กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--เอสซีจี
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ การรู้จักนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาพัฒนาตนเองและสังคมได้โดยไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ วันนี้ เยาวชนผู้มีใจรักวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ SCG Sci-Camp เปิดมุมมองการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในโลกแห่งวิทยาศาสตร์ควบคู่การพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานเป็นกันเอง และพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์กันอย่างเต็มที่
ค่ายวิทยาศาสตร์เยาวชน SCG Sci-Camp รุ่นที่ 22 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ใช้ทรัพยากรคุ้มค่า พัฒนางานวิจัยสู่นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิต” โดยความร่วมมือระหว่างเอสซีจี คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คัดสรรเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีใจรักด้านวิทยาศาสตร์ จำนวน 100 คนทั่วประเทศ มาร่วมเปิดประสบการณ์เรียนรู้วิทยาศาสตร์นอกตำราที่สนุกสนานแตกต่างจากการเรียนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน เป็นระยะเวลา 8 วัน 7 คืน ส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสนใจวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาประเทศชาติให้เจริญอย่างยั่งยืน
นอกจากน้องๆ จะได้รับความรู้เชิงทฤษฎีจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว ยังได้ฝึกปฏิบัติจริงในห้องทดลอง ร่วมทำกิจกรรมภาคสนาม ตลอดจนทัศนศึกษาดูงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เยี่ยมชมศูนย์นวัตกรรมด้านกระดาษ เอสซีจี เปเปอร์ ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พร้อมศึกษาดูงานภูมิปัญญาท้องถิ่น และที่สำคัญคือ ได้เรียนรู้และพัฒนากระบวนการคิดและการแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้และแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ หากเด็กไทยสนใจเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น ประเทศไทยของเราคงพัฒนาได้ไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่นอน
น้องๆ จากทั่วประเทศ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์การเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ SCG Sci-camp อย่างน่าสนใจ...
พิมพ์ชนา บารมี หรือน้องขวัญ ประธานค่ายรุ่นที่ 22 จากโรงเรียนวิทยานุกูล จังหวัดเพชรบูรณ์ เล่าถึงแนวคิดในการนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในชุมชนของตนเองว่า “สิ่งที่เรียนรู้จากค่ายนี้ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ข้อเสียของน้ำอัดลม ที่ได้รู้ว่าเมื่อเราดื่มน้ำอัดลมเข้าไปแล้ว แต่เมื่อขับถ่ายออกมากลับมีสีไม่เหมือนกัน นั่นเป็นเพราะสีของน้ำอัดลมยังอยู่ในร่างกายเรา หรือเรื่องของการทำปุ๋ยชีวภาพ ที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เพราะที่บ้านปลูกผักสวนครัวอยู่แล้ว จึงตั้งใจจะนำสูตรและความรู้ที่ได้ไปทำปุ๋ยหมักใช้เอง เช่น ปุ๋ยที่ทำจากพืชสีสดจะช่วยเร่งดอก เป็นต้น และอยากฝากให้เพื่อนๆ มาสมัครเข้าค่ายกันเยอะๆ เพราะเป็นค่ายที่มีประโยชน์และสนุกสนาน ทำให้เข้าใจวิทยาศาสตร์ และเรียนรู้ว่าหากเราตั้งใจจริง สิ่งที่เราทำก็จะประสบความสำเร็จ”
กิตติวินท์ กำลังมาก หรือน้องหมูแดง จากโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก เล่าว่า “ดีใจมากที่ได้มาเข้าค่ายครั้งนี้ กิจกรรมสนุกสนานและได้ความรู้ ทำให้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ทั้งปัญหาเรื่องดิน น้ำ และขยะ และรู้แนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างถูกวิธี เช่น ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะ ถ้าหากเราศึกษาวิธีการคัดแยกขยะที่ถูกต้องเหมาะสม เช่น พลาสติกมีหลายประเภท หากเราแยกประเภทและนำไปขาย ก็จะได้ราคาดีกว่าไม่แยก ความรู้ที่ได้จากการเข้าค่ายจึงเป็นความรู้ที่สามารถนำไปใช้รักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยโลกของเราได้”
ไท กลัดอยู่ หรือน้องไท จากโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ เล่าถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าค่ายว่า “การร่วมกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ ทำให้รู้จักสังเกต นำความรู้ที่ได้มาใช้ในชีวิตจริงได้ เพราะวิทยาศาสตร์อยู่รอบๆ ตัวเรา ทำให้เข้าใจการจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติ วิธีการง่ายๆ ที่ช่วยลดโลกร้อน และทำให้เห็นคุณค่าของทรัพยากร นอกจากนี้สิ่งที่ประทับใจที่สุดของค่ายนี้ก็คือ ช่วยปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้”
อรทัย กุลชนะจรูญ หรือน้องแอน จากโรงเรียนศึกษานารี จังหวัดกรุงเทพฯ เล่าถึงความรู้สึกที่มาเข้าค่ายว่า “ประทับใจพี่ๆ และเพื่อนๆ มาก ทุกคนใจดีและดูแลดีมาก หากิจกรรมสนุกๆ มาให้เล่นตลอด นอกจากนี้ ยังได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ จากทั่วประเทศ ได้ทำกิจกรรมและเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน การมาเข้าค่ายครั้งนี้ จึงเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งยังได้รู้จักทรัพยากรธรรมชาติรอบๆ ตัว และเรียนรู้ที่จะไม่ทำร้ายธรรมชาติอีกด้วย”
ค่ายวิทยาศาสตร์ SCG Sci-camp ในรูปแบบที่ให้เยาวชนได้เข้าไปสัมผัสด้วยประสบการณ์จริง ถือเป็นการบ่มเพาะองค์ความรู้ใหม่ๆ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเกิดความสนใจเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เอสซีจีพร้อมที่จะสนับสนุนเยาวชนไทยให้พัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ทุกคนคือกำลังสำคัญของการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในอนาคต