ้นมาก “แม้ความต้องการของโมเดิร์นเทรดจะสูง แต่ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายก็มีเพียง 4 ราย ที่ทำน้ำตาลถุง 1 กิโลกรัมมาจำหน่าย เพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่าราคาขาย จึงไม่มีใครอยากขาดทุน รายที่ทำออกมาขายและยอมขาดทุนก็เพราะถือว่า เป็นงบประมาณเพื่อการประชาสัมพันธ์ หรือสร้างแบรนด์” เลขานุการคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวด้วยว่า ปริมาณน้ำตาลทรายที่ขายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่คิดเป็น 8-10% เท่านั้น เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำตาลที่จำหน่ายในประเทศทั้งหมด ดังนั้น การใช้ช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นตัวแทนของการบริโภคน้ำตาลภายในประเทศ ไม่น่าจะถูกต้อง สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำตาลในโมเดิร์นเทรด สามารถทำได้หลายทาง เช่น ให้ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดซื้อน้ำตาลทรายขนาด 50 กิโลกรัม จากโรงงานไปบรรจุถุงขายให้กับผู้บริโภคตามความต้องการ รวมไปถึงการเข้มงวดตรวจจับผู้ค้าปลีกน้ำตาลในราคาเกินกว่าราคาควบคุม เพื่อลดการเก็งกำไรโดยการไปซื้อน้ำตาลจากโมเดิร์นเทรดมาขายต่อนอกห้าง นางวัลยารีย์กล่าวอีกว่า การกำหนดปริมาณน้ำตาลโควตา ก. ที่ชัดเจนจะส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวไร่อ้อยและประเทศชาติ เพราะจะมีผลต่อการวางแผนการจำหน่ายน้ำตาลโควตา ค. หรือน้ำตาลส่งออก ซึ่งจะต้องทำสัญญาขายล่วงหน้า หากไม่มีความชัดเจนก็จะทำให้เสียโอกาสจากการขายน้ำตาลในระดับราคาที่เหมาะสม ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จะเป็นส่วนของชาวไร่อ้อย 70% และโรงงานน้ำตาล 30% “อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อปริมาณน้ำตาลในประเทศก็คือ ภาคอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าส่งออกโดยใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ อยากให้ภาครัฐตรวจสอบให้ชัดว่าใช้น้ำตาลโควตา ก. เป็นวัตถุดิบปริมาณเท่าใด หรือหากกำหนดให้ชัดเลยว่าจะใช้โควต้า ก. หรือโควตา ค. ก็จะทำให้การจัดสรรสัดส่วนของโควต้า ก. ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในภาวะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกสูงเช่น ในปัจจุบันนี้ ภาครัฐจะต้องเข้มงวดกับการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำน้ำตาลโควตา ก. ออกไปขายตามชายแดนด้วย” นางวัลยารีย์กล่าว อนึ่ง บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด เป็นองค์กรช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศไทย ด้วยข้อมูลข่าวสาร การวิเคราะห์อย่างถูกต้อง และการสื่อสารความจริงให้สังคมและภาครัฐได้ร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมฯ อย่างยั่งยืน ประชาสัมพันธ์โดยบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในนามบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ พิภพ ฆ้องวง โทร. 0-2248-7967-8 ต่อ 118
แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ