กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--สสปน.
สสปน. ต่อยอดโครงการ “Believe in Thailand” ย้ำความเชื่อมั่นและศักยภาพของประเทศไทยในการจัดประชุมนานาชาติกับกลุ่มสื่อมวลชนต่างชาติ พร้อมให้การสนับสนุนเต็มรูปแบบกับการจัดงานประชุมนานาชาติ “Publish Asia 2011” จัดโดยสมาคมหนังสือพิมพ์และองค์กรสื่อระหว่างประเทศ หรือ WAN-IRFA ซึ่งจะจัดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2554 โดยจะมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรสื่อต่างๆ ตลอดจนผู้สื่อข่าวต่างชาติในภูมิภาคเอเชียเข้าร่วมงานกว่า 400 คน พร้อมให้เป็นหนึ่งในการประชุมครั้งสำคัญที่จะตอกย้ำความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของประเทศไทยในสายตาชาวโลก เพื่อปูทางไปสู่การประมูลสิทธิ์จัดงานมหกรรมเวิล์ดเอ็กโป 2020
“Publish Asia 2011” เป็นการประชุมเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์และหนังสือพิมพ์ประจำปีที่สำคัญมากที่ถูกจัดขึ้นในแถบเอเชียแปซิฟิค จัดโดยสมาคมหนังสือพิมพ์และองค์กรสื่อระหว่างประเทศ หรือ WAN-IFRA ประกอบด้วย ประธานเจ้าหน้าบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บรรณาธิการอำนวยการ บรรณาธิการ ผู้บริหารระดับสูง ผู้บรรยาย ซึ่งมาจากแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียเหนือ เอเชียใต้ ยุโรป และอเมริกา โดยจัดขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 11 ภายใต้หัวข้อ “Driving future-proof media growth”
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวว่า “โครงการสนับสนุนการจัดประชุมนานาชาติ “Publish Asia 2011” เป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินการที่สำคัญภายใต้โครงการ “Believe in Thailand” ซึ่ง สสปน. ได้ริเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมประจำปีครั้งสำคัญที่ผู้บริหารองค์กรสื่อต่างๆ และผู้สื่อข่าวในเอเชียจะมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวโน้มด้านสื่อมวลชน โดย สสปน. เล็งเห็นถึงความสำคัญและถือเป็นโอกาสอันดียิ่งในการดำเนินโครงการสำคัญ “Believe in Thailand” เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นและศักยภาพของประเทศไทยในอุตสาหกรรมไมซ์ไปสู่สายตาสื่อมวลชนระดับนานาชาติ
“การที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดประชุมนานาชาติ Publish Asia 2011 เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จจากการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้โครงการ Believe in Thailand ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของประเทศไทยที่เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ 3 ประการ ได้แก่ 1) ความพร้อมของประเทศไทยสำหรับธุรกิจไมซ์ ทั้งความเป็นมืออาชีพในการให้บริการ และสถานที่จัดการประชุมซึ่งได้มาตรฐานระดับโลก 2) ความหลากหลายของสถานที่จัดการประชุม ที่ตั้งอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ซึ่งพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ชะอำ รวมถึงอีก 4 สถานที่สำคัญได้แก่ เขาใหญ่,หาดใหญ่, สมุย, กาญจนบุรี และประการสุดท้ายคือ 3) โอกาสทางธุรกิจมากมาย ที่จะเป็นการต่อยอดนำไปสู่การค้าและการลงทุน รวมถึงการสร้างรายได้ให้กับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ
นายอรรคพล กล่าวต่อว่า การสนับสนุนของ สสปน. ในการจัดประชุมนานาชาติ Publish Asia 2011 ประกอบด้วยกิจกรรมหลักๆ ได้แก่ กิจกรรมกอล์ฟของเหล่าผู้บริหารระดับซีอีโอ, งานมอบรางวัลและกาล่า ดินเนอร์, โดยสถานที่การจัดงานเป็นโรงแรมแชงกรีล่า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าประชุมซึ่งเป็นผู้บริหารองค์กรสื่อ ตลอดจนสื่อมวลชนทั้งสิ้นกว่า 400-500 คน จากในภูมิภาคเอเชีย โดยเชื่อว่างานในครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมไมซ์ไทยของสื่อมวลชนนานาชาติ รวมถึงการยืนยันความพร้อมของประเทศไทยในการจัดงานใหญ่ระดับโลก ได้แก่ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานเวิล์ดเอ็กโป 2020 ปลายปีนี้
นายพิชาย ชื่นสุขสวัสดิ์ สมาชิกบริหาร และประธานคณะกรรมการ สมาคมหนังสือพิมพ์และองค์กรสื่อสิ่งพิมพ์ระหว่างประเทศ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ WAN-IFRA Asia Pacific กล่าวว่า “การประชุมนานาชาติ Publish Asia จัดขึ้นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2543 ซึ่งกรุงเทพมหานครเคยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมมาแล้ว 2 ครั้ง โดยประเทศในทวีปเอเชียที่เคยจัดงานนี้ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเดิมที่คณะกรรมการมีได้เลือกประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ตั้งแต่ปี 2552 ในงานประชุม Publish Asia 2009 แต่ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบในตอนนั้นส่งผลให้ต้องเลื่อนแผนการจัดการประชุมในประเทศไทยออกไป โดยงานประชุม Publish Asia 2009 จัดขึ้น ณ เมืองเชนไน ประเทศอินเดีย และล่าสุด Publish Asia 2010 จัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ การเจรจา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในปีที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่มั่นคงของประเทศไทยในเดือนพฤษภาคมที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว จึงทำให้ประเทศมาเลเซียตัดสินใจที่จะพยายามเสนอตัวจัดการประชุม “Publish Asia 2011” อีกครั้ง ในขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์สำคัญของอินโดนีเชียต่างก็ต้องการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ประเทศไทยประสบความสำเร็จและได้รับความเชื่อมั่นให้จัดงาน “Publish Asia 2011” จากความพยายามกว่า 2 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าด้วยการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนทั้งการบินไทย จำกัด มหาชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสสปน. เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสได้จัดงานนี้”
นายพิชาย กล่าวเสริม ถึงรายละเอียดการจัดงานในครั้งนี้ว่า “การประชุมนานาชาติ “Public Asia 2011” ประกอบด้วยการประชุมสุดยอดด้านการข่าว (Newsroom Summit) เพื่อร่วมกันค้นหาแนวคิดก้าวหน้าด้านการสื่อสาร, การพัฒนาด้านการผลิตและเทคโนโลยีในการประชุมสุดยอดด้านการพิมพ์ (Printing Summit) พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มหัวข้อใหม่ คือ การประชุมสุดยอดด้านโฆษณา (Advertising Summit) โดยมีประเด็นสำคัญ คือ โอกาสในการผสานการใช้สื่อต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการมอบรางวัล WAN-IFRA Asia ครั้งที่ 10 อีกด้วย”
มร. กิลเลส เดมโตส ผู้อำนวยการด้านสื่อสิ่งพิมพ์และการจัดงาน ผู้แทนสมาคมนักหนังสือพิมพ์ และผู้ผลิตสิ่งพิมพ์ระดับโลกประจำภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก (WAN-IFRA Asia Pacific) กล่าวว่า “การตัดสินใจจัดงานประชุมนานาชาติ Publish Asia 2011 ที่กรุงเทพ นั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศไทยนั้นมีความโดดเด่น และมีสื่อสิ่งพิมพ์อยู่มากมายที่มีการแข่งขันกันสูงมาก เราเชื่อมั่นว่ากรุงเทพยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ดึงดูดสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความมีมิตรไมตรีจิตของคนไทย นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าดึงดูดใจในเรื่องราคา ผนวกกับความหลากหลายทั้งความเป็นเมืองที่มีความบันเทิงในด้านต่าง ๆ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมรักที่จะเดินทางมายังกรุงเทพ และมีการตอบรับการเข้าร่วมงานประชุมเป็นจำนวนที่น่าพอใจมาก
ทั้งนี้ จากการสนับสนุนของหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สสปน. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บางกอกโพสต์ และการบินไทย จำกัด มหาชน จะช่วยส่งเสริมให้สามารถจัดงานในครั้งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งนับว่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจมาจัดงานที่กรุงเทพในครั้งนี้” มร. กิลเลส กล่าวทิ้งท้าย
การประชุมนานาชาติประจำปี “Public Asia 2011” จึงเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองครั้งสำคัญจากบุคคลในแวดวงสื่อสารมวลชน ที่ไม่นับแต่จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรสิ่งพิมพ์และสื่อมวลชนของประเทศไทยที่จะได้เรียนรู้แง่มุมต่างๆ ด้านสื่อสารมวลชนในระดับนานาชาติเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการสร้างโอกาสในการขยายเครือข่ายระหว่างองค์กรสื่อ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยสู่สายตาต่างชาติ และยังเป็นการยืนยันความพร้อมและความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยในฐานะเป้าหมายในการจัดงานประชุมนานาชาติของภูมิภาคเอเซีย โดยการประชุมครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2554 ณ โรงแรมแชงกรีลา กรุงเทพ