กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของผู้บริหารของบริษัทในการรักษาสถานะผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ในภาวะที่การแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดีและกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีในช่วงการขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่า ตลอดจนความต้องการใช้บริการรถเช่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเอกชน ผลประกอบการทางธุรกิจและการเงินของบริษัทในปีงบประมาณ 2549 อ่อนตัวลงเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์ในประเทศและการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการรายใหม่ ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เอื้ออำนวยน้อยลงจะยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จำกัดความสามารถในการทำกำไรและการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทภัทรลิสซิ่งในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และสร้างผลประกอบการในระยะปานกลางได้ตามที่คาดหมายไว้ โดยบริษัทมีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาฐานลูกค้าสำคัญกลุ่มเดิมไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทภัทรลิสซิ่งสามารถรักษาฐานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์โดยในช่วงปี 2544-2548 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 30% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 25 รายที่บันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมีผลกดดันให้การขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่าและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอ่อนตัวลงเล็กน้อยในปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม 2548-กันยายน 2549) โดยยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่โดยเฉลี่ยของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 346 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปีงบประมาณ 2548 และ 215 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปีงบประมาณ 2549 อย่างไรก็ตาม ยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ของบริษัทได้ฟื้นตัวขึ้นถึง 525 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2550
บริษัทภัทรลิสซิ่งมีกำไรสุทธิในปีบัญชี 2549 เท่ากับ 173 ล้านบาท โดยลดลงจาก 182 ล้านบาทในปีบัญชี 2548 กำไรสุทธิของบริษัทสำหรับไตรมาสแรกของปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็น 72 ล้านบาทจากระดับ 45 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนแม้ว่ารายได้ค่าเช่าจากสัญญาเช่าดำเนินงานจะลดลงก็ตาม ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าและสินทรัพย์รอการขายเพิ่มขึ้น บริษัทขยายสินทรัพย์ด้วยการใช้เงินกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้มีระดับการก่อหนี้สูง การก่อหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในปีงบประมาณ 2548 และ 2549 เนื่องจากบริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเมื่อเดือนกันยายน 2548 และมีสินทรัพย์ให้เช่าลดลงในปีงบประมาณ 2549 ทริสเรทติ้งกล่าว