กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--เวิรฟ
ซัมซุงตอกย้ำผู้นำอันดับหนึ่งทุกเซ็กเม้นท์ตลาดทีวี ขนทัพผลิตภัณฑ์กว่า 100 รายการ โชว์ในงานแสดงผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงประจำปี 2554 หรือ เอวี โร้ดโชว์ 2011 (Samsung AV Roadshow 2011) สร้างประสบการณ์ชีวิตแบบสมาร์ท (Smart Life) สู่ผู้บริโภคแบบครบวงจร นำโดยผลิตภัณฑ์แห่งปี “ซัมซุง สมาร์ท ทีวี (Samsung Smart TV)” ที่สุดแห่งนวัตกรรมความบันเทิงเหนือจินตนาการ ด้วย Smart 3D, Smart Hub และ Smart Design มั่นใจครองแชมป์ผู้นำตลาดทีวีตลอดกาลด้วยส่วนแบ่งตลาด 45%
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาซัมซุงในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านภาพและเสียงของโลก ได้เป็นผู้บุกเบิกในการนำผลิตภัณฑ์แอลอีดีทีวีออกสู่ตลาด และการสร้างเทรนด์เทคโนโลยี 3 มิติขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย โดยซัมซุงเป็น แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในตลาดที่นำเสนอโซลูชันผลิตภัณฑ์ 3 มิติครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นแอลอีดีทีวี พลาสม่าทีวี แอลซีดีทีวี เครื่องเล่นบลูเรย์ โฮมเธียเตอร์ แว่นตา 3 มิติ และคอนเทนท์ 3 มิติ ซึ่งการเปิดตัวเทคโนโลยี 3 มิติซัมซุงในเมืองไทยช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีเป็นต้นมา นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มภาพและเสียงของซัมซุงช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 นั้นเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40%”
“ในปีนี้ซัมซุงตอกย้ำความเป็นผู้นำอีกครั้งด้วยการต่อยอดประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านอีกระดับ เปิดตัว “ซัมซุง สมาร์ท ทีวี” ที่นับเป็นเจเนอเรชันใหม่ของทีวี ที่สามารถทำได้มากกว่าการรับชมภาพและเสียงเพียงอย่างเดียว แต่จะสามารถเชื่อมต่อไปสู่โลกแห่งข้อมูลข่าวสารอย่างไรขีดจำกัด ซัมซุง สมาร์ท ทีวี ล้ำหน้าไปด้วย 3 คุณสมบัติโดดเด่น ประกอบด้วย Smart 3D, Smart Hub และ Smart Design ซึ่ง Smart 3D เป็นเทคโนโลยี 3 มิติ ที่ปีนี้ซัมซุงพัฒนาให้ก้าวล้ำยิ่งกว่าเดิมทั้งภาพและเสียง Smart Hub การนำคอนเทนต์ต่างๆ มารวมไว้บนหน้าจอเพื่อประสบการณ์การรับชมทีวีที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยฟังก์ชั่น Web Browser, Social TV, Search All และ Your Video* อีกทั้งพร้อมเล่นอินเทอร์เน็ตได้ทันที โดยปัจจุบันมีสถิติการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันสมาร์ททีวีทั่วโลกทะลุ 2 ล้านครั้งผ่าน ซัมซุงแอพพลิเคชัน (Samsung Apps) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชัน สโตร์ในระบบ HDTV แห่งแรกในโลก (HDTV-based application store) ที่ผู้ใช้สามารถซื้อและดาวน์โหลดแอพพลิเคชันหลากหลายได้โดยตรงจากเครื่องรับโทรทัศน์ของตน เพื่ออีกขั้นของประสบการณ์การรับชมภาพและเสียงระดับสุดยอด และ Smart Design รูปลักษณ์ใหม่ที่ขอบทีวีบางลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน เหลือเพียง 5 มม. เอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุงที่เรียกว่า One Design ที่ถูกออกแบบให้กรอบทีวีบางลงเผยให้เห็นทุกมุมมองเพื่อการรับชมที่กว้างขึ้นเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยปีนี้ซัมซุงตั้งเป้ายอดขายสมาร์ท ทีวีในประเทศไทยที่ 200,00 เครื่อง” นายรัชตะกล่าวเสริม
สำหรับปีนี้ซัมซุงเตรียมเปิดตัวนวัตกรรมภาพและเสียงกว่า 100 รายการ โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ที่ซัมซุงนำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในงานเอวี โร้ดโชว์ 2011 อาทิ
- ซัมซุง 3D ฟูลเอชดี แอลอีดีทีวี รุ่น D8000 กรอบบางเพียง 5 มม.เอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุง การันตีด้วยรางวัล CES Innovation Award พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าเพื่ออรรถรสด้านภาพและเสียง อาทิ ครั้งแรกของเทคโนโลยี Micro Dimming plus ให้ภาพส่วนสีดำดำสนิท และสีขาวขาวบริสุทธิ์ ขจัดจุดพร่ามัว ภาพคมชัดละเอียด และ 3D Sound พลังเสียง 3 มิติสุดสมจริงพร้อมฟังก์ชันเสริม Smart Hub
- ซัมซุง 3D ฟูลเอชดี แอลอีดีทีวี รุ่น D7000 กรอบบางเพียง 5 มม.เอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุง พร้อมเทคโนโลยี 3D HyperReal Engine ช่วยปรับปรุงคุณภาพ และความคมชัดของภาพให้ดีที่สุด เสริมด้วยเทคโนโลยี 600 Hz Clear Motion Rate ให้ภาพเคลื่อนไหวคมชัด และจอภาพแบบ Ultra Clear Panel ช่วยให้ภาพมีมิติ และ 3D Sound พร้อมฟังก์ชันเสริม Smart Hub
- ซัมซุง 3D ฟูลเอชดี พลาสม่าทีวี รุ่น D8000 มาในดีไซน์ใหม่ล่าสุด Plasma+1 การออกแบบที่ลดขนาดของขอบทีวีลงทำให้เพิ่มพื้นที่ในการรับชมภาพมากถึง 1 นิ้ว เมื่อเทียบกับทีวีรุ่นก่อนๆ ในขนาดเดียวกัน พร้อม Real Black Filter อีกระดับของมิติภาพที่คมชัดและไม่มีแสงสะท้อนรบกวน แม้ชมในที่สว่าง พร้อมฟังก์ชันเสริม Smart Hub
- โฮมเธียเตอร์รุ่น HT-D6750WK ครั้งแรกกับระบบเสียง 3D Vertical Sound and 3D Dept Sound เพื่อเสียงสมจริง สนับสนุนภาพ 3 มิติ ทั้งยังแปลงภาพจาก 2 มิติ เป็น 3 มิติได้อีกด้วย พร้อมด้วยสุดยอดฟังก์ชันจูนภาพคมชัด Up scaling แบบ BD-Wise ลิขสิทธ์เฉพาะซัมซุง
- เครื่องเล่นบลูเรย์ดิสก์ที่บางที่สุดในโลก รุ่น BD-D7500 เครื่องเล่นบลูเรย์แบบ Full HD 1080P ระบบ 3 มิติ บางเพียง 23 มม. เสริมฟังก์ชัน Web Browser, Social TV, Search All และ Your Video พร้อม Wi-Fi Built-In เพื่อความสะดวกสบายในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
นายรัชตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การแข่งขันในตลาดทีวีปัจจุบันค่อนข้างเข้มข้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ที่ในยุคนี้ถือได้ว่าผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชันและดีไซน์แตกต่างสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซัมซุงมั่นใจว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าและดีไซน์ที่สวยเกินใครของซัมซุงนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความสำเร็จของธุรกิจภาพและเสียงซัมซุง”
ด้านนางจันทร์วิภา พิพัฒนกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าว่า “ซัมซุงเตรียมทุ่มงบการตลาดเพื่อทำการโปรโมทผลิตภัณฑ์สมาร์ท ทีวีอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้สื่อครบวงจรแบบ 360 องศา ทั้งอโบฟเดอะไลน์และบีโลว์เดอะไลน์ อาทิ การใช้สื่อเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ การทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ณ จุดขาย และการทำตลาดร่วมกับคู่ค้าเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด และเนื่องจากตลาดภาพและเสียงในประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่มีการแข่งขันสูง ซัมซุงจึงวางแผนจัดทำแคมเปญเพื่อการสื่อสารสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยให้มากขึ้น นอกจากนี้ซัมซุงยังให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานหน้าร้านทั่วประเทศ เพื่อให้พนักงานมีความรู้และความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์และสามารถสื่อสารถึงผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องครบถ้วน”
“ปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดของซัมซุงอยู่ที่ 40 % พร้อมตั้งเป้าครองผู้นำตลาดอันดับ 1 ตลาดทีวีทุกเซ็กเมนท์อย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 45% ภายในสิ้นปี ทั้งนี้ซัมซุงตั้งเป้าการเติบโตของกลุ่มทีวี 3 มิติที่ 80% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งซัมซุงมั่นใจว่าจากความสำเร็จของกลุ่มทีวีจะช่วยผลักดันให้ยอดขายกลุ่มภาพและเสียงทั้งหมดในปีนี้โตขึ้นกว่า 30% อย่างแน่นอน” นายรัชตะ กล่าวสรุป