ยอดจองพื้นที่ งานบีโอไอแฟร์ 2011 ครบแล้ว 84 พาวิลเลียน กว่า 30 บริษัทชั้นนำ ร่วมลงนามเซ็นสัญญาจองพื้นที่

ข่าวทั่วไป Thursday March 31, 2011 09:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--บีโอไอ การจัดงาน บีโอไอ 2011 มียอดจองพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการกลางแจ้ง ริมทะเลสาบเมืองทอง ครบ 84 พาวิลเลียนแล้ว โดย 31 บริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมพิธีลงนามเซ็นสัญญาจองพื้นที่อย่างเป็นทางการ กระทรวงอุตสาหกรรมชู ไทยแลนด์ พาวิลเลียน และบีโอไอ พาวิลเลียน เป็น กรีน พาวิลเลียน เพราะออกแบบและก่อสร้างด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดพลังงาน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความพร้อม ในการจัดนิทรรศการ บีโอไอแฟร์ 2011 “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 — 25 พฤศจิกายน 2554 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดจองพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการในงาน บีโอไอแฟร์ 2011 ตั้งแต่ปลายเดือนปีที่ผ่านมา ขณะนี้ บริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ได้จองพื้นที่จัดแสดงศาลานิทรรศการกลางแจ้ง หรือ Outdoor Pavilion ครบจำนวน 84 พาวิลเลียนแล้ว และวันที่ 30 มีนาคม 2554 บริษัทชั้นนำ ที่ได้จองพื้นที่ ต่างก็เข้าร่วมพิธีลงนามสัญญาจองพื้นที่จัดแสดงในงานบีโอไอ รวมจำนวน 31 บริษัท จากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมกระดาษ และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แอนิเมชั่น เป็นต้น สำหรับการจัดแสดงศาลานิทรรศการกลางแจ้ง นอกจากจะมีการจัดแสดงศาลาของภาคเอกชนแล้ว ยังมีการจัดศาลาประเทศไทย หรือ ไทยแลนด์ พาวิลเลียน และศาลาบีโอไอ หรือ บีโอไอ พาวิลเลียน ด้วย โดยในส่วนของไทยแลนด์ พาวิลเลียน จะนำเสนอเรื่องการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนการออกแบบตัวอาคารจะเน้นความทันสมัย เรียบง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผสมผสานความเป็นไทย ส่วนการนำเสนอจะใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดีย ที่ทันสมัย ทำให้ผู้เข้าชมงานสามารถมีส่วนร่วมและโต้ตอบกับการนำเสนอ (Interactive) ได้ที่สำคัญ การออกแบบและเลือกใช้วัสดุก่อสร้างของไทยแลนด์ พาวิลเลียน จะสอดคล้องกับแนวคิดการจัดงาน และชื่องาน Going Green for the Future คือออกแบบและใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากร และนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งจะช่วยประหยัดพลังงานที่ใช้ตลอด 16 วันของการจัดแสดงด้วย วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำมาใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งไทยแลนด์ พาวิลเลียน ได้แก่ กระจกเขียวตัดแสง มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี UV และดูดกลืนพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ช่วยประหยัดค่าไฟในส่วนของเครื่องปรับอากาศ ส่วนภาพพิมพ์ที่ใช้ตกแต่ง จะใช้หมึกพิมพ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นน้ำหมึกชนิดอาบรังสีอัลตร้าไวโอเลต ไม่มีส่วนผสมสารละลายทางเคมีที่เป็นตัวทำละลายสภาวะสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ นอกจากนี้ จะมีการนำแผ่นกรีนบอร์ด เป็นวัสดุทดแทนไม้ ที่มีคุณสมบัติคล้ายไม้เนื้อแข็ง ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงได้ดี สามารถรับน้ำหนักและกันน้ำได้ดี รวมทั้งนำไม้อัดจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น เปลือกข้าว แกลบ เปลือกผลไม้ต่างๆ สำหรับการตกแต่งภายในอาคาร ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถกันน้ำได้ ด้านนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการบีโอไอ กล่าวถึงการจัดแสดง ศาลาบีโอไอ หรือ บีโอไอ พาวิลเลียน ว่า จะนำเสนอความสำเร็จของการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย จากอดีตถึงปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด คลื่นเทคโนโลยีขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งหมายถึง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เน้นการลดการใช้พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ การรักษาสิ่งแวดล้อม และการอยู่ร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชน รูปแบบการแสดงของบีโอไอ พาวิลเลียน จะใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียที่ทันสมัย อาทิ Interactive Wall, Interactive Floor อุโมงค์สามมิติ และการฉายภาพยนตร์สี่มิติ นอกจากนี้ บีโอไอ พาวิลเลียน จะถูกก่อสร้างด้วยโครงสร้างอาคารที่ไม่ใช่คอนกรีตเสริมแรง ที่หลังเสร็จงานต้องทุบทำลาย ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร และจะมีการนำผนังมีชีวิต Vertical garden มาใช้ เพื่อช่วยลดความร้อนจากภายนอก และพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ และยังนำผ้าใบทนไฟมาใช้ เพื่อช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์และความร้อนได้มากกว่า 90% นอกจากนี้ อาคารศูนย์ประสานงาน การจัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 หรือ Organizer Office หรือ ที่ทำการของคณะผู้จัดงานบีโอไอแฟร์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าการจัดแสดงศาลากลางแจ้ง ริมทะเลสาบ ก็จะห่อหุ้มด้วยไม้ไผ่ เพื่อลดการใช้ทรัพยากรในการก่อสร้างอาคารด้วย สำหรับรายชื่อบริษัทที่เข้าร่วมลงนามสัญญาจองพื้นที่ในครั้งนี้ จำนวน 31 บริษัท ประกอบไปด้วย แอร์โรคลาส จำกัด เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด แคนาดอล กรุ๊ป จำกัด บริษัท แคนนอน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด เจเนอรัล มอเตอร์ ประเทศไทย ฮิตาชิ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) คาวาวากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข็มเหล็ก จำกัด แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดสยามมิชลิน จำกัด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย พานาโซนิค แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ปตท. จำกัด (มหาชน) สามมิตร มอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (มหาชน) เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ไทย บริดจสโตน จำกัด ไทย ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด (มหาชน) ไทยซัมมิท แหลมฉบัง โอโตพาร์ท จำกัด ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โตชิบา ไทยแลนด์ โตโยต้า มอเตอร์ส์ ประเทศไทย จำกัด ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด วีนิไทย จำกัด (มหาชน)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ