CGS ปลื้มถึงเวลา Turn Around จ่ายเงินปันครั้งแรกในรอบ 11 ปี มั่นใจผลประกอบการปี 2554 เติบโตโดดเด่นจากปีที่ผ่านมา

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 31, 2011 08:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--IR network บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS ปลื้มถึงเวลา Turn Around ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 11 ปี “ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ระบุเป็นผลมาจากทีมงานทุกคนที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ พร้อมเผยแผนการรุกธุรกิจปี 2554 เตรียมเพิ่มโปรดักส์ใหม่ อาทิ SBL และ DW เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนให้ลดต่ำลงอย่างมีประสิทธิภาพ ระบุเป้าหมายปีนี้ยังขอเป็นโบรกเกอร์ติดอันดับ TOP3 ของไทย มั่นใจผลประกอบการรอบปี 2554 เติบโตต่อเนื่องได้อย่างโดดเด่นจากปีที่ผ่านมา ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) เปิดเผยว่าขณะนี้เป็นเวลาแห่งการ Turn Around ของ บล.คันทรี่ กรุ๊ป โดยผลประกอบการในรอบปี 2553 เติบโตอย่างโดดเด่นโดยมีกำไรสุทธิจำนวน 194.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 886.48 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552 และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีกำไรสะสม จำนวน 386.31 ล้านบาท “ผลประกอบการของในรอบปี 2553 โดดเด่นอย่างมากและถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือหุ้นของ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลได้ โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรสะสมจากผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เพื่อจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยรอบปี 2553 บล.คันทรี่ กรุ๊ป มีกำไรต่อหุ้นที่ 0.084 บาทต่อหุ้น ซึ่งจุดนี้ถือเป็นการเริ่มต้นแห่งการ Turn Around ของ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ซึ่งแนวโน้มต่อจากนี้ไปคณะผู้บริหารมีความมุ่งมั่นที่จะบริหารงานและสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นไม่ให้แพ้ปีที่ผ่านมา” ทั้งนี้ CGS กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เมษายน 2554 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 20 เมษายน 2554 พร้อมกันนี้กำหนดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 ในวันที่ 8 เมษายน 2554 สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ CGS ในปีนี้จะมีการเพิ่มโปรดักส์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามนโยบายของการเป็นโบรกเกอร์ประเภท One Stop Service เช่น ธุรกิจ “SBL” คือ การยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ เพื่อให้สามารถบริการและตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร และ “Derivative Warrants” หรือที่เรียกว่าใบสำคัญแสดงสิทธิ์ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะบริหารต้นทุนให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำระบบเทคโนโลยี เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกในการทำงานมากขึ้นและช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญทีเดียว ดร.ประสิทธิ์ กล่าวต่อในช่วงท้ายว่าภาพโดยรวมของผลประกอบการในปี 2554 ของ CGS เชื่อว่าน่าจะขยับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2553 ที่ผ่านมา ตามภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยที่มีแนวโน้มขยับตัวดีเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยของบริษัทคาดว่า SET INDEX ปีนี้จะไต่ระดับขึ้นไปถึง 1200 จุดได้และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณกว่า 20,000 ล้านบาทต่อวันซึ่งจะทำให้รายได้ในส่วนของ Brokerage ขยับตัวดีตามไปด้วย พร้อมกันนี้ CGS ยังคงวางเป้าหมายไว้ว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ในอันดับต้นๆ ของประเทศโดยคาดว่า CGS จะยังอยู่ใน TOP3 เหมือนเช่นที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ