กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์
ศูนย์การค้า “อินสแควร์” ประสานเสียงภาครัฐ ผุดงานสัมมนา “In Square Business Solutions : “ คิดต่าง สร้างอนาคต ” หนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดัน SMEs ไทย โกอินเตอร์
ศูนย์การค้า “อินสแควร์” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านจตุจักร ที่รวบรวมเอาสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการครบวงจรที่ตอบสนองต่อทุกไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯ แหล่งรวมผู้ประกอบการแนวคิดใหม่ ภายใต้แนวคิด “In Square , Spark Your Future” ประกาศหนุนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาล กระตุ้นผู้ประกอบการ SMEsเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการบริหารระบบโลจิสติกส์ เพื่อยกระดับการให้บริการ และลดต้นทุนโดยใช้แนวคิดเรื่องการสร้างและเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจต่างๆ เข้าด้วยกัน มั่นใจนำสินค้าไทยแข่งขันได้ในตลาดโลก จัดงานสัมมนา “In Square Business Solutions : “ คิดต่าง สร้างอนาคต ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ เพื่อการพัฒนาศักยภาพ SMEs ไทยอย่างยั่งยืน
นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา และ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ กล่าวในการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “คิดแตกต่าง สู่หนทางธุรกิจยุคใหม่” ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สินค้าประเภท “Mass Product” หรือสินค้าที่ผลิตเหมือนกันหลายๆ ชิ้นในคราวเดียวเพื่อลดต้นทุน การผลิต ไม่ใช่สิ่งที่ตรงตามความต้องการของตลาดอีกต่อไป ผู้บริโภคต้องการสิ่งที่แตกต่างและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ดังนั้นหนทางสู่ธุรกิจยุคใหม่ ผู้ประกอบการจะต้องรู้จักสร้างสรรค์ผลงานให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคและหาช่องทางการตลาดที่เหมาะสมเพื่อจะเข้าถึงผู้บริโภคที่มีความหลากหลายในการต้องการสินค้าและบริการมากขึ้น ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์และการคิดต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นจะเป็นอาวุธทางธุรกิจที่สำคัญในการช่วยสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าและบริการของตนเองในขณะเดียวกันหน่วยงานภาครัฐได้หันมาให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยมียุทธศาสตร์การสร้างเศรษฐกิจฐานความรู้และการสร้างปัจจัยแวดล้อม เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตสินค้าและบริการในภูมิภาค บนพื้นฐานแนวคิดสร้างสรรค์และการสร้างนวัตกรรม รวมทั้งต่อยอดองค์ความรู้ให้สามารถสนับสนุนการสร้างมูลค่าในการปรับโครงสร้างภาคการผลิตและบริการให้มีมูลค่าสูงขึ้นในทุกขั้นตอน โดยใช้เศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นพลังขับเคลื่อนใหม่
นายคมสรรค์ วิจิตรวิกรม ประธานโครงการสตรีท แฟชั่น รันเวย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การพัฒนาระบบโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งในศูนย์การค้า “อินสแควร์” ประสานเสียงภาครัฐ ผุดงานสัมมนา “In Square Business Solutions : “ คิดต่าง สร้างอนาคต ”
การพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ หากต้องการที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ไปยังตลาดโลก โดยปัจจุบันทางโครงการฯ ได้ดำเนินการหลายอย่างในการผลักดันสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าประเภทแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ภายใต้แบรนด์คนไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก ซึ่งล่าสุดเราได้พื้นที่ที่เป็นทำเลทองในการตั้งเป็นศูนย์กระจายสินค้าเหล่านี้ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความพร้อมในด้านโลจิสติกส์ นั่นคือ ศูนย์การค้า “อินสแควร์” ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านจตุจักร
โครงการสตรีท แฟชั่น รันเวย์ เป็นโครงการที่ สสว. ร่วมกับสมาคมชาวโบ๊เบ๊จัดทำขึ้น มีเป้าหมายเพื่อสร้างผู้ประกอบการเสื้อผ้ารายย่อยที่มีแบรนด์เนมเป็นของตัวเองในการยกระดับให้มีศักยภาพแข่งขันได้ในต่างประเทศ โดยเน้นการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อรวบรวมจุดอ่อนจุดแข็ง และวิเคราะห์อุปสรรคและแนวทางแก้ไขเพื่อนำมาใช้วางกลยุทธ์ในการดำเนินงาน และการสร้างเครื่องมือทางด้านอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้เป็นช่องทางในการทำตลาด และการสร้างแบรนด์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (อี-คอมเมิร์ซ)
ในส่วนของเจ้าภาพการจัดงาน นายจักรพันธ์ ศรีไกรวิน กรรมการบริหาร บริษัท เจ.เจ.เซ็นเตอร์ จำกัด เจ้าของศูนย์การค้า In Square กล่าวว่า การจัดงานสัมนา “In Square Business Solutions : “ คิดต่าง สร้างอนาคต ” ในครั้งนี้ เราจัดขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้พัฒนาเทียบเท่ากับสากล โดยเราได้ดึงเอา 2 หัวข้อที่เราคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับเหล่าผู้ประกอบการ SMEs นั่นก็คือ “คิดแตกต่าง สู่หนทางธุรกิจยุคใหม่” และ “In Square จัดกองทัพธุรกิจ ขับเคลื่อน SMEs ไทย”โดยเราได้ทำการเรียนเชิญเหล่ากูรูของทั้ง 2 หัวข้อมาเพื่อถ่ายทอดประสบการและให้คำแนะนำกับท่านผู้ฟังเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการนำเอาไอเดียใหม่ๆไปใส่ในสินค้าและบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการอีกด้วย
โดยจุดอ่อนที่ไทยจะต้องรีบแก้ไขคือการพัฒนาศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะระบบการขนส่งมวลชน สินค้าและบริการที่ยังล้าหลัง การพัฒนาคุณภาพของประชากร การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา การลงทุนทางด้านเทคโนโลยีซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร่งมากกว่าในอดีต สิ่งที่ทั้งรัฐบาลและเอกชนจะต้องเร่งรีบดำเนินการเป็นเป้าหมายหลักใน 5 ปีระหว่างปี 2554 ถึง 2558 ก็คือการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและระบบขนส่งสินค้าให้ทันกับภาวะเศรษฐกิจของโลก
“โลจิสติกส์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหากมีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงานลงได้ 10% ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าได้อย่างทันต่อความต้องการ สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ดังนั้นผู้ประกอบการทั้งหลาย โดยเฉพาะ SMEs ในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ ควรที่จะหันมาให้ความสำคัญและใช้
ระบบโลจิสติกส์ในการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ ให้เกิดศักยภาพสูงสุดในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีการค้าโลก” นายจักรพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับอินสแควร์
“อินสแควร์” ศูนย์การค้าแห่งใหม่ย่านจตุจักรบนพื้นที่กว่า 7.8 ไร่ มีทำเลอยู่ใจกลางระหว่างองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และตลาดนัดจตุจักร โดยคาดว่าจะมีกำหนดเปิดให้บริการในเฟสแรกในช่วงเดือนธันวาคม 2554 และสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนเมษายน 2555 เป็นศูนย์สรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่ใจกลางชุมทางขนส่งมวลชนกรุงเทพ และยังเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของผู้มาเยือนต่อพื้นที่สูง โดยเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์นับแสนคน
“อินสแควร์” เป็นแหล่งรวมสรรพสินค้าและบริการครบวงจรที่คงเอกลักษณ์ของตลาดจตุจักรครบถ้วน ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ และเป็นศูนย์รวมกิจกรรมแห่งใหม่ของคนกรุง โดยมุ่งหวังให้เป็นจุดศูนย์รวมแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ คือเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกใหม่ในการพักผ่อน ให้ประสบการณ์ความสุขอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คงความเป็นตลาดจตุจักรไว้ครบถ้วน มีการแบ่งโซนสินค้าเป็นหมวดหมู่ชัดเจน มีสินค้าและบริการสินค้าให้เลือกมากมายในบรรยากาศที่คลาสสิก และที่สำคัญตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีการเดินทางที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน) และสายสีม่วง (บางใหญ่) ที่จะแล้วเสร็จอีกไม่กี่ปีข้างหน้า